วันนี้ (15 มี.ค.) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่า ความเป็นจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และจะเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจบ้านเราแบบเจ๊งระเนระนาด สิ่งที่ตายแน่ๆ ก่อนเลย คือ SME ตายแน่นอน นักลงทุนก็ต้องหนีไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะค่าแรงถูกกว่า จะเกิดภาวะเงินเฟ้อ สินค้าหลายตัวจะขึ้นราคาแบบทะลุทะลวง ก๋วยเตี๋ยวจะขึ้นราคาถึงชามละ 100 บาท หรือมากกว่านั้น และที่สำคัญเงินก็จะไหลไปเข้ากระเป๋านายทุนหน้าเดิมๆ เช่นเคย
“เราจะได้ยินข่าว ผู้รับเหมาที่ตกลงราคากันไว้แล้ว ก็จะทิ้งงาน ใครที่กำลังสร้างบ้านสร้างคอนโดมิเนียม ก็จะต้องหยุดชะงัก ปล่อยให้เป็นตึกร้าง เพราะจ้างแรงงานที่สูงลิ่วไม่ไหว ผู้ใช้แรงงานที่วาดฝันว่า จะได้ค่าแรงมากขึ้น กลับจะไม่มีใครจ้างงานซะมากกว่า และเมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่ เกิดภาวะเงินเฟ้อ ค่าครองชีพพุ่งสูงลิ่ว แน่นอนว่าเงินเดือนนักศึกษาที่จบปริญญาตรี ก็ต้องขยับปรับขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอาจจะถึงเดือนละ 2 หมื่นบาท ฟังดูเหมือนจะเป็นผลดีกับน้องๆ นักศึกษา” นายมิ่งขวัญ กล่าว
หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ กล่าวต่อว่า ถ้าจะมองกันยาวๆ มันมีผลเสียมากกว่า เพราะแค่ปัจจุบันเงินเดือนระดับปริญญาตรี 15,000 บาท น้องๆ ยังเดินเตะฝุ่นตกงานกันเป็นแถว และถ้ากระโดดพุ่งขึ้นไปถึง 2 หมื่นจริง ก็คงเป็นแค่ตัวเลขแบบเพ้อฝันเท่านั้น เพราะจะไม่ได้เงินจริงตามฝัน แต่กลับจะยิ่งตกมากขึ้นมากกว่า โอกาสที่น้องๆ จะได้งานทำก็จะยิ่งริบหรี่ลง
นอกจากนี้ นายมิ่งขวัญ ยืนยันว่า ผิดกับนโยบายลดราคาน้ำมัน ลดค่าไฟฟ้า ของพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่จับต้องได้ ทำได้จริง และทำได้ทันที เพราะไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งทุกคนจะมีความสุขทันที ที่สำคัญเงินในกระเป๋าจะมีค่ามากขึ้น เมื่อค่าใช้จ่ายประจำเดือนลดลง ทำให้เหลือเงินที่สามารถไปจับจ่ายซื้อข้าวของอื่นตามที่ต้องการ แถมไม่กระทบผู้ประกอบการ SME ไม่เดือดร้อนผู้รับเหมา และยิ่งจะทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เพราะต้นทุนหลายอย่างลดลงจริง
โดยจะประกาศลดราคาน้ำมันลิตรละ 5-10 บาท เช่น E 10 ลดราคา 5 บาท E 20 ลด 10 บาท และน้ำมันดีเซลลดราคา 5 บาท เป็นต้น เพราะค่าครองชีพทุกอย่างมีราคาน้ำมันรวมอยู่ด้วยกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ค่าเครื่องดื่ม การขนส่งและคมนาคม รวมไปถึงค่าไฟฟ้าที่จะลดราคามากถึง 25-30% หรือลดลงหน่วยละ 1 บาทอีกด้วย สำหรับการออกมาประกาศนโยบายลดราคาน้ำมันนี้ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า จะไม่มีการใช้งบประมาณแผ่นดิน ทั้งแก๊สโซฮอล์ E10, E20 และดีเซล แต่จะมีการใช้พลังงานทดแทนเข้ามาลดต้นทุน เป็นพืชผลทางการเกษตร อาทิ อ้อย มันสําปะหลัง ปาล์มน้ำมัน จึงจะทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรเหล่านี้ มีราคาเพิ่มสูงขึ้นด้วย
ขณะที่หลายฝ่ายเกิดคำถามว่าจะทำได้จริงหรือไม่ นายมิ่งขวัญ ยืนยันว่า ทำได้และขอให้ประชาชนอย่ากังวลว่าประเทศจะขาดรายได้ เพราะราคาน้ำมันที่ถูกลงนั้นมาจากค่าการตลาดที่ถูกลง ถึงเวลาที่นายทุนบางกลุ่มจะต้องเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขแล้วคืนความสุขให้คนไทยด้วยกัน อย่าค้ากำไรเกินควร นอกจากนี้แล้วเรื่องกองทุนน้ำมัน ตนเองเสนอให้มีการตั้งคลังน้ำที่ชายแดน เพื่อส่งออกไป 5 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า และจีนยูนนาน เพื่อจะดึงรายได้จากตรงนี้มาชดเชยนโยบายลดราคาน้ำมัน ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยจัดหาที่ชดเชยให้เขาให้ใกล้เคียงทำเลเดิมที่เขาอยู่แม้ว่ารายได้จากภาษีน้ำมันลดลง แต่เราสามารถไปเพิ่มรายได้จากทางอื่นได้ พรรคเศรษฐกิจใหม่มีนโยบายการหาเงินข้าประเทศทุกทิศทางอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว การสงวนอาชีพมัคคุเทศก์และการค้าออนไลน์สำหรับคนไทย เพื่อป้องกันเงินรั่วไหลออกไปนอกประเทศที่มากกว่างบประมาณแผ่นดินอย่างเช่นที่ผ่านมา
นายมิ่งขวัญ ยังกล่าวย้ำว่า การหาเงินเข้าประเทศยังมีการส่งเสริมการลงทุนให้ต่างชาติเข้ามามีฐานการผลิตในประเทศไทยด้วย อย่างนิคมอุตสาหกรรมชายแดน เมืองผลิตยาและเมืองโรงพยาบาลของโลก ซึ่งทุกนโยบายของพรรคเศรษฐกิจใหม่จะทำให้คนไทยมีความสุข ประเทศมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อย่างการลดราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า นั้นคือ การคืนเงินคืนความสุขให้ประชาชนได้ทันที