ข่าวปนคน คนปนข่าว
**"บิ๊กโจ๊ก" เผยคำพูดเอกอัครราชทูตออสซี่ ยอมรับแจ้งหมายอินเตอร์โพล จับ "ฮาคีม" และประสานไปยังบาห์เรน เอง เบื้องหน้ารู้สึกผิด แต่เบื้องหลังแก้เกี้ยว กดดันไทยปล่อยตัว
กรณีทางการไทยจับกุม "ฮาคีม อัล อาไรบี" อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน แล้วกลายเป็นประเด็นข้ามชาติ เครือข่ายสังคมออนไลน์ โจมตีด่าว่ารัฐบาลไทยอย่างหนัก จนกระทั่งคดีพลิก หลังมีคนแฉว่า "หมายแดง" แจ้งจับ ที่แท้มาจากออสเตรเลียเอง... เรื่องนี้ชัดขึ้นไปอีก เมื่อ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ออกมาเผยคำพูดของเอกอัครราชทูต ออสเตรเลียประจำประเทศไทย หลังจากที่ "บิ๊กโจ๊ก" เข้าพบ และหารือกรณีนี้ เมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (6ก.พ,)
เอกอัครราชทูตฯ ยอมรับว่า เป็นผู้แจ้งหมายจับอินเตอร์โพล แก่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้จับ"ฮาคีม" ตามหมายจับ และมีการประสานทางการบาห์เรน ไว้อีกทางหนึ่งด้วย หวังให้ทางบาห์เรน กดดันไทยให้ส่งตัว"ฮาคีม"ไปให้ด้วย แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เขาเองรู้สึกผิด ตอนนี้จึงต้องพยายามเป็น 2 เท่า เพื่อกดดันไทย ให้ดำเนินการกับ"ฮาคีม"โดยส่งกลับออสเตรเลีย ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ... นี่คือคำพูดของเอกอัครราขทูตออสเตรเลีย ที่บอกกับ "บิ๊กโจ๊ก"
ส่วนเรื่องจะให้ทำตามเสียงเรียกร้อง "บิ๊กโจ๊ก" ก็ตอบกลับไปนิ่มๆว่า ภายหลังศาลไทยได้ออกหมายจับนายฮาคีม ฐานเป็นคนร้ายข้ามแดนแล้ว จึงหมดหน้าที่ของสตม. และส่งตัวให้ศาล เป็นผู้รับช่วงดำเนินการตามกระบวนการตุลาการกฎหมายต่อ ใครก็ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ โดยศาลได้อนุญาตให้ "ฮาคีม" ใช้สิทธิขอทนาย ยื่นคำอธิบายถึงกรณีดังกล่าวขึ้นเป็นเวลา 60 วัน ต่อจากนี้
อนาคตของ"ฮาคีม" จึงต้องรอว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม แต่ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไทยที่ "เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กระดูกแขวนคอ" โดนด่าเละเทะ ด้วยต้นตอของออสซี่ ล้วนๆ ถึงเวลานี้มาบอกแค่"รู้สึกผิด" จะพอมั้ย
** "ทษช."ไทยรักษาชาติ "พรรคลูก"ของเพื่อไทย ที่เครือข่ายทักษิณ หวังเก็บคะแนนมาปั้นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แค่เริ่มต้นรับสมัคร ยังไม่ทันออกหาเสียงก็ส่อแววแตกยับ เพราะลำดับต้นๆ ล้วนเป็นคนใกล้ชิด เพื่อนลูกทักษิณ ส่วนแกนนำ "แดงนปช." รอบนี้เห็นทีจะสูญพันธุ์ เพราะส่วนใหญ่ถูกจัดให้อยู่ อันดับ 20 ขึ้น
รายการ "ดราม่าปาร์ตี้ลิสต์" เกิดแล้วที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่เป็นพรรคลูก ของเพื่อไทย ตามแผน "แตกแบงก์พัน" ของนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเมื่อตอนตั้งพรรค ก็มีแกนนำเสื้อแดงระดับ"ขาใหญ่" มากองอยูที่นี่เป็นจำนวนมาก แต่พอเปิดรายชื่อหลังจากที่ไปยื่นสมัครกับ กกต. เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา "ดราม่า" เกิดทันที ... เพราะรายชื่อ10 อันดับแรก ที่เสี่ยงต่อการสอบตกน้อย ล้วนเป็น"คนใกล้ชิด-เพื่อนลูกทักษิณ" ทั้งนั้น ส่วนแกนนำเสื้อแดง โดนเตะโด่งไปอยู่ลำดับท้ายๆ ...
ลองไล่รายชื่อดูก็ได้ 1. ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช 2. นายจาตุรนต์ ฉายแสง 3. นายฤภพ ชินวัตร ลูกชายนายพายัพ ชินวัตร น้องชายนายทักษิณ 4. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้กว้างขวางเมืองเลย 5. นายมิตติ ติยะไพรัช ลูกชาย"ยุทธ ตู้เย็น" 6. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ลูกสาว"เสธ.แดง" คนสนิท น.ส.ยิ่งลักษณ์ และที่ปรึกษากฎหมาย นายพานทองแท้ ชินวัตร 7. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง 8. นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรค และเพื่อนสนิท น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สมัยเรียนคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และที่ประเทศอังกฤษ 9. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ 10. นายพงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล อดีตประธาน นปช.ราชบุรี...
คนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดคือ ลูกสาว"เสธ.แดง" ที่ได้อยู่อันดับ 6 เหนือกว่า "เต้น" ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนสำคัญของพวกเสื้อแดง ที่ครั้งนี้รั้งตำแหน่งประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรค ที่อยู่อันดับ 7 อีกคน คือ "คณาพจน์ โจมฤทธิ์" ได้ อันดับ 8 เพราะเป็นเพื่อนลูกสาวทักษิณ จึงถูกตั้งคำถามว่า สองคนนี้ มีพลังในการเรียกคะแนนเสียงมากนักหรือ ถึงได้รับการจัดให้ติด"ทอปเทน"... คราวนี้ลองมาดู "แกนนำแดง" ที่เคยมีบทบาทสำคัญ บนเวทีปราศรัย ทีมกฎหมาย หรือคุมกำลังพล ไปอยู่ลำดับที่เท่าไรกันบ้าง ...นิคม ไวยรัชพานิช (18) พิชิต ชื่นบาน (21) เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (24) วีระกานต์ มุสิกพงศ์ (25) สุธรรม แสงประทุม (28) ก่อแก้ว พิกุลทอง (29) วิม รุ่งวัฒนจินดา (35) ระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง (40) พายัพ ปั้นเกตุ (41) นรวิชญ์ หล้าแหล่ง (46) เหวง โตจิราการ (55) วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย (56) มยุเรศ โคตรชมภู (61) กรวีร์ สาราคำ (62) ...
แกนนำแดง นปช. แกนนำแดงท้องถิ่น ที่เคยคาดหวังว่าจะได้เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เมื่อมาอยู่พรรคนี้ ส่วนใหญ่อยู่เกินลำดับที่ 20 แทบทั้งนั้น โอกาสที่จะได้เป็นส.ส.แทบ"เป็นศูนย์" ขนาดคนในพรรคด้วยกันเองยังมองว่า แม้แต่ "ณัฐวุฒิ" ที่ อยู่อันดับ 7 ซึ่งถือว่าดีที่สุดในบรรดา"แดงนปช." ยังไม่รู้จะ"ลูกผี ลูกคน" เพราะ การเลือกตั้งครั้งนี้ มีบัตรให้กาใบเดียว คะแนนที่จะมานับรวมเพื่อเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์นั้น ก็มาจากการเลือกส.ส. เขต แล้วผู้สมัคร ส.ส.เขต ของพรรคไทยรักษาชาติ ส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย พวกที่อยู่ลำดับ 20 เป็นต้นไป แทบไม่มีลุ้น
ภาพการประชุมพรรคที่เคยคึกคัก เดินสายเปิดเวทีต่างจังหวัด ที่เคยมีแกนนำแดงนปช. ไปร่วมกันอย่างคึกคัก หลังจากนี้คงกร่อยไปเยอะ มีการเมาต์กันในพรรคแบบไม่กลัวคนนอกได้ยินว่า หลังเลือกตั้งครั้งนี้ ในสภาควรจะมีคนที่มีประสบการณ์ มาเป็นกำลังหลักในการพูด การอภิปรายในสภา แต่ดูจากรายชื่อแล้ว ก็คงไม่มีความหมายอะไรแล้ว ถ้าคิดว่าจะเอาคนใกล้ชิด หรือเพื่อนลูกๆ มาเป็นส.ส. งั้นก็ให้ลงพื้นที่หาเสียงกันเองก็แล้วกัน อยากรู้นักว่าจะมีคะแนนหรือเปล่า เดินลงไปใน พื้นที่ จะมีชาวบ้านรู้จักบ้างไหมก็ยังไม่รู้ ... อย่างไรก็ตาม ถึงจะเมาต์ จะบ่นอย่างไร ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เพราะได้ยื่นรายชื่อให้ กกต.ไปแล้ว ผ่านขั้นตอนการสมัครไปแล้ว บรรยากาศในพรรค"ทษช."หลังจากนี้เห็นทีจะแย่สุดสุด
**วงในเฉลยว่า "ชัชชาติ" แพ้ลูก"ดราม่า"ของหญิงหน่อย เลยต้องไปเป็นเบอร์ 2 ในบัญชีนายกฯของพรรค แถมไม่มีชื่อในปาร์ตี้ลิสต์ แต่ "ชัชชาติ" ตัดจบบอกว่า ทุกอย่างเขาเลือกเอง ไม่เสียความรู้สึก และเล็งที่จะไปลงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. งานนี้คนที่เสียความรู็สึก เหมือนถูกหลอกก็คือ"ติ่งชัชชาติ"
กรณี เทพบุตรสุดแกร่ง "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่เป็น "เบอร์2" ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค แต่ไม่มีชื่อในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ ทำท่าว่าจะเป็นประเด็น "ดราม่า" ในพรรค เพราะหลังเลือกตั้งมีโอกาสที่จะตกอยู่ในสภาพ "ขาลอย" สูงมาก แต่เจ้าตัวรีบออกมาตัดบทว่า เป็นความสมัครใจเอง ที่ไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ เพราะเชื่อว่ากติกาเลือกตั้งใหม่ จะส่งผลให้คนที่ได้เป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค ลดลงแน่ และคนเก่งๆ ในพรรคก็มีเยอะ จึงขอมุ่งที่ แคนดิเดตนายกฯ แบบเต็มตัว 100 % ดีกว่า ไม่มีถอย ไม่มีท้อ ...
การเปิดตัวของ "ชัชชาติ" ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีเรื่องให้ฮือฮา ผสมดราม่า มาตลอดเป็นระยะๆ ด้วยภาพลักษณ์ที่ถูกใจ "คนรุ่นใหม่" และคนชั้นกลางในเมือง เมื่อประกบคู่กับ "หญิงหน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยแล้ว ก็เกิดการเปรียบเทียบขึ้นมาทันทีว่า ใครเหมาะสมกับการเป็น "เบอร์1" ของพรรคมากกว่ากัน ... มีการปล่อยข่าวว่า พรรคได้ทำโพลเป็นการภายใน ผลออกมาว่า ถ้า "หญิงหน่อย" เป็นเบอร์ 1โอกาสที่พรรคจะได้ ส.ส.ประมาณ 170 แต่ถ้าพรรคเลือกเอา"ชัชชาติ" บุรุษที่แกร่งที่สุดในปฐพี มาขายเป็นเบอร์ 1 พรรคมีโอกาสได้ส.ส. 220 ... หลังจากนั้นไม่นานก็มีรายงานข่าวจากพรรคว่า มี "ใบสั่งจากแดนไกล" จากคนที่ไม่ค่อยกินเส้นกับหญิงหน่อย ให้ดัน "ชัชชาติ" ขึ้น เบอร์ 1 สื่อแทบทุกสำนัก ยกให้เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ ขนาด "วัน อยู่บำรุง" ลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งยืนคนละข้างกับ "หญิงหน่อย" ถึงกับออกมาโพสต์ ข้อความพร้อมรูป ชัชชาติ บอกว่า "นี่ลูกพี่ผม"...เมื่อสื่อไปถามเรื่องนี้จาก "หญิงหน่อย" ก็ได้รับคำตอบพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากว่า ไม่เป็นไร ตนเองพร้อมเป็น "เจเนอรัลเบ๊" รับทำทุกอย่างเพื่อพรรคอยู่แล้ว ...แล้วทั้งสองก็ยังควงคู่กันออกพปปะประชาชน หาเสียงกันต่อ ในลักษณะเทน้ำหนักเบอร์ 1 ไปที่อยู่ที่ ชัชชาติ
แต่แล้วก่อนวันที่ 4 ก.พ. ที่ กกต.เปิดรับสมัครส.ส. เพียง 1 วัน พรรคก็ประกาศออกมาว่า บัญชีนายกฯ ของพรรคนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นเบอร์ 1 ชัชชาติ เบอร์ 2 ชัยเกษม นิติสิริ เป็น เบอร์ 3 ทำเอากองเชียร์งง งันกันไป ... คำตอบที่วงในพรรคชี้แจงแบบออฟเรกคอร์ค ก็คือ ชัชชาติ สัมผัสยาก ส่วน "หญิงหน่อย" มีดีที่รู้เกม พูดจาภาษาการเมืองกับคนในพรรคดีกว่า มีลูกเล่นดราม่า เวลาเดินสายหาเสียง โผจึงกลับมาออกที่หญิงหน่อย และเมื่อถึงวันที่ 5 ก.พ. ที่หญิงหน่อย นำลูกพรรคไปสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ปรากฏว่า ไม่มีชื่อของ"ชัชชาติ" ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์เสียนี่ ดราม่าทำท่าจะเกิดอีก แต่ชัชชาติ รีบมาตัดบท ว่าสมัครใจเองที่ไม่ลง ปาร์ตี้ลิสต์ เพราะตั้งใจจะทำหน้าที่ ในฐานะนายกฯ เบอร์ 2 อย่างเต็มที่ ไม่มีงอแง หลังเลือกตั้งถ้าไม่มีตำแหน่งอะไร ก็เล็งไว้ว่า จะไปสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. หรือกลับไปอยู่ในภาคธุรกิจก็ได้ ...หลายคนมองว่าที่ผ่านมา เหมือนชัชชาติถูกหลอกใช้ แต่ถึงวันนี้ ความจริงเฉลยออกมาแล้วว่า คนที่ถูกหลอกคือ "แฟนคลับชัชชาติ" ต่างหาก