xs
xsm
sm
md
lg

รุมเขย่าแต่งตั้ง 250 ส.ว.ทำลายความชอบธรรมสกัด “ลุงตู่” เข้าวิน !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมืองไทย 360 องศา




แน่นอนว่าตราบใดที่ “ลุงตู่” หรือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นเต็งหนึ่งในเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ หลังเลือกตั้ง เขาก็จะโดนพรรคการเมืองและนักการเมืองรุมกระหน่ำโจมตีกันแบบรายวัน และหนักข้อขึ้นทุกวัน แต่ขณะเดียวกัน เมื่อใดก็ตามที่เขาไม่ถูกพูดถึง ถูกมองข้ามนั่นก็หมายความว่าไร้พลังแล้ว แต่ในวันนี้เมื่อยังโดนจัดหนักอย่างที่เห็นมันก็สามารถอธิบายได้ในตัวเองอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าจับตามองในเวลานี้ ก็คือ กำลังมีการหยิบยกเอาประเด็นเรื่องการแต่งตั้งวุฒิสมาชิก (ส.ว.) จำนวน 250 มาโจมตี แน่นอนว่าในแง่ของหลักการในเรื่องประชาธิปไตย มันก็คงมีจุดอ่อนอยู่บ้าง เพราะมาจากการแต่งตั้ง ไม่ใช่ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน แต่สิ่งที่ถือว่าเป็น “ยันต์” ป้องกันตัวเอาไว้อย่างดีได้ในระดับสำคัญ ก็คือ การที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่กำหนดเอาไว้เป็นกติกาใหม่นั้นได้ “ผ่านประชามติ” จากประชาชนด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึงกว่า 16 ล้านเสียง รวมไปถึงคำถามพ่วงเรื่อง “การแต่งตั้ง ส.ว.เพื่อเลือกนายกฯ” ก็เป็นหนึ่งในคำถามให้ประชาชนได้ตัดสินใจด้วย

ดังนั้น มาถึงวันนี้อย่างที่บอกเอาไว้ดังกล่าวก็คือในประเด็นนี้มันก็จะกลายเกราะป้องกันให้กับฝ่ายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นหัวหน้า คสช.อยู่ในเวลานี้อีกด้วย เพราะเขาจะมีส่วนสำคัญในการแต่งตั้ง ส.ว.จำนวนทั้ง 250 คน ตั้งแต่การแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ไปจนถึงการได้รายชื่อมาจนครบว่าเป็นใครบ้าง

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีเกราะป้องกันจากการได้ผ่านประชามติ และนำไปอ้างอิงได้บ้างแล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือขั้นตอนนับจากนี้จะสามารถรรักษาระดับความชอบธรรม หรือเพิ่มความชอบธรรมให้มากขึ้น หรือว่าจะ “พลิกกลับ” กลายเป็นอีกแบบก็ต้องเริ่มจากตรงนี้แหละ

สิ่งพิสูจน์ด่านแรกที่รออยู่ในเวลานี้หลังจากที่มีการเปิดเผยออกมาแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้แต่งตั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรองหัวหน้า คสช.คนที่ 1 เป็นประธานสรรหา ส.ว.ทั้ง 250 คน

แน่นอนว่ายังมีรายละเอียดอีกมากมายตามมา และการพิจารณาคงต้องพิจารณาร่วมกัน แต่เพียงเริ่มต้นแค่นี้มันก็เป็นเรื่องท้าทายความสนใจกันแบบตาลุกวาวแล้ว นั่นคือเริ่มตั้งแต่ชื่อ “บิ๊กป้อม” เป็นประธานกรรมการสรรหา ส.ว.250 คนแล้ว ก็อย่างที่รู้กันดีแล้วว่า “จุดอ่อน” หรือว่า “ตำบลกระสุนตก” อยู่ตรงนี้ แต่ขณะเดียวกัน ด้วยความสำคัญเฉพาะตัวในฐานะ “พี่ใหญ่” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นขาดไม่ได้มันก็ต้องตีคู่กันไปแบบนี้

อย่างไรก็ดี หากมองกันอีกมุมหนึ่งในเมื่อรับรู้สัญญาณกันล่วงหน้าแล้วว่า การแต่งตั้ง ส.ว.ในครั้งนี้จะต้องถูกจับตามอง และจับมาโยงเป็นประเด็นการเมืองอย่างมาก มันก็คงทำให้การคัดสรรรายชื่อต้องมีความรอบ หลากหลาย ที่สำคัญคงไม่กล้าทำให้ “ขัดความรู้สึก” ชาวบ้าน และหากมองในแง่ดีแบบนี้ก็อาจทำให้ได้ ส.ว.ในยุคเปลี่ยนผ่านออกมาเป็นที่ถูกใจ หรือได้ยินเสียง “ยี้” น้อยลงก็ได้ อย่างน้อยต้องไม่เกิดซ้ำรอย “สภาผัวเมีย” ในยุคเลือกตั้งที่กลายเป็นภาพหลอนในอดีตไปแล้วก็ได้

ขณะเดียวกัน มั่นใจได้เลยว่านับจากนี้ไปหลังจากได้ตัว ประธานสรรหา ส.ว.ที่มี “บิ๊กป้อม” เป็นประธานแล้ว แรงกดดันจะยิ่งถาโถมเข้ามา

และอีกด้านหนึ่งด้วยความที่เป็น “ภาพสีเทา” ไม่เคยเป็นบวกมานาน มันก็อาจทำให้การพิจารณารายชื่อต้องรอบคอบมากกว่าเดิมหลายเท่า เพราะต้องไม่ลืมว่ารายชื่อ 250 ส.ว.จะมีผลต่อการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะตามมาด้วย นั่นคือ ตามขั้นตอนแล้วการแต่งตั้ง ส.ว.จะแล้วเสร็จและประกาศรายชื่อให้ทราบก่อนวันเลือกตั้ง 9 วัน ตรงนี้แหละน่าติดตาม เพราะว่าหากผลออกมาเสียง “ยี้” ดังลั่น ก็ต้องหลับตานึกภาพออกได้เลยว่าจะส่งผลทางลบต่อพรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุนให้ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ

แต่ในทางตรงกันข้ามหากออกมาแล้วชาวบ้านชื่นชม มันก็ย่อมเป็นผลบวก ตามมาทางอ้อมแน่ เพราะมันเหมือนกับมีผล “สองเด้ง” ตามมา นั่นคือผลการเลือกตั้งและต่อเนื่องไปถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่อีกด้วย เพราะตราบใดที่ ส.ว.ที่ประกาศออกมาแล้วได้รับการยอมรับมันก็ย่อมเกิดความราบรื่น แต่ถ้าออกมาอีกแบบความชอบธรรมก็ย่อมถดถอย ถึงก้าวสู่อำนาจได้ แต่มันบริหารยาก ดังนั้นเดิมพันเริ่มต้นตั้งแต่ตั้ง “บิ๊กป้อม” เป็นประธานสรรหา ส.ว.แล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น