รองนายกฯ เผยไร้ข้อสรุปถก กสทช.-3ค่ายมือถือ ขอใช้ ม.44 ยืดจ่ายค่าคลื่น 900 ยันรัฐบาลต้องคิดรอบคอบ-นัดคุยอีกหลายรอบ ยอมรับหากไม่ประมูลกระทบ 5G
วันนี้ (14 ม.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นำผู้บริหารค่ายมือถือทั้ง 3 ค่าย คือ บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในกลุ่มบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด หรือดีแทค เข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับการขอขยายระยะเวลาการชำระค่างวดเงินประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ออกไปเป็นปี 63 โดยขอให้ใช้มาตรา 44 ยืดการชำระออกไปว่า ไม่มี ยังไม่มีข้อสรุป เขาเพียงมาเล่าปัญหาให้ฟัง ตนในฐานะรัฐบาลอยากรู้อย่างเดียวเท่านั้นว่าถ้ามีการเปิดประมูล บริษัทเหล่านี้จะเข้าประมูลด้วยหรือไม่ เขาก็บอกว่าต้องดูก่อนเพราะการประมูลต้องใช้เงิน แต่เขาไม่มีเงิน รัฐบาลจะช่วยเหลืออย่างไร หากเป็นเงื่อนไขที่เขารับได้ก็จะนำไปคิด แต่ถ้ารับไม่ได้ก็อาจจะไม่เข้าประมูล ทั้งหมดคือตัวแปรที่รัฐต้องนำมาคิด ดังนั้นจึงยังไม่มีคำตอบ
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะใช้มาตรา 44 ตามที่มีการเสนอมา นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่ต้องพูดไปถึงจุดนั้น เงื่อนไขบางเรื่องอยู่ในอำนาจของ กสทช. เงื่อนไขบางอย่างอาจทำให้ไม่ได้ เพราะติดกฎหมาย ก็ต้องแก้กฎหมาย และก็ต้องมาดูอีกว่าหากแก้กฎหมายจะแก้ด้วยวิธีปกติหรือวิธีอื่น จะทำในสมัยรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลหน้า แต่เบื้องต้นต้องรู้ก่อนว่าแต่ละฝ่ายต้องการอะไร ต้องคุยกันอีกหลายครั้ง ตนพยายามจะไม่พูดอะไร
เมื่อถามว่าทางบริษัททั้ง 3 ค่ายได้มีการพูดหรือไม่ว่าหากไม่มีการประมูล 5G ในบ้านเราอาจจะไม่ทัน นายวิษณุกล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่เขาพูดอย่างนั้น แต่จริงหรือไม่เราต้องไปดูกันอีกครั้ง แน่นอนเราอยากเดินไปสู่ 5G แต่การจะไปสู่ 5G ต้องพัฒนาอะไรหลายอย่างรองรับ และการจะพัฒนาก็ต้องทำโดยรัฐและเอกชน และที่สำคัญคือต้องใช้เงิน อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าเรื่องนี้จะมีความชัดเจนเมื่อใด ยังตอบไม่ได้ ต้องพูดคุยกันอีกหลายครั้ง