ทีมโฆษกรัฐ เผย ครม. เห็นชอบข้อเสนอ ป.ป.ช. ป้องทุจริตสถานศึกษา ห้ามยัด “เด็กฝาก-แปะเจี๊ยะ” กันทุจริต จูงใจลดหย่อนภาษีบริจาคเงิน ร.ร. ทุรกันดาร
วันนี้ (5 ก.พ.) เวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. รับทราบมาตรการป้องกันการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือ ปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่ หรือ การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) เสนอ โดย ป.ป.ช. ได้มีข้อเสนอแนะต่อ ครม. กำหนดมาตรการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษี โดยมุ่งเน้นให้ผู้บริจาคเงินเพื่อการศึกษาให้กับโรงเรียนที่มิใช่โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง หรือ โรงเรียนที่มีความขาดแคลน หรือ ด้อยโอกาสห่างไกลความเจริญ หรือ โรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ได้รับสิทธิทางด้านภาษีมากกว่าปกติที่กำหนด ณ ปัจจุบัน โดยให้กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางที่ชัดเจน
พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. ต่อ สพฐ. ให้พิจารณายกเลิกหลักเกณฑ์การรับนักเรียนกรณีนักเรียนที่มีเงื่อนไขพิเศษทั้ง 7 ข้อ เนื่องจากเป็นช่องทางสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์ตอบแทน นอกจากนี้ ให้กำหนดวิธีการเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคำนวณสัดส่วนการรับนักเรียน โดยมุ่งให้ความสำคัญกับการให้เด็กได้ศึกษาต่อยังสถานศึกษาใกล้บ้าน และทุกสถานศึกษาต้องดำเนินการแจ้งค่าใช้จ่ายและรายละเอียดการเก็บเงินบำรุงการศึกษาให้ผู้ปกครองนักเรียนได้รับทราบไว้โดยชัดเจน โดยจะเป็นมาตรการป้องกันมิให้มีการเรียกเก็บเงินบำรุงการศึกษาเกินอัตราที่กำหนด รวมถึงให้มีการประกาศห้ามมิให้สถานศึกษาดำเนินการเอื้อประโยชน์โดยให้สิทธิพิเศษหรือโควตาแก่สมาคมผู้ปกครองและครู สมาคมศิษย์เก่า หรือสมาคมที่เกี่ยวเนื่องกับด้านการศึกษาของแต่ละสถานศึกษา ในลักษณะที่มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในการฝากเด็กเข้าเรียนหรือในลักษณะการมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน
พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ข้อเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการ ป.ป.ช. เห็นควรให้มีการสุ่มตรวจสอบรายได้ของสถานศึกษาทั้งก่อนและหลังช่วงเวลาการรับนักเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบเงินบริจาคของสถานศึกษาที่มีอัตราการแข่งขันสูงเป็นประจำทุกปี และเปิดเผยข้อมูลรายรับ-รายจ่ายของแต่ละสถานศึกษา ข้อมูลการรับเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้แก่ และลงโทษอย่างเคร่งครัดในกรณีที่สถานศึกษาหรือผู้มีอำนาจของสถานศึกษา ไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่ออย่างไรก็ตาม ข้อเสนอแนะดังกล่าวข้างต้นมุ่งเสนอต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในการเรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์ตอบแทนเพื่อโอกาสในการเข้าเรียนของสถานศึกษา จึงควรนำข้อเสนอแนะไปใช้กับสถานศึกษา