“ชัชาติ” ยัน “เพื่อไทย” ไม่มีนโยบายรับจำนำข้าว แต่มีโครงการอื่นช่วยชาวนา ลั่นหากเป็นนายกฯ จะสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนอันดับแรก ตามด้วยปราบคอร์รัปชัน พร้อมสานต่อโครงการดีๆ ของรัฐบาลปัจจุบันเพื่อความต่อเนื่อง ทั้ง อีอีซี บัตรคนจน
วันนี้ (23 ก.พ.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคเพื่อไทย กล่าวระหว่างลงพื้นที่ช่วย น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 กรุงเทพฯ หาเสียงบริเวณตลาดผลไม้สี่แยกมหานาค ว่า ได้รับเสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าว่ายอดขายลดลงลงมาก เนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ประกอบกับการจัดระเบียบที่จอดรถริมถนน และการจัดระเบียบทางเท้า ซึ่งพ่อค้าต้องการให้พรรคเพื่อไทยจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้
นายชัชชาติ กล่าวว่า การแก้ปัญหาอันดับแรกต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา ทุกวันนี้เงินในระบบมีเยอะ แต่คนไม่กล้าลงทุน เพราะไม่มั่นใจในเสถียรภาพทางการเมือง พร้อมทั้งต้องพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานราก เช่น เกษตรกรให้ขายผลผลิตได้ราคาดีขึ้น รวมทั้งต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศให้น้อยลง แต่พึ่งพาเศรษฐกิจภายในประเทศให้มากขึ้น
นายชัชชาติ ได้ตอบคำถามชาวบ้านหากได้เป็นนายกรัฐมนตรี เรื่องแรกที่จะทำ คือ การสร้างความมั่นใจให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้า ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างสามัคคี และยุติความขัดแย้ง ต่อมาคือการปราบปรามคอร์รัปชัน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมผ่านทางออนไลน์และแอปพลิเคชันต่างๆ
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนนโยบายดีๆ ที่ปัจจุบันมีอยู่แล้ว ก็ควรสานต่อเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง เช่น โครงการ EEC บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะไม่ยกเลิก เนื่องจากภาครัฐได้เตรียมเงินช่วยเหลือไว้แล้ว และเป็นการช่วยเหลือคนจน แต่จะเพิ่มเงินช่วยเหลือหรือไม่ต้องศึกษาพิจารณาอย่างละเอียด
ส่วนนโยบายรัฐสวัสดิการที่หลายพรรคเสนอออกมา เช่น แจกเงินให้ประชาชนที่ยากจน ผู้สูงอายุ มารดาและเด็กแรกเกิด นายชัชชาติ เห็นว่า ประเทศไทยยังไม่สามารถเป็นรัฐสวัสดิการแบบประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากปัจจุบันเก็บภาษีได้เพียง 14-16% ขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วเก็บภาษีได้มากกว่า 25% ดังนั้น จึงต้องใช้เงินอย่างชาญฉลาด ไม่เน้นการแจกเงิน แต่เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดประโยชน์ระยะยาว รวมทั้งนำเงินไปพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคให้ดียิ่งขึ้น
นายชัชชาติ ยังได้ปฏิเสธว่า พรรคเพื่อไทยจะทำโครงการรับจำนำข้าวต่อ แต่จะมีโครงการอื่นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว พร้อมย้ำว่า ไม่อยากให้เลือกพรรคเพื่อไทยเพราะสัญญาว่าจะให้ราคาสินค้าดี แต่อยากให้เลือกพรรคเพื่อไทยเพราะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยมองเห็นปัญหามองเห็นอนาคต และมีผู้บริหารมืออาชีพที่จะแก้ปัญหาได้ตรงจุด
