สนช.แจงตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยขับเคลื่อนไปสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม เพิ่มศักยภาพตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ ยันไม่กระทบเสรีภาพทางวิชาการ
วันนี้ (6 มี.ค.) นายชูศักดิ์ ลิ่มสกุล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ... แถลงภายหลังร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม สนช.เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า การจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยขับเคลื่อนไปสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม ที่ต้องอาศัยการพัฒนางานวิจัย การพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะทาง เพื่อที่จะทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ เชื่อมโยงทั้งด้านการศึกษา และวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ การจัดตั้งกระทรวงใหม่สืบเนื่องจากคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ของประเทศ
ด้านนายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน รองโฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวถึงสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ ในส่วนของสถาบันอุดมศึกษาทั้งของรัฐ และเอกชน ยังคงมีอิสระในเรื่องของเสรีภาพทางวิชาการ และการบริหารงาน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคืองานวิจัยจะทำร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพ ส่วนที่เสริมเข้ามาต่างจากกฎหมายเดิม คือ ที่ผ่านมาได้ให้เสรีภาพอิสระกับมหาวิทยาลัย แต่ปรากฏว่ามหาวิทยาลัยบางแห่งการบริหารงานไม่เป็นตามหลักธรรมาภิบาล กฎหมายใหม่จึงให้อำนาจหน้าที่รัฐมนตรีเข้าไปดำเนินการได้ แต่ว่ารัฐมนตรีจะใช้อำนาจเท่าที่จำเป็น และอยู่ภายใต้การแนะนำของคณะกรรมการการอุดมศึกษา ดังนั้น บุคลากรทางการศึกษาจึงไม่ต้องหวั่นไหว เพราะทุกอย่างสามารถดำเนินการได้ตามปกติ