อัดงบกลางเพิ่ม 400 ล้าน มหากาพย์ จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์สาธารณภัย โครงการร่วม “มหาดไทย-กองทัพบก” 2 ลำ วงเงิน 1.7 พันล้าน ที่รัฐบาลไฟเขียวตั้งแต่ปี 2560 เพิ่มเป็น 1.8 พันล้าน พร้อมขยายโครงการจากเดิมจาก 2 ปี เป็น 4 ปี ถึงปี 2564 เผยผลประกวดราคา รอบแรกล้ม เหตุผู้ชนะเสนอราคาสูงกว่างบกลาง 162 ล้าน แถมประมูลรอบสองสูงเท่าเดิม เหตุต้องติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ แถมต้องจ่ายภาษีสูงกว่าหน่วยงานความมั่นคงจัดหายุทโธปกรณ์ ที่ได้รับการยกเว้นชำระภาษี ปภ.อ้าง หากต้องประกวดราคาใหม่ ต้องใช้ระยะเวลา-ทำให้ล่าช้า
วันนี้ (10 มี.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงมหาดไทย ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยอนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติมวงเงิน วงเงิน 400,239,486 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับจ่ายเงินล่วงหน้า และค่างานงวดที่ 1 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ส่วนที่เหลือผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2564
เพื่อดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่าง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย กับกองทัพบก ในการจัดหาอากาศยานปีกหมุน (Helicopter) เพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสาธารณภัย จำนวน 2 ลำ จากวงเงิน 1,700,000,000 บาท เป็นวงเงิน 1,862,475,956 บาท และให้เพิ่มวงเงินงบประมาณเพื่อขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการดังกล่าวข้างต้น จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2560-2562 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2560-2564
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้ประกาศประกวดราคาซื้อโครงการ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยใช้เกณฑ์ราคาในการพิจารณาในวงเงินลำละ 850,000,000 บาท รวมวงเงินงบประมาณ 1,700,000,00 บาท (ราคากลาง 1,730,000,000 บาท จำนวน 2 ครั้ง)
ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนธันวาคม 2560 บริษัท ดาต้าเกท จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคา ในวงเงิน 1,862,500,956 บาท เกินกว่าวงเงินงบประมาณ 162,500,946 บาท ซึ่งเพื่อความรอบคอบ และเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ กรมฯ จึงได้ยกเลิกการประกวดราคาดังกล่าว ล่าสุด ครั้งที่ 2 เมื่อเดือนมิถุนายน 2561 โดยใช้รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางเดิม และบริษัท ดาต้าเกท จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคาเช่นเดิม เป็นเงิน 1,862,475,946 บาท เกินกว่าวงเงินงบประมาณ 162,475,956 บาท
“คิดเป็นร้อยละ 9.46 กำหนดส่งมอบ 900 วัน นับจากวันลงนามในสัญญา ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ดำเนินการต่อรองราคาแล้ว และผู้ชนะประกวดราคารายการดังกล่าวยืนยันว่า ราคาที่เสนอเป็นราคาที่ตํ่าสุดไม่สามารถลดราคาได้อีก เนื่องจากกระบวนการจัดหาผู้ชนะประกวดราคาได้ลดราคาลง และยืนยันราคาในวงเงิน 1,862,475,956 บาท โดยมีเหตุผลสำคัญไม่สามารถปรับลดได้”
รายงานข่าวระบุว่า สำหรับสาเหตุที่ไม่สามารถลดราคาได้ บริษัทผู้ชนะประกวดราคา อ้างว่า อากาศยานปีกหมุน มีการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษที่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจ และมีเทคโนโลยีระบบควบคุมการบินอัตโนมัติ ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมนักบินและบุคลากรเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายด้านภาษีซึ่งแตกต่างจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของการจัดหาในลักษณะยุทโธปกรณ์ซึ่งได้รับการยกเว้นการชำระภาษี
“จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น หาก ปภ.ต้องประกวดราคาใหม่ ต้องใช้ระยะเวลา อาจทำให้ล่าช้า จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดำเนินการจัดชื้อในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการปฏิบัติการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย๋สินของประชาชน จึงได้เสนอสำนักงบประมาณ พิจารณาความเหมาะสมของราคาจัดชื้อรายการดังกล่าว ในวงเงิน 1,862,475,956 บาท”
ด้าน สำนักงบประมาณ มีความเห็นต่อโครงการนี้ว่า สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560-2561 ซึ่งได้รับจัดสรรไว้ วงเงิน 1,862,475,956 บาท สำหรับดำเนินโครงการดังกล่าวที่ถูกพับไป เมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ประกาศใช้บังคับ และ ปภ.ได้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยโอนเปลี่ยนแปลงรายการ จากปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 651,866,584.60 บาท ปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 465,618,989 บาท และปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 744,990,682.40 บาท
“แต่เนื่องจากแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 ของ ปภ. ไม่มืงบประมาณเพียงพอ ที่จะปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย งบประมาณรายจ่ายปี 2562 เพิ่อดำเนินโครงการด้งกล่าวได้ จึงเสนอลำนักงบประมาณ ขอใช้งบประมาณเหลือจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 28,129,984 บาท และขอรับการสนับสมุนงบประมาณ รายจ่ายงบกลาง มาสมทบอีก 623,736,600 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายการด้งกล่าวในปีงบประมาณ 2562 ลำหรับส่วนที่เหลือ จำนวน 1,210,609,371.40 บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2563-2564
ต่อมา สำนักงบประมาณ อนุมัติให้ ปภ.โอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณปี 2562 ที่มีงบประมาณเหลือจ่ายจากการดำเนินงานบรรลุวัตลุประสงค์แล้ว วงเงิน 28,129,984 บาท และนายกรัฐมนตรี ได้เห็นซอบให้ ปภ. ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2561 งบกลาง รายการเงินลำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเอินหรือจำเป็น วงเงิน 400,239,486 บาท เพื่อสมทบเป็นค่าใช้จ่ายโครงการลำหรับจ่ายเงินล่วงหน้า และค่างานงวดที่ 1 ส่วนที่เหลือผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563-2564
โครงการนี้ เริ่มต้นในสมัย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบัน ยังดำรงตำแหน่งอธิบดี ปภ. หลังจากรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณในการจัดหา 2 ลำ วงเงินที่รับการจัดสรร 1,732,000,000 บาท (ราคาต่อลำ 866 ล้านบาท) ในลักษณะของการผูกพันงบประมาณระยะ 3 ปี (2560-2562) โดย กระทรวงมหาดไทย ได้ประสานความร่วมมือกับกองทัพบก ในรูปแบบที่ ปภ.เสนอขอจัดตั้งงบประมาณดำเนินการจัดหาตามระเบียบพัสดุฯ และใช้ประโยชน์ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่วนของกองทัพบกให้การสนับสนุนการเตรียมนักบิน การซ่อมการซ่อมบำรุง และการดูแลอากาศยาน