“เรืองไกร” หอบคำพิพากษามอบ กกต. คดีอัยการฟ้อง “บก.ลายจุด” ยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าพนักงาน ถือเป็น จนท.รัฐ ต้องตัดชื่อจากแคนดิเดตนายกฯ พร้อมอ้างตนเองเป็นอดีต ขรก.สตง.รู้ดี สอบโต๊ะจีน พปชร.ยังไม่เรียบร้อย กกต.ต้องสอบให้ละเอียด จ่อยื่นอีก “ลุงตู่” ครอบงำ พปชร. ชงนโบยบายให้พรรค
วันนี้ (12 มี.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้เร่งพิจารณาคำร้องที่ตนเองได้ยื่นขอให้ตรวจสอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช. เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (15) ในการได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเนตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะนับตั้งแต่ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 11 ก.พ. จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับการแจ้งผลความคืบหน้าการดำเนินการใดๆ จาก กกต.เลย ทั้งที่เรื่องดังกล่าวไม่ควรจะใช้เวลาเนิ่นนาน
นายเรืองไกรยังได้นำคำพิพากษาศาลแขวงดุสิต ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา กรณีพนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานอัยการสูงสุดยื่นฟ้องนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด จากเหตุไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.มามอบให้ กกต.ด้วย เนื่องจากเห็นว่านายสมบัติได้ต่อสู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช.ไม่ใช่เจ้าพนักงานนั้น แต่ศาลพิพากษาว่าที่จำเลยอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช.ไม่ใช่เจ้าพนักงานนั้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช.มีอำนาจดำเนินการต่างๆ ตามกฎหมาย จึงเป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจออกคำสั่งให้จำเลยมารายงานตัว และเมื่อไปค้นฎีกาอื่นที่ตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมายในประเด็นเจ้าพนักงานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ ก็มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2322-2323/2561 กรณีอาจารย์มหาวิทยาลัยรามคำแหงถูกลูกศิษย์ฟ้องบังคับให้ชำระค่าสินไหมทดแทน ซึ่งศาลฎกีาได้พิพากษาว่าเจ้าพนักงานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ นอกจากนี้ ในปี 58 มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเพิ่มนิยามของคำว่า “เจ้าพนักงาน” ว่า ไม่ว่าจะเป็นประจำหรือครั้งคราวหรือจะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ ก็ถือว่าเป็นเจ้าพนักงาน ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองเอง ดังนั้น จากคำพิพากษา และกฎหมายต่าง จึงชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช.เป็นเจ้าพนักงานและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (15) ที่เป็นลักษณะต้องห้ามในการเป็นผู้เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จึงขอให้ กกต.รีบพิจารณาถอนชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ออกจากบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ
นายเรืองไกรยังกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐว่า เท่าที่ตรวจสอบเอกสารพบว่ายังมีการจัดทำบัญชีไม่เรียบร้อย และดูท่าจะปิดบัญชียาก จึงอยากฝากให้ กกต.ตรวจสอบให้ละเอียดอย่าลืมว่าตนในฐานะผู้ร้องเป็นอดีตข้าราชการ สตง. และหลังจากนี้ก็จะยังตรวจสอบเรื่องการเป็นสมาชิกพรรคของคนอื่นในพรรคพลังประชารัฐ หลังได้รับการชี้แจงมติ กกต.เรื่องนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ซึ่งพบว่าในวันที่เปิดตัวกรรมการบริหารพรรคที่ รร.แชงกรี-ลา มีหลายคนที่ตรวจสอบจากเลขบัตรประชาชนแล้วไม่พบว่าเป็นสมาชิกพรรค รวมถึงกรณีที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคระบุว่า นโยบายของพรรค พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนคิด ถ้าเป็นเช่นนี้จะเข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค