“เอนก เหล่าธรรมทัศน์” สวน “ธนาธร” เลือกตั้ง 24 มี.ค.เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการจริงหรือ ชี้รากเหง้าปัญหามีฝ่ายท้าทายสถาบันฯ สู้กับฝ่ายปกป้องสถาบันฯ เตือนอย่าให้ใครมาครอบงำง่ายๆ
วันนี้ (11 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก“เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas” ในหัวข้อเรื่อง “เลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปไตยต่อสู้เผด็จการ?” โดยกล่าวถึงกรณีที่ขายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พูดครั้งแล้วครั้งเล่าว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้ของ “ประชาธิปไตย” กับ ”เผด็จการ” โดยพรรคอนาคตใหม่อ้างว่าตนเองเขาว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย และพรรค “เพื่อ” ทั้งหลาย รวมทั้งไทยรักษาชาติ (ทษช.) ก็เป็นฝ่ายประชาธิปไตย การสรุปง่ายๆ อย่างนั้นไม่น่าจะได้ เพราะเป็นการยากที่พรรคมหาเศรษฐีหมื่นล้านจะเป็นฝ่ายประชาชน-ฝ่ายประชาธิปไตย
ยิ่งกว่านั้น การยึดอำนาจเมื่อปี 2557 นั้น ไม่ใช่จู่ๆ มายึด เพราะคนไทยจะต่อต้านหนักหน่วง แต่รากของปัญหาอยู่ที่การนิรโทษกรรมสุดซอย ไม่ฟังเสียงประชาชน รวมทั้งฝ่ายสีแดงนิรโทษกรรมโดยสภาผู้แทนของพรรคฝ่ายที่อ้างตนเป็นประชาธิปไตยอยู่ในตอนนี้
นายเอนกระบุอีกว่า เช้าวันนี้อ่าน เปลว สีเงิน(คอลัมนิสต์ นสพ.ไทยโพสต์) ด้วย คิดว่ารากของปัญหาลึกกว่านั้นอีก หลายท่านเห็นอยู่ นานมาแล้วที่บ้านเมืองเราเกิดเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายท้าทายสถาบันฯ กับฝ่ายรัก-ปกป้อง การเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาฯ นี้จะมองว่าเป็นความต่อเนื่องของความขัดแย้งที่กล่าวมาก็คงจะได้ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 8 กุมภาฯ ที่ผ่านมานี้จะรู้เห็นข้ามพรรคกันหรือเปล่า จะโยงถึงนายใหญ่หรือเปล่า มากน้อยแค่ไหนเดี๋ยวคงทราบ
นายเอนกย้ำว่า อย่าให้ใครมากล่อมง่ายๆ ว่าพรรคเหล่านั้น รวมทั้งอีกพรรคหนึ่งซึ่งเอนไปทางนั้นขึ้นเรื่อยๆ เพื่อคะแนนเสียงเป็นประชาธิปไตยที่แสนดี
รายละเอียดข้อความในเฟซบุ๊ก “เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas”
เลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปไตยต่อสู้เผด็จการ?
เอนก เหล่าธรรมทัศน์
“ผมอ่านเปลว สีเงิน เช้านี้ แล้วนึกย้อนถึงเมื่อวานที่ฟังคุณธนาธรพูด ในไทยรัฐดีเบต พูดอยู่ข้างๆ ผม ครั้งแล้วครั้งเล่าว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ของ “ประชาธิปไตย” กับ ”เผด็จการ” พรรคอนาคตใหม่ นั้น เขาว่าของเขาเอง เป็น ฝ่ายประชาธิปไตย และ พรรค “เพื่อ” ทั้งหลาย รวมทั้ง ทษช ก็เป็นฝ่ายประชาธิปไตย
นี่ก็แล้วแต่มุมมอง ธนาธรมีสิทธิพูด แต่ผมว่าสรุป “ง่าย” อย่างนั้น ไม่ได้ ยากที่พรรคมหาเศรษฐีหมื่นล้านทั้งหลาย จะเป็นฝ่ายประชาชน-ฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งคาร์ล มาร์กซจะเรียกพรรคอย่างนั้นว่า”พรรคนายทุน” เพียงเท่านั้น
ยิ่งกว่านั้น การยึดอำนาจเมื่อปี 2557 นั้น อยู่ๆมายึดใช่จะได้ครับ คนไทยต่อต้านหนักหน่วงแน่ รากของปัญหาอยู่ที่ “นิรโทษ” กัน “สุดซอย” ไม่ฟังเสียงประชาชน รวมทั้งฝ่ายสีแดง นิรโทษโดยสภาผู้แทน ของพรรคฝ่ายที่อ้างตนเป็น “ประชาธิปไตย” อยู่ในตอนนี้
มาเช้านี้อ่าน เปลว สีเงิน ด้วย ผมคิดว่ารากของปัญหาลึกกว่านั้นอีก หลายท่านเห็นอยู่ ครับ นานมาแล้วที่บ้านเมืองเราเกิดเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่าย “ท้าทาย” สถาบัน กับฝ่าย “รัก-ปกป้อง” การเลือกตั้งวันที่ 24 มีนานี้ จะมองว่าเป็นความต่อเนื่องของความขัดแย้งที่ผมกล่าวมา ก็คงจะได้ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 8 กุมภา ที่ผ่านมานี้ จะรู้เห็นข้ามพรรคกันหรือเปล่า จะโยงถึง “นายใหญ่” หรือเปล่า มากน้อยแค่ไหน เดี๋ยวคงทราบ
“ท้าทาย” ต่อไป จริงหรือเปล่า กล่าวหากันหรือเปล่า ขอให้อ่านเปลว สีเงิน ดูเอง ท่านจะเห็นอย่างเปลว อย่างผมหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่อย่าให้ใครมากล่อมง่ายๆ ว่าพรรคเหล่านั้น รวมทั้งอีกพรรคหนึ่งซึ่งเอนไปทางนั้นขึ้นเรื่อยๆ เพื่อคะแนนเสียง เป็น “ประชาธิปไตย” ที่ “แสนดี”