“รุ่งเรือง พิทยศิริ” ยื่นหนังสือแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อ กกต. เผยลาออกจากสมาชิกพรรค ทษช.ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.แล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับมติพรรคที่เสนอพระนามฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
หลังจากพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เสนอพระนามพระบรมราชวงศ์พระองค์หนึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 8 ก.พ. จากนั้นได้มีพระราชโองการให้ประกาศว่า การนำสมาชิกชั้นสูงของพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมืองเป็นการกระทำอันมิบังควร ขัดต่อโบราณราชประเพณี และขัดต่อหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญ และขณะนี้ กกต.อยู่ระหว่างการประชุมพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวของพรรค ทษช.เข้าข่ายที่ต้องถูกยุบพรรคหรือไม่
ล่าสุด วันนี้ (11 ก.พ.) นายรุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกและกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ที่ลงวันที่ 4 ก.พ.ต่อ กกต. เพื่อยืนยันว่าตนเองได้มีการลาออกและไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติมีมติเสนอชื่ออว่าที่นายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ โดยนายรุ่งเรืองกล่าวว่า ตนได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรคฉบับนี้ต่อหัวหน้าพรรคไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.พ. เนื่องจากก่อนหน้านั้นเดือน ม.ค.คุยกับทางครอบครัวแล้วไม่อยากให้ตนทำงานการเมืองเนื่องจากลูกอายุน้อยและอยู่วัยที่ต้องการเวลาจากพ่อแม่ แต่ก็คิดว่าจะช่วยทำงานพรรคอีกระยะหนึ่งจนกระทั่งเมื่อไปช่วยหาเสียงที่ชัยนาทเสร็จในวันอาทิตย์ที่ 3 ก.พ. เช้าวันที่ 4 ก.พ.จึงตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกกับหัวหน้าพรรค
ทั้งนี้ นายรุ่งเรืองยืนยันว่าการยื่นลาออกของตนเองไม่ใช่เป็นการชิงลาออกเพราะทราบว่า ในวันที่ 4 ก.พ.จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อมีมติส่งว่าแคนดิเดตนายกฯ โดยตนทราบว่าจะมีการประชุมแต่ไม่ทราบว่าจะมีการพิจารณาเรื่องอะไร แต่เมื่อตัดสินใจลาออกก็ไปยื่นหนังสือกับหัวหน้าพรรคในตอนเช้า จากนั้นก็ออกจากพรรคมาไปทำภารกิจส่วนตัว
เรียนว่าผมเข้ามาช่วงทางพรรคก็เหมือนกับที่ช่วยพรรคอื่นๆ คือช่วยในฐานะเป็นนักวิชาการมาช่วยร่างนโยบาย ส่วนเรื่องตัวบุคคล หรือผู้สมัคร ส.ส. บัญชีนายกฯ เป็นเรื่องที่ผมไม่ชำนาญ ก็จะไม่รู้ในเรื่องการจัดตัวบุคคล อีกทั้งก็มีเหตุผลเรื่องครอบครัวอย่างที่ได้อธิบายไป แต่การลาออกก็ต้องดูเวลาที่หมาะสม ดังนั้นอย่าเรียกว่าชิงลาออกเลย เพราะผมเข้ามาช่วยงานการเมืองกับพรรคก็ไม่เคยหวังอะไร ตอนยื่นหนังสือลาออกกับหัวหน้าพรรคก็แสดงความชัดเจนกับทางพรรคว่าผมไม่ประสงค์จะสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะถ้าหวังคงไม่ถอนตัวจากการสมัคร ส.ส.บัญชี ซึ่งผมค่อนข้างจะได้อันดับดีด้วย”
ส่วนที่ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคแล้วแต่ต้องมายื่นยืนยันกับ กกต.อีกครั้ง ก็เนื่องจากเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในขณะนี้ประชาชน และสื่อให้ความสนใจ ก็อยากจะสร้างความมั่นใจให้กับตนเองว่า ทางกกต.ได้รับทราบเรื่องที่ตนได้ยื่นหนังสือลาออกแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะกลับเข้ามาทำงานการเมืองอีกหรือไม่ นายรุ่งเรืองกล่าวว่า ยังไม่ได้คิด ขอให้เวลากับครอบครัวก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายรุ่งเรือง เป็น 1 ใน 14 คนที่มีรายชื่อเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ โดยคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติตามที่ยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ประกอบด้วย 1. ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2 นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3 น.พ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4 นายรุ่งเรือง พิทยศิริ นายจุลพงศ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรคคนที่ 1 นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค นายคณาพจน์ โจมฤิทธิ์ รองเลขาธิการพรรคคนที่ 3 นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค