“สุลักษณ์” ซัด “ทักษิณ” อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ 8 กุมภาฯ หวัง “จะกลับเข้ามาพร้อมยิ่งลักษณ์” ชอบยกตัวเองเป็น “ปรีดี” แต่ทำทุกอย่างตรงกันข้าม ไม่ใช่วีรบุรุษ แต่สร้างหายนะให้บ้านเมืองตลอดเวลา
วันนี้ (15 ก.พ.) สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ นักคิด นักประวัติศาสตร์ ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย ถึงปรากฏการณ์ 8 กุมภาพันธ์ ว่า “ในแง่ของทูลกระหม่อมหญิงฯ ท่านก็ถือว่าท่านมีสิทธิเสรีภาพจะทำได้ เพราะท่านออกจากความเป็นเจ้าแล้ว แต่ทีนี้ในแง่ของพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านเห็นว่าถึงจะลาออกแล้วก็ตาม แต่ยังใกล้ชิดกับพระราชวงศ์อยู่ ท่านถึงได้มีประกาศพระราชโองการห้ามเด็ดขาดเลย
“พระเจ้าอยู่หัวมีความสามารถมาก ทรงตัดสินพระราชหฤทัยเร็ว เพราะฉะนั้นก็ออกพระราชโองการมาทันทีทันใดเลย... เมื่อประกาศออกมาแล้ว ในสังคมไทย วัฒนธรรมไทย คำประกาศนั้นศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถที่มีใครจะหลีกเลี่ยงได้”
นายสุลักษณ์ กล่าวว่า โดยทฤษฎีพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เรียกว่า ท่านผู้หญิง แต่เนื่องจากว่าพระองค์เคยทรงดำรงฐานันดรศักดิ์ แม้จะถวายบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์ไปแล้ว แต่ด้วยขนบประเพณีของไทยที่มีมา ราษฎรก็เรียกพระองค์ท่านว่าทูลกระหม่อม
“แม้จะทรงกราบถวายบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์ไปแล้วตามกฎมณเฑียรบาล โดยได้กราบบังคมทูลพระกรุณาเป็นลายลักษณ์อักษร หากยังทรงสถานะและดำรงพระองค์ในฐานะสมาชิกแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์... การนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง”
ขณะที่การนำเสนอพระนามทูลกระหม่อม เป็นนายกฯ ในบัญชีของ ทษช.ถูกนักวิเคราะห์ต่างชาติบางส่วน ถอดรหัสออกมาว่ามีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร “อยู่เบื้องหลัง” และ “เป็นผู้ส่งสัญญาณ” นักคิดนักประวัติศาสตร์ผู้นี้มองว่า การอ่านสัญญาณที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณเข้าใจ เป็นการ “อ่านประวัติศาสตร์ไทยไม่ออก”
“เขามีความเป็นไทยน้อยมาก เขานึกอย่างเดียวว่าเขาฉลาด เก่ง และรวย ถ้าไม่เข้าใจวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งแล้วเนี่ย มันให้โทษมากกว่าให้คุณ” สุลักษณ์ กล่าว
“ทุกอย่างจะรวมตัวกันทักษิณจะกลับมา ยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) จะกลับมา จะรอมชอม จะดี จะร่วมกันต่างๆ เขามีสิทธิที่จะมอง แต่มองผิด ในพระราชโองการชัดเจนเลย ในหลวงท่านไม่เล่นกับใครลับหลัง ท่านพูดตรงไปตรงมาเลย ไม่เอา เอาอย่างนี้ ตรงไปตรงมา นี่ผมว่าน่าจะดีใจนะที่ในหลวงท่านบอกว่า บ้านเมืองนี้ต้องเล่นซื่อๆ ตรงไปตรงมา”
“ทักษิณเขาเป็นคนกล้ามาตลอดเวลา เขากล้าเสี่ยง... เขาเคยเปรียบเทียบว่าเขาเหมือนกับ อ.ปรีดี พนมยงค์ เขาต้องไปอยู่ต่างประเทศเหมือน อ.ปรีดี แต่ต่างกันเลย อ.ปรีดี ทำทั้งหมดเพื่อบ้านเมือง เพื่อราษฎร เพื่อความถูกต้องดีงาม ทักษิณทำตรงข้ามหมดเลย เขาฝันหวานว่าเป็นเหมือน อ.ปรีดี พนมยงค์ แต่เขาไม่ใช่วีรบุรุษ” สุลักษณ์ กล่าวกับบีบีซีไทย
“เขาคงจะกล้าเสี่ยงอีกเยอะๆ เขาเป็นคนเก่ง เป็นคนกล้า กล้าเสี่ยงกล้าทำ ส่วนมากจะนำความหายนะมาสู่บ้านเมือง”
บีบีซีไทยพยายามติดต่อนายทักษิณเพื่อขอความคิดเห็นต่อคำกล่าวข้างต้น แต่ไม่ได้รับการตอบรับ