โฆษกอนาคตใหม่ บอกเป็นเรื่องตลกถ้าพรรคจะโดนยุบเพราะลงประวัติ “ธนาธร” คลาดเคลื่อน ไม่ต่างจาก “สมัคร” ถูกปลดจากเก้าอี้นายกฯ เพราะทำกับข้าวออกทีวี ที่กลายเป็นคดีติดแผ่นดิน ยืนยันไม่มีเจตนาหลอกลวง หลังรับแจ้งรีบแก้ไขทันทีใน 2 ชั่วโมง
จากกรณีที่เว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ เผยแพร่ประวัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยระว่าเคยเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 2 สมัย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครนายก และเพิ่งมาแก้ไขหลังจากผ่านไป 5 เดือน และถูกคนในโซเชียลมีเดียออกมาเปิดโปง ต่อมานายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ให้ความเห็นว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (5) ที่ห้ามจูงใจหลอกลวงผู้มีสทธิเลือกตั้งด้วยการหลอกลวง มีโทษถึงการยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
ล่าสุดวันนี้ (22 ก.พ.) น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นเรื่องตลกเหมือนครั้งที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ถูกถอดถอนจากตำแหน่งนายกฯ เพราะทำกับข้าวออกทีวีถือเป็นคดีติดแผ่นดิน ยอมรับว่าการใส่ประวัตินายธนาธรคลาดเคลื่อน เมื่อทางพรรคได้รับแจ้งก็รีบดำเนินการแก้ไขทันทีภายใน 2 ชั่วโมง ไม่ได้เข้าข่ายเจตนาหลอกลวงอย่างที่กล่าวหากัน เพราะประวัตินายธนาธรปรากฏข้อมูลอยู่ทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต สามารถสืบทราบกันได้โดยทั่วกันอยู่แล้ว หากกรณีดังกล่าวเดินหน้าไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่จริง ประวัติศาสตร์ก็จะซ้ำร้อยเป็นคดีติดแผ่นดินครั้งที่ 2 ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้กังวลอะไร เชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ
อนึ่ง วานนี้ นายเจษฎ์ โทณะวณิก ได้ให้ความเห็นกรณีการนำเสนอประวัตินายธนาธรคลาดเคลื่อนว่า การปล่อยข้อมูลที่ผิดพลาดไว้ในเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ในแง่กฎหมายอาจไม่ได้มองว่าตั้งใจหลอกลวง แต่ความเป็นพรรคที่ชูเรื่องของเทคโนโลยีและหาเสียงในโลกออนไลน์เป็นหลัก เมื่อพบว่าไม่ถูกต้องก็ควรรีบแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้นานถึง 5 เดือน การอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของทีมงานแต่ทิ้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไว้นานขนาดนี้ก็เป็นคำแก้ตัวที่อ้างยาก
นายเจษฎ์กล่าวด้วยว่า ตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 วงเล็บ 5 กำหนดห้ามไม่ให้ผู้สมัครจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยการหลอกลวง ซึ่งความผิดดังกล่าวมีโทษถึงขั้นยุบพรรค จึงต้องติดตามดูว่าจะมีผู้ใดไปยื่นคำร้องเรื่องนี้ต่อ กกต.หรือไม่ เรื่องนี้จึงอาจถือว่าเป็นมรสุมการเมืองลูกใหม่ของพรรคอนาคตใหม่