xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” โวยแช่งเครื่องตกเกลียดอะไรขนาดนี้ ลั่นไม่ยอมให้ทำลายความเชื่อมั่นทหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ประยุทธ์” ถึงกระบี่ แจงต้องมีทหาร-งบฯ ลั่นเป็นอดีตทหารแต่ไม่ยอมให้ทำลายความเชื่อมั่น อย่าเชื่อคำบิดเบือน ปลุกยิ้มสยามบ้านเมืองต้องการ ฮึ่มใครทำแตกแยกเพื่ออำนาจใช้ไม่ได้ โวยคนแช่งเครื่องบินตกเกลียดอะไรขนาดนี้ ย้ำรักทุกคนเว้นหนีคุก

วันนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางมายังศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เพื่อเป็นประธานในพิธีมอบธงสัญลักษณ์ในการจัดงานการแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, 2020 ให้กับ จ.นครราชสีมา โดยจังหวัดกระบี่ ในฐานะเจ้าภาพจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรม “หนังตะลุงประยุกต์” และการแสดง “โคราชต้อนรับ” ของ จ.นครราชสีมา สำหรับงาน Thailand Biennale 2018 ที่ จ.กระบี่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 พ.ย. 2561-28 ก.พ. 2562 ณ ภายใต้แนวคิด “EDGE OF THE WONDERLAND (สุดขอบฟ้าแห่งดินแดนมหัศจรรย์)” โดยมีความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ เอกชนและองค์กรต่างๆ มากกว่า 50 องค์กร เป็นการยกระดับมาตรฐานในการจัดงานทางศิลปะของไทย ให้ทัดเทียมกับระดับนานาชาติ สร้างโอกาสให้ศิลปินไทยแสดงความสามารถบนเวทีในระดับโลก โดยมีผลงานกว่า 70 ชิ้น จากศิลปินชั้นนําทั่วโลก

จากนั้น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้แก่ผู้แทนราษฎร จำนวน 1 ราย และมอบหนังสือโครงการป่าชุมชน บ้านคีรีวงศ์ ให้แก่ผู้แทนราษฎร จำนวน 1 ราย

จากนั้นนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายแก่ข้าราชการและหน่วยงานในท้องถิ่น โดยระบุว่า สวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดกระบี่ทุกท่าน รวมถึงตัวแทนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่วถือเป็นบ้านเกิดของตนด้วย ที่จะจัดงานต่อจากจังหวัดกระบี่ ถือเป็นการเชื่อมโยงศิลปวัฒนธรรม ที่มีความแตกต่างนั่นคือเสน่ห์ของประเทศไทยและคนไทยมีรอยยิ้มที่สวยงาม นั่นคือ สิ่งที่บ้านเมืองต้องการอย่างยิ่งในเวลานี้และเวลาต่อๆ ไป เพื่อให้สอดคล้องกับไทย ที่มีธรรมชาติสวยงาม อาหารอร่อย และมีรอยยิ้มและการเตรียมเป็นเจ้าภาพที่ดีประเทศไทย จะเป็นเวทีชั้นนำของโลกและการจัดการแข่งขันกีฬารวมถึงศิลปวัฒนธรรม ขอให้พระภูมิใจว่าครั้งหนึ่งได้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตั้งใจจะมาแต่เช้าจริงๆ ซึ่งตนขึ้นเครื่องบินทหารมาบินมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ตอนแรกมี 4 ใบพัด บินไปเหลือ 3 ใบพัด ไอ้ตนก็กะว่ายังไงก็ต้องมาแม้มี 3 ใบพัด เพราะมั่นใจว่าเครื่องบินทหารปลอดภัยอยู่แล้ว แต่นักบินบอกว่ากลัวจะดับอีก 2 ใบพัด นี่คือเครื่องบินที่ใช้มา 30-40 ปีแล้วนั่นคือเหตุผลที่ทำไมเราจะต้องมีการหมุนเวียน มีการเปลี่ยน จัดหาซ่อมแซมเพิ่มเติม ซึ่งวันนี้ก็ซ่อมไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ซ่อมเครื่องยนต์ดีหมด แต่ตัวถังก็ยังแย่ และถ้ามันเสียบนอากาศ มันก็แก้ไขไม่ได้ และวันหน้าเครื่องบินเหล่านี้ เอาไว้ใช้รับพวกเรานั่นแหละ แล้วใครจะกล้าเสี่ยงขึ้น เมื่อมันไม่ปลอดภัย ซึ่งวันนี้รัฐบาลพยายามเร่งรัดซ่อมแซมจัดหามาทดแทน แต่อย่างว่ามันต้องใช้เวลาและงบประมาณ การจัดซื้อจัดหา มันจำเป็นต้องซื้อ เพราะบินไปแล้วเหลือ 3 ใบพัด มันไหวที่ไหน วันนี้โลกเขามีเทคโนโลยีขั้นสูงแล้ว แตเรายังจอดบินจอดบินอยู่ มันไม่ได้ เราไม่ได้มีเอาไว้ยิงหรือรบกับใคร แต่มันทำให้ ไม่ต้องรบกัน นั่นคือศักยภาพของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพลทหาร นายทหารมันก็ลูกหลานของท่านทั้งนั้น มันไม่เหมาะที่จะมาโจมตีกันในตอนนี้ มันไม่ใช่เวลา ทุกครั้งเวลาบ้านเมืองเกิดเหตุพวกเขาก็มาช่วยเราทั้งนั้น

“วันนี้ผมไม่ใช่ทหารแล้ว แต่เป็นอดีตทหารแต่ผมก็ยังมีความรัก ความมั่นใจในความเป็นทหารของตนไม่อยากให้ใครมาทำลายความเชื่อมั่น ความไม่ไว้วางใจของตัวทหารทุกคน อย่าลืมถ้าทำให้เขาเสียขวัญ ไม่มีกำลังใจ แล้ววันหน้า ใครจะมารบให้กับเรา กระสุนห่า กระสุนปืนใหญ่ ปืนเล็กตกมาแล้ว จะไปไหม ถ้าจ้างเงินเดือนน้อย ผมไม่ไปครับ จะได้หรือไม่ คิดตรงนี้ อะไรที่ต้องแก้ไขก็แก้ไขไป ในจุดที่บกพร่อง แต่อย่าให้ใครมาบิดเบือนตรงนี้ได้ ที่สำคัญ ในสมัยโบราณแต่ก่อนมา คนไทยก็เกณฑ์เป็นทหาร โดยไม่มีค่าจ้าง เวลาใครมาบุกประเทศ พระมหากษัตริย์จะนำทัพไปสู้รบใช่หรือไม่ ไม่ได้เงินได้ทองหรอก ต้องไปครั้งนึง 3-4 เดือนจะได้กลับมาหาเมียหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ออกจากบ้านคือไปแล้วไปลับเลย วันนั้นเขายังเสียสละได้ แต่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นชายแดน ก็มีภารกิจ ในประเทศก็มีภารกิจ จะไม่ให้เขาพักเลยหรืออย่างไร มันก็ต้องสลับเปลี่ยนเวียนกัน อย่างน้อยต้องมีผลัดถึงสาม ผลัดไปอยู่ตามแนวชายแดน แม้อยู่ในหน่วยที่ตั้งเดิม ก็ต้องฝึกหัดไปรบร่วม ช่วยเหลือภัยพิบัติ นั่นคือหน้าที่ของทหาร เฝ้าอธิปไตยชาติ และพัฒนาประเทศ รักษาความสงบเรียบร้อย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถาม ขึ้นว่า ใครเกลียดทหารขอให้ยกมือใครรักทหารขอให้ยกมือซึ่งในห้องก็ยกมือกันเต็มห้องเช่นเดียวกับที่พลเอกประยุทธ์ก็ยกมือด้วย

นายกฯ กล่าวอีกว่า “มาช้าไปเปลี่ยนเครื่องมา ยังไงก็ต้องมา หลายคนบอกนายกฯลางไม่ดี กลับบ้านดีกว่า ไม่ต้องมาอีกแล้ว ไม่ต้องอ่ะ บางคนก็แช่งให้ตกๆ ไปเลย อะไรว่ะนั่น แค่จะมาเยี่ยมประชาชนยังแช่งผมเลย มันเกลียดชังอะไรผมขนาดนี้ ผมก็รักทุกคน ใครจะด่าจะว่าก็เป็นคนไทย ยิ่งผมเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้า คสช. ก็ต้องรักคนไทยทั้งหมด ตราบใดที่ไม่ติดคุก ติดคุกยังต้องรักเลย ส่วนที่หนีคุกไม่รัก เข้าใจยัง ผิดก็จะหนี ไม่ใช่บอกว่าถูกแล้วจะหนี ถ้าถูกแล้วไม่ต้องหนี ไม่ได้ว่าใครเลย ขอสักที สงบมาให้หลายวันแล้ว”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งต้องสงบเรียบร้อย เพราะจะมีงานพิธีใช่หรือไม่ เขารอดูว่าหลังการเลือกตั้งจะสงบเรียบร้อยหรือไม่ใครสัญญาว่าจะให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยขอให้ยกมือ แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์นะไม่มีใครทำอะไรได้ การเลือกตั้งต้องได้นายกรัฐมนตรีที่มีคุณธรรมไม่โกง ที่ผ่านมาพฤติกรรมก็มีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากนายกฯ พูดไม่ฟังตนก็หมดแรง เพราะพูดเยอะแยะและรับฟังทุกคนรัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากพรรคไหน หรือพรรคของใครแต่ทำให้คนทุกจังหวัด ครั้งนี้ใครที่ทำให้คนไทยแตกแยก และทำให้ความรักความสามัคคีแตกสลาย เพื่อให้ตัวเองเข้ามามีอำนาจถือว่าใช้ไม่ได้ ทำให้คนอื่นอ่อนแอแล้วตัวเองเข้ามาใช้ไม่ได้ ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทำทุกวันนี้แม้ใครไม่ชอบ ตนก็ไปเกลียดไม่ได้ ยิ่งว่ายิ่งต้องทำ

ในช่วงท้าย นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า “ขอโทษ อย่าโกรธฉันเลย เอาไว้ชมเชยในวันข้างหน้า วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง แต่มาเพราะคิดถึง และไปทุกที่ ยิ่งด่ายิ่งไป เพราะผมไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ผมพูดเรื่องการบ้านไม่ได้พูดการเมือง นั่งเฉยๆ กดดันรัฐบาลไปไม่ได้ ล้มละลายทั้งประเทศ อนาคตเชื่อว่าประเทศจะมีสิ่งที่ดี ขอบคุณทุกคน และขอความระลึกถึงคนที่ไม่ได้มา”


กำลังโหลดความคิดเห็น