xs
xsm
sm
md
lg

ห้างใหญ่ชักใย! ไขข้อข้องใจ ทำไม "สมาคมค้าปลีก" เคลื่อนไหวเรียกร้องดิวตี้ฟรี **มรสุมการเมือง!! ยิ่งวันเลือกตั้งใกล้เข้ามา พรรคการเมืองต่างขับเคี่ยว ช่วงชิงความได้เปรียบ ทั้งปลุกระดม ยั่วยุ ใช้ข้อกฎหมาย "พิฆาต" ฝ่ายตรงข้าม

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว



**ห้างใหญ่ชักใย! ไขข้อข้องใจ ทำไม "สมาคมค้าปลีก" เคลื่อนไหวเรียกร้องดิวตี้ฟรี แทนที่จะไปทำหน้าที่ส่งเสริมการค้าปลีก ช่วยโชวห่วย ?

เมื่อไรก็ตามที่มีกระแสสัมปทานดิวตี้ฟรี "สมาคมผู้ค้าปลีก" มักจะออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องนั่นนี่เสมอ... กรณีล่าสุดที่ "บอร์ดทอท."มีมติให้ความเห็นชอบกับทีโออาร์สัมปทานดิวตี้ฟรี เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ก็เป็นสมาคมผู้ค้าปลีกที่ตั้งโต๊ะแถลงเรียกร้องให้รัฐทบทวนทีโออาร์ ... คำถามคือว่า เป็นหน้าที่ของสมาคมค้าปลีก หรือ มี"วาระซ่อนเร้น" ที่ทำไปเพื่อใคร ?

คำตอบเริ่มจาก สมาคมนี้คืออะไร ตั้งขึ้นมาทำไม จากข้อมูลของสมาคมเองเขียนไว้ว่า "เพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีระหว่างกัน เป็นที่ปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนข่าวสาร และร่วมกันแก้ไขปัญหา ตลอดจนแสดงความคิดเห็นที่จะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมค้าปลีกของประเทศ" ... ถ้าจะว่ากันตามหลักการทางตัวอักษร ในการทำงานที่แท้จริง สมาคมนี้จะต้องออกมาช่วยให้ร้านค้าปลีก หรือ “ร้านโชห่วย”ขนาดเล็ก และขนาดกลาง ในประเทศที่กำลังอยู่ในสภาวะที่แข่งขันได้ยากลำบาก ให้สามารถลืมตาอ้าปากได้ มีธุรกิจที่มั่นคง เนื่องเพราะในความเป็นจริงแล้ว ร้าน โชห่วยเหล่านี้ ค่อยๆ ล้มหายตายจาก จากการแข่งขันทางต้นทุนที่ดุเดือด ซึ่งแน่นอนว่า ก็เพราะสมาคมฯ ไม่ได้ให้ความสนใจอย่างแท้จริง ... สมาคมฯ ควรต้องมาให้การช่วยเหลือต่อยอด และช่วยให้องค์ความรู้ในการพัฒนาร้านค้าปลีกของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพ
สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ - วรวุฒิ อุ่นใจ - ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์
หากลองค้นหารายละเอียดไปเรื่อยๆ ยิ่งพบว่าสมาคมนี้ ให้ความสนใจในเรื่อง Vat Refund และ ดิวตี้ฟรี จนเกิดความสงสัยว่า สมาคมค้าปลีกนี้มาเกี่ยวข้องอะไรกับสองเรื่องนี้ มากมายนักหนา ? ... ทำไม Vat Refund กับ ดิวตี้ฟรี ถึงสำคัญมากๆ กับสมาคมฯ มากกว่าช่วยร้านโชห่วย ล่ะ ? คงเพราะเรื่อง Vat Refund หรือ ดิวตี้ฟรี มันน่าจะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ กับบริษัท ที่อยู่ในสมาคมฯ ... เพราะเท่าที่ดูจากข้อมูล การมีพื้นที่ Vat Refund หรือ การได้สัมปทานดิวตี้ฟรี มันเป็นเรื่องสำคัญมากๆ กับบริษัทในเครือเซ็นทรัล ... การได้พื้นที่ Vat Refund จะส่งผลโดยตรงกับยอดขายของในห้าง เพราะผู้ซื้อ หรือช้อปเปอร์ จะเพิ่มการตัดสินใจซื้อมากขึ้น ส่งผลบวกกับยอดขายโดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเพือย และสินค้าแฟชั่น ที่ผู้ซื้อมีความต้องการอยากได้สินค้าราคาถูก การได้ภาษีคืน ก็นับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้อย่างแน่นอน Vat Refund จึงนับเป็นช่องทางในการดึงดูดลูกค้า ที่เห็นได้อย่างชัดเจน รวมทั้งเป็นจุดขายของห้างสรรพสินค้านาดใหญ่...

ส่วนเรื่องการพยายามเข้าประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรี ก็เป็นอีกกลยุทธ์ ในการขยายฐานธุรกิจออกไปในพื้นที่ใหม่ๆ ซึ่งทาง"เซ็นทรัล" ก็ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า จะเข้าร่วมประมูลดิวตี้ฟรี ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อย่างแน่นอน จะเห็นได้จากการเข้าร่วมประมูลดิวตี้ฟรี ที่อู่ตะเภา รวมทั้งการจับมือกับยักษ์ใหญ่ อย่าง DFS และความเคลื่อนไหวที่ออกมาเรียกร้อง นายกสมาคมฯ "วรวุฒิ อุ่นใจ" ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารที่มาจากเครือเซ็นทรัล จึงต้องรับบทบาท รับหน้าที่ใบสั่ง ในการทำงานเพื่อจิกติดสองเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา ... หากไปลองค้นตามข่าวย้อนหลัง ทั้ง "วรวุฒิ" นายกสมาคม และ "ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ " ผู้อำนวยการสมาคม ที่ต่างล้วนทำงานกับเซ็นทรัล ได้ให้ความสนใจเรื่องดิวตี้ฟรี กับจุด Vat refund ซึ่งในสองกรณีนี้ ผู้ค้าปลีกรายย่อยแทบจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ ตรงนี้เลย ... ยิ่งถ้าดูคนที่บริหารสมาคมฯ ก็จะเห็นว่า เป็นสมาคมที่บริหารโดยกลุ่มผู้บริหารจากเครือเซ็นทรัลเป็นหลัก แทบทุกคน

“สมาคมผู้ค้าปลีกห้างสรรพสินค้า”ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2527 โดยคนกุมบังเหียนมี "สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์" เป็นนายกสมาคมฯคนแรก ในขณะนั้น มีห้างสรรพสินค้าที่เป็นสมาชิก 11 แห่ง ... นายกฯ คนถัดจากสุทธิเกียรติ คือ "สมชาย สาโรวาท" (พ.ศ.2531 -พ.ศ.2535) ซึ่งได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสมาคมฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ขณะนั้น และได้เปลี่ยนชื่อสมาคมฯ เป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ “สมาคมผู้ค้าปลีกไทย”ต่อมาเป็น คนที่ 3 วิโรจน์ จุนประทีปทอง (พ.ศ.2535 -พ.ศ.2539) คนที่4 กลับมาเป็น "สุทธิชาติ จิราธิวัฒน์" จากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล 2 สมัย คนที่ 5 "ลิขิต ฟ้าปโยชนม์" จากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล คนที่ 6 "ธนภณ ตังคณานันท์" จากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล คนที่ 7 "ธนภณ ตังคณานันท์" จากบริษัท เซ็นทรัลฟู้ด รีเทล จำกัด คนที่ 8 "บุษบา จิราธิวัฒน์" จาก เซ็นทรัล ... ล่าสุดในยุคปัจจุบัน คือ "วรวุฒิ อุ่นใจ" ผู้บริหารจากเซ็นทรัลออนไลน์ COLก็มาเป็นนายกสมาคมฯ ต่อเนื่อง

จะเห็นได้ว่า นายกสมาคมฯทุกคน ล้วนเป็นผู้บริหารที่มาจากเครือข่ายของเซ็นทรัล ล้วนๆ แถมผู้อำนวยการสมาคมฯ คนปัจจุบัน ก็คือ ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ก็ยังเคยร่วมงานกับกลุ่มเซ็นทรัล ในยุคบุกเบิก "บิ๊กซี" และทำงานด้านการพัฒนาธุรกิจให้กับ Central Retail Corporation เคยรับผิดชอบด้าน Operation อยู่ที่บริษัท เซ็นทรัลวัตสัน จำกัด แถมยังเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารธุรกิจ บ. เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) อีกด้วย ... ทั้งหมดนี้คือสมาคมค้าปลีก ที่ทำหน้าที่แทนคนตัวเล็กๆ หรือเป็นสมาคมค้าปลีก ที่ทำหน้าที่ออกหน้าแทนเครือเซ็นทรัล กันแน่.

**มรสุมการเมือง!! ยิ่งวันเลือกตั้งใกล้เข้ามา พรรคการเมืองต่างขับเคี่ยว ช่วงชิงความได้เปรียบ ทั้งปลุกระดม ยั่วยุ ใช้ข้อกฎหมาย "พิฆาต" ฝ่ายตรงข้าม จนน่าหวั่นใจว่า การเลือกตั้ง 24 มี.ค.นี้ จะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เหลือเวลาอีกประมาณ 1 เดือน ก็จะถึงวัน "หย่อนบัตร" เลือกตั้งส.ส.กันแล้ว การหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ กำลังเข้มข้น พอพอกับการร้องเรียนเรื่องพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง ทำผิดกฎหมาย ว่าด้วยพรรคการเมือง หรือ กฎหมายว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้ง มากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เป็นการเข้าสู่โซนการใช้กฎหมาย "พิฆาต" ฝ่ายตรงข้ามกันอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้นึกไปถึงช่วงเวลาที่เหลือก่อนถึงวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. จะเหลือพรรคการเมืองสักกี่พรรค ที่ไม่ถูกร้องเรียน และหลังการเลือกตั้งแล้ว จะมีเรื่องร้องเรียนกันอีกกี่คดี ...

เท่าที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้ พรรคการเมืองที่ถูกร้องยุบพรรค เริ่มจาก พรรคพลังประชารัฐ ทั้งจากเรื่อง "จัดโต๊ะจีนระดมทุน" รวมทั้งคุณสมบัติ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะที่เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอาจมีคุณสมบัติขัดกฎหมาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการ "หาพยานหลักฐาน" ของ กกต. จึงยังไม่มีบทสรุป ... ส่วนพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นั้นเรียกว่าอยู่ในอาการ "โคม่า" ไปแล้ว หลังจาก กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐ ธรรมนูญ พิจารณายุบพรรค จากเหตุการณ์ "วันที่ 8 ก.พ." ที่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของพรรคในลักษณะ "มิบังควร" และ รองหัวหน้าพรรค ทษช. อย่าง "ฤภพ ชินวัตร" บุตรชายของ พายัพ ชินวัตร และเป็น "หลานทักษิณ" ก็เจอเรื่อง แพร่ภาพสด แถลงข่าวปัญหาฝุ่นละออง โดยใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และ ตื่นตระหนก เข้าข่ายผิด "พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ " ไปอีกคน ...

หลังจาก พรรคทษช. ทำท่าว่าจะจบไม่สวย กลับปรากฏกระแสของ "พรรคอนาคตใหม่" แรงขึ้นมาทันที ...มีการคาดหมายกันว่า คะแนนที่เคยจะลงให้พรรคทษช. ส่วนหนึ่งจะเทมาที่พรรคอนาคตใหม่ ของ"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" พร้อมๆ กับการเกิดกระแส "ฟ้ารักพ่อ" ในโลกโซเชียลฯ เวลาธนาธร ลงพื้นที่หาเสียง ก็มักจะมีสาวๆ ตะโกนบอก ฟ้ารักพ่อ แล้วเข้ามาขอถ่ายภาพเซลฟี่ ... แต่ "ความปัง" ที่ว่าเกิดขึ้นได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ ก็มีข่าวร้ายของพรรคอนาคตใหม่ นั่นคือ "ธนาธร" จะต้องไปที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากที่ คสช. ไปแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ ในข้อหา "ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์" จากการใช้เฟซบุ๊กไลฟ์ รายการ "คืนวันศุกร์ให้ประชาชน" ผ่านแฟนเพจ "ธนาธรจึง รุ่งเรืองกิจ" เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 ที่วิพากษ์ วิจารณ์ "พลังดูด" แล้วไปพาดพิง คสช. ก็เลยงานเข้า และตำรวจ นัดส่งสำนวนคดีให้อัยการ ในวันนี้ (22 ก.พ.) ...
ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก
ไม่เพียงเท่านั้น "ธนาธร" ยังอาจต้องเจอ "มรสุมลูกใหม่" คือ กรณี เว็บไซต์ พรรคอนาคตใหม่ ระบุ ประวัติของ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ในฐานะหัวหน้าพรรค ว่าเคยเป็น "ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 2 สมัย" ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว เขาเป็น "ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครนายก" ซึ่งข้อมูลที่ผิดพลาดนี้ ถูกแช่อยู่ในเว็บไซต์ มาประมาณ 5 เดือนแล้ว แต่เพิ่งถูกคนในโลกโซเชียลออกมาเปิดโปง และมีการแชร์กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งทางพรรคก็เพิ่งมาแก้ไขข้อมูลดังกล่าว เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง...

ประเด็นนี้ ยังไม่มีคนไปร้อง กกต. แต่ "ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก" อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เห็นว่าเป็น "ประเด็นฮอต" ก็เลยออกมาอธิบายถึงข้อกฎหมาย เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า อาจเข้าข่าย "หลอกลวง" ผิดกฎหมายเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 (5) ที่กำหนด "ห้ามไม่ให้ผู้สมัครจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ด้วยการหลอกลวง" ซึ่งความผิดดังกล่าว มีโทษหนักถึงขั้น "ยุบพรรค" ... แม้จะอ้างว่าเป็นความผิดพลาดที่ไม่มีเจตนาจะหลอกลวง แต่ความที่พรรคอนาคตใหม่ ชูเรื่องของ เทคโนโลยี และหาเสียงในโลกออนไลน์เป็นหลัก เมื่อพบว่าไม่ถูกต้อง ก็ควรรีบแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้นานถึง 5 เดือน จนมีคนมาเปิดโปง การอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของทีมงาน แต่ทิ้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไว้นานขนาดนี้ ก็คงเป็นคำแก้ตัวที่อ้างยาก...

ปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เห็นกันอยู่ตอนนี้ และที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตนั้น ล้วนเกิดจากพรรคการเมือง ที่ขับเคี่ยว ช่วงชิงความได้เปรียบ ทั้งการเคลื่อนไหว ปลุกระดม ยั่วยุ ใช้กติกา ข้อกฎหมาย ที่เป็น "กฎหมายใหม่" มีกับดัก หลุมพราง อยู่มากมายในการจัดการกับฝ่ายตรงข้าม จนดูเกินความเหมาะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เกิดจินตนาการว่า ถึงที่สุดแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ จะผ่่านพ้นไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ หลังเลือกตั้งแล้วจะสามารถจัดตั้งรัฐบาล เพื่อ "เดินหน้า ประเทศไทย" สำเร็จหรือไม่ และจะมีพรรคการเมืองที่กำลังโลดแล่นอยู่ในตอนนี้ เหลือรอดจากการถูกยุบพรรค กี่พรรคกันแน่


กำลังโหลดความคิดเห็น