นายกฯ เผย ต้องอธิบายมาตรการระยะสั้นแก้ฝุ่นให้เข้าใจ สั่งทุกหน่วยรายการ แก้ปัญหาเผาไร่อ้อย พร้อมตรวจสอบเผาแล้วค่าน้ำตาลสูง จริงหรือไม่
วันนี้ (11 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการสร้างการรับรู้สู่ชุมชน และได้กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ต้องอธิบายให้เข้าใจว่าอะไรคือฝุ่นละออง PM 2.5 หรือ PM 10 รัฐบาลมีมาตรการรพยะสั้นอย่างไร หลายคนตำหนิว่าทำโน้นทำนี่ไม่เห็นได้เรื่อง ทำกันสนุกไป แต่สิ่งที่รัฐบาลทำลดฝุ่นหลายๆตัว ไม่เฉพาะ PM 2.5 ซึ่งต้องแก้เรื่องการจราจร การเผาไหม้น้ำมันจากเครื่องยนต์ บ้านเรารถยนต์มาก จึงติดมาก ก็ต้องมีแผนระยะยาวว่าต้องทำอย่างไร ต้องไปดูเรื่องระบบขนส่งมวลชน เมื่อสร้างมาแล้วค่าใช้จ่ายแพง ขณะเดียวกันคนจะมีกำลังใช้หรือเปล่า รัฐบาลคิดรอบคอบทุกอัน ฉะนั้น ทำอะไรก็ตาม ถือเป็นความร่วมมือของพวกเรา ไม่เคยมีที่ไหนทำได้มาก่อน เช่น กรณีถ้ำหลวง หากเราร่วมมือกันได้ จะทำได้ดีกว่านี้ในเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่นละอองในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ถ้าทุกคนร่วมมือกันได้ก็จะเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทยอีกครั้ง ต้องมีจิตอาสาทำความดีเพื่อแผ่นดินด้วยหัวใจ ไม่ต้องบังคับ หรือออกกฎหมายเพิ่มเติม ขอเพียงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจริงจังในการทำงานแก้ไขปัญหาระยะยาว ดูต้นต่อสาเหตุของฝุ่น แต่ละประเภทมาจากที่ใด จะป้องกันอย่างไร
“แม้แต่การราดน้ำบนผิวถนนยังถูกบ่น ทำให้เลอะรถ ขี้เกียจเช็ด แล้วคนที่บ่นก็เป็นคนที่บ่นเรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 อันตราย ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อย่างว่าประชาชนก็คิดได้ทุกอย่าง แต่เราเป็นรัฐต้องสื่อสารขอความร่วมมือ ช่วยกันตรงนี้อาจมีผลกระทบบ้างเล็กน้อย คงไม่มีการแก้ปัญหาอะไรที่ไม่มีความเห็นแย้ง โลกวันนี้เป็นแบบนี้ เราก็ต้องมาคลี่ดูว่าจะสร้างความร่วมมือได้อย่างไร” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองถือเป็นปัญหาซ้ำซ้อน โดยเฉพาะการเผาไร่อ้อย ทราบมาว่าถ้าเผาแล้วค่าของน้ำตาลจะสูงขึ้น โรงน้ำตาลจะรับซื้อกันที่ค่าความหวาน จึงต้องดูว่าจริงหรือไม่ รวมถึงการจ้างคนงานตัดอ้อย หากมีใบอ้อยเยอะทำงานลำบาก แต่ถ้าเผาจะทำให้ตัดอ้อยง่าย ตรงนี้ต้องแก้ที่ต้นต่อว่าจะทำอย่างไรให้เกษตรกรเข้าใจ เขาต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มขึ้นหรือเปล่า การแก้ปัญหาต้องฟังเหตุผลเกษตรกรด้วย แล้วมาช่วยกันพิจารณา แต่ถ้าบอกว่าห้าม ก็ไม่สามารถห้ามได้ทุกที เว้นแต่คนที่ตั้งใจฝืนกฎหมาย ก็ต้องถูกลงโทษ ตรงนี้ต้องดูให้ดี ตนไม่ได้ให้ท้ายใครทั้งสิ้น ต้องร่วมมือทั้งสองฝ่าย