พปชร.ปลุกกระแส กทม.โค้งสุดท้าย ชู 30 ผู้สมัครคนรุ่นใหม่ ไร้เล่ห์เหลี่ยมการเมือง “อุตตม” รับสนาม กทม.มีเจ้าถิ่น-ไม่หมู แต่ขอทำดีที่สุด ด้าน “สนธิรัตน์” มั่นใจกระแสพรรคดี ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่ “มาดามเดียร์” วอนทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้ง ร่วมกันเดินไปข้างหน้า
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ กทม. น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. 30 คน พร้อมโชว์วิสัยทัศน์และนโยบายสำหรับพื้นที่ กทม.ทั้ง 5 ด้าน คือ นโยบายเกี่ยวกับขนส่งไร้รอยต่อ, นโยบายเศรษฐกิจติดสปีด, นโยบายเมืองปอดสะอาด, นโยบายความปลอดภัยใกล้ตัว และนโยบายสร้างสุขคนกรุง
ขณะที่ตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.กทม.นำเสนอนโยบายแต่ละด้าน ได้แก่ นายไกรเสริม โตทับเที่ยง นำเสนอนโยบายเกี่ยวกับขนส่งไร้รอยต่อ นายศันสนะ สุริยะโยธิน นโยบายเศรษฐกิจติดสปีด น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ นโยบายเมืองปอดสะอาด น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ นโยบายความปลอดภัยใกล้ตัว และนายณริช ผลานุรักษา นโยบายสร้างสุขคนกรุง
ขณะที่ นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐมีพลัง เห็นได้จากการตอบรับของประชาชน และคู่แข่งทางการเมือง ที่สำคัญพรรคมุ่งหวังเป็นเวทีให้คนรุ่นใหม่ก้าวเข้ามาทำงานการเมืองให้ประเทศไทย ให้คนไทย ด้วยการรวมพลังกับคนอีกหลากหลาย ทั้งรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์การเมืองและคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ เราคิดทำนโยบายดีๆ ให้คนไทย โดยเฉพาะ กทม.เรามีนโยบาย Bangkok ok 5 ด้าน เรามีนโยบายที่โดนใจ เป็นรูปธรรม ทำได้จริง และหากได้เป็นรัฐบาล เราก็จะทำทันที
“วันนี้พวกเราก้าวเข้ามาแล้ว ขอให้มั่นใจว่าไม่น้อยหน้าใคร แม้การแข่งขันใน กทม.จะไม่หมู เพราะมีเจ้าของพื้นที่เดิมอยู่ แต่ก็ต้องทำให้ดีที่สุดอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้คน กทม.” นายอุตตม กล่าว
ด้าน นายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า พรรคพลังประชารัฐ พร้อมแล้วที่จะขอคะแนนช่วงโค้งสุดท้ายจากพี่น้องชาว กทม.เพื่อเปลี่ยน กทม.ไปกับพวกเรา พรรคเราเกิดภายใต้รัฐธรรมนูญ ผ่านมาจนถึงวันนี้กระแสของพรรคดีวันดีคืน เราทุ่มเท จริงใจ มีคนที่มีความรู้ความสามารถ มีนโยบายที่ดี ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของเราบางเขตช่วงเปิดตัวใหม่ๆ เคยอยู่อันดับ 2-3 แต่วันนี้สามารถขยับขึ้นมาตีคู่พรรคคู่แข่ง ดังนั้น จึงเชื่อว่า เร็วๆ นี้ ผู้สมัครของพลังประชารัฐ จะชนะใจคน กทม.เพราะเป็นคนมีคุณภาพมาด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง ตั้งใจรับใช้ชาติ และประชาชน อย่างแท้จริง
“ไม่ใช่แค่ กทม.แต่ทั่วประเทศวันนี้พรรคพลังประชารัฐกระแสมาแรงมาก แม้จะมีข้อมูลออกมาทำให้หวั่นไหว แต่พรรคของเราทำโพลมาตลอด จึงขอให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน” นายสนธิรัตน์ กล่าว
น.ส.วทันยา กล่าวตอนหนึ่งว่า กทม.มีความหลากหลายของเชื้อชาติ วัฒนธรรม อาหารการกิน จึงทำให้มีปัญหาที่หลากหลาย ซึ่งพรรคของเราเข้าใจปัญหานั้นดี จึงคัดสรรบุคลากรที่ดีมีความรู้ความสามารถ ตอบโจทย์ทุกปัญหาผ่านการทำงานจริง จึงมั่นใจว่า ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ตอบโจทย์การแก้ปัญหาให้คน กทม.ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ เรายังมีนโยบายที่ทำได้จริง ทำได้ทันที เพื่อเป็นทางออกให้คน กทม. ทางออกให้คนทั้งประเทศ
“วันนี้เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ก้าวไปข้างหน้า เลิกทะเลาะ ยุติความขัดแย้ง ประเทศต้องไปต่อ รอไม่ได้ และที่สำคัญเราต้องรักชาติ รักสถาบัน และรักคนไทยด้วยกัน เพราะเราจะมาถึงวันนี้ไม่ได้ ถ้าไม่มีแผ่นดินไทย” น ส.วทันยา ระบุ
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ กทม. น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. 30 คน พร้อมโชว์วิสัยทัศน์และนโยบายสำหรับพื้นที่ กทม.ทั้ง 5 ด้าน คือ นโยบายเกี่ยวกับขนส่งไร้รอยต่อ, นโยบายเศรษฐกิจติดสปีด, นโยบายเมืองปอดสะอาด, นโยบายความปลอดภัยใกล้ตัว และนโยบายสร้างสุขคนกรุง
ขณะที่ตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.กทม.นำเสนอนโยบายแต่ละด้าน ได้แก่ นายไกรเสริม โตทับเที่ยง นำเสนอนโยบายเกี่ยวกับขนส่งไร้รอยต่อ นายศันสนะ สุริยะโยธิน นโยบายเศรษฐกิจติดสปีด น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ นโยบายเมืองปอดสะอาด น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ นโยบายความปลอดภัยใกล้ตัว และนายณริช ผลานุรักษา นโยบายสร้างสุขคนกรุง
ขณะที่ นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐมีพลัง เห็นได้จากการตอบรับของประชาชน และคู่แข่งทางการเมือง ที่สำคัญพรรคมุ่งหวังเป็นเวทีให้คนรุ่นใหม่ก้าวเข้ามาทำงานการเมืองให้ประเทศไทย ให้คนไทย ด้วยการรวมพลังกับคนอีกหลากหลาย ทั้งรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์การเมืองและคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ เราคิดทำนโยบายดีๆ ให้คนไทย โดยเฉพาะ กทม.เรามีนโยบาย Bangkok ok 5 ด้าน เรามีนโยบายที่โดนใจ เป็นรูปธรรม ทำได้จริง และหากได้เป็นรัฐบาล เราก็จะทำทันที
“วันนี้พวกเราก้าวเข้ามาแล้ว ขอให้มั่นใจว่าไม่น้อยหน้าใคร แม้การแข่งขันใน กทม.จะไม่หมู เพราะมีเจ้าของพื้นที่เดิมอยู่ แต่ก็ต้องทำให้ดีที่สุดอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้คน กทม.” นายอุตตม กล่าว
ด้าน นายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า พรรคพลังประชารัฐ พร้อมแล้วที่จะขอคะแนนช่วงโค้งสุดท้ายจากพี่น้องชาว กทม.เพื่อเปลี่ยน กทม.ไปกับพวกเรา พรรคเราเกิดภายใต้รัฐธรรมนูญ ผ่านมาจนถึงวันนี้กระแสของพรรคดีวันดีคืน เราทุ่มเท จริงใจ มีคนที่มีความรู้ความสามารถ มีนโยบายที่ดี ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของเราบางเขตช่วงเปิดตัวใหม่ๆ เคยอยู่อันดับ 2-3 แต่วันนี้สามารถขยับขึ้นมาตีคู่พรรคคู่แข่ง ดังนั้น จึงเชื่อว่า เร็วๆ นี้ ผู้สมัครของพลังประชารัฐ จะชนะใจคน กทม.เพราะเป็นคนมีคุณภาพมาด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง ตั้งใจรับใช้ชาติ และประชาชน อย่างแท้จริง
“ไม่ใช่แค่ กทม.แต่ทั่วประเทศวันนี้พรรคพลังประชารัฐกระแสมาแรงมาก แม้จะมีข้อมูลออกมาทำให้หวั่นไหว แต่พรรคของเราทำโพลมาตลอด จึงขอให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน” นายสนธิรัตน์ กล่าว
น.ส.วทันยา กล่าวตอนหนึ่งว่า กทม.มีความหลากหลายของเชื้อชาติ วัฒนธรรม อาหารการกิน จึงทำให้มีปัญหาที่หลากหลาย ซึ่งพรรคของเราเข้าใจปัญหานั้นดี จึงคัดสรรบุคลากรที่ดีมีความรู้ความสามารถ ตอบโจทย์ทุกปัญหาผ่านการทำงานจริง จึงมั่นใจว่า ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ตอบโจทย์การแก้ปัญหาให้คน กทม.ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ เรายังมีนโยบายที่ทำได้จริง ทำได้ทันที เพื่อเป็นทางออกให้คน กทม. ทางออกให้คนทั้งประเทศ
“วันนี้เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ก้าวไปข้างหน้า เลิกทะเลาะ ยุติความขัดแย้ง ประเทศต้องไปต่อ รอไม่ได้ และที่สำคัญเราต้องรักชาติ รักสถาบัน และรักคนไทยด้วยกัน เพราะเราจะมาถึงวันนี้ไม่ได้ ถ้าไม่มีแผ่นดินไทย” น ส.วทันยา ระบุ
