xs
xsm
sm
md
lg

“สมศักดิ์” ควง “ผู้กองธรรมนัส” ลุยหาเสียง “เมืองสองแคว” มั่นใจปักธงได้แน่ ป้อง “บิ๊กตู่” ไม่ต้องลาออก เหตุไม่ได้ช่วยหาเสียง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สมศักดิ์” ควง “ผู้กองธรรมนัส” ลุยหาเสียง “เมืองสองแคว” เน้นจุดขายก้าวข้ามความขัดแย้ง มั่นใจมีที่นั่ง ส.ส.พิษณุโลกแน่ โวปราศรัยคนไม่ลุกหนี ลั่น พปชร.ไม่ใช่พรรคทหาร เย้ยพรรคอื่นคิดนโยบายไม่เป็น ป้อง “บิ๊กตู่” ไม่จำเป็นลาออกเพราะไม่ได้ช่วยหาเสียง “ธรรมนัส” ปลื้มชาวบ้านชอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายอนุชา น้อยวงศ์ ผู้สมัครส.ส. เขต 3 จ.พิษณุโลก นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่เพื่อปราศรัยแนวนโยบายของพรรค และรับฟังความเห็นของประชาชน

นายสมศักดิ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า จะเดินหน้าต่อยอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ครอบคลุม และเพิ่มจำนวนบัตร นอกจากนี้ นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ยังให้ความสำคัญกับเกษตรกร โดยเฉพาะราคาข้าว พืชผลการเกษตร ต้องดีกว่าปัจจุบัน รวมถึงสนับสนุนอาชีพเสริมด้วยนโยบายโคบาลประชารัฐ ให้โคไปเลี้ยงควบคู่กับอาชีพหลัก เกษตรกรยุคใหม่จะไม่มีใครทำเกษตรเชิงเดี่ยวเราต้องสร้างอาชีพทางเลือก และเน้นย้ำเดินหน้านโยบาย ส.ป.ก. โดยที่ดินจะยังคงสิทธิเป็นของส.ป.ก.แต่ประชาชนจะนำไปค้ำประกันในการทำธุรกรรมได้และการพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปีไม่มีดอกเบี้ย การทำนโยบายต่างๆของพรรคพลังประชารัฐ จะเห็นชัดเจนว่าเข้าใจประชาชน ให้ความสำคัญเกษตรกร และเราตั้งใจที่จะช่วยแก้ปัญหา และเดินหน้าประเทศ

จากนั้นนายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์หลังการปราศรัยว่า การลงพื้นที่จ.พิษณุโลก ทั้งเขต 3 และเขต 5 ส่วนใหญ่ที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ และเป็น ส.ป.ก. จึงมาอธิบายถึงแนวนโยบายการแก้ปัญหาที่พรรคพลังประชารัฐ มีความชัดเจน ต้องการทำให้ประชาชน มีพื้นที่ทำการเกษตรอย่างถูกต้อง จากการลงพื้นที่และเดินตามผลงานรัฐบาลบางส่วน ทำให้ความนิยมในตัวผู้สมัคร จ.พิษณุโลก มากขึ้น มีความเป็นไปได้สูง ที่ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ จะสามารถปักธงจ.พิษณุโลกได้ ส่วนผลโพลที่คะแนนนิยมลดลง มองว่า คะแนนนิยมขึ้นลงตามการขยับตัวของพรรคการเมือง แต่มั่นใจพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ไม่มีผลกระทบ และหลังวันที่ 2 ก.พ. ที่พรรคจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. และนโยบายบางส่วน จะทำให้คะแนนนิยมกลับมาเชิงบวกมากขึ้น

นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีพรรคมีมติเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯในบัญชีของพรรค ว่า พรรคพลังประชารัฐ ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ เพราะได้บุคคลากรสำคัญ และสามารถต่อยอดนโยบายได้ทันที อย่างเรื่องข้าว ที่ปัจจุบันทำให้ราคาสูงขึ้น พรรคจะนำมาต่อยอดให้ชัดเจนมากขึ้น มั่นใจว่าจะเข้าเป้า เนื่องจากเป็นนโยบายที่จับต้องได้ เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ ควรลาออกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ลาออกไม่ได้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ มาในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ส่วนตัวคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่ได้ออกมาช่วยหาเสียง จึงไม่มีความจำเป็นต้องลาออก และที่ผ่านมาไม่มีประเพณีปฏิบัติที่ไหน การเมืองตรงข้าม รวมถึงสื่อบางช่อง วิพากษ์วิจารณ์ในแนวเลือกข้าง ส่วนตัวขอให้นำประเด็นอื่นมาพูดบ้าง

“ผมไม่เห็นพรรคอื่นมีนโยบายที่โดดเด่น มีแต่เราที่ถูกแกล้ง ถูกใส่ร้าย รวมถึงจี้ถามทำไมไม่ลาออก เดี๋ยวก็ลามไปถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ผมยืนยันพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่พรรคทหาร เพราะผู้สมัครทั้งแบบเขต และบัญชีรายชื่อ ไม่มีทหาร ส่วนการเชิญพล.อ.ประยุทธ์ มานั้นเพราะมีผลงาน และต้องการนำนโยบายมาต่อยอด และการที่พล.อ.ประยุทธ์ มาร่วม ถือเป็นการประกันความมั่นคง และเป็นสายกลางไม่มีแบ่งสี” นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้นเมื่อเวลา 17.00 น. นายสมศักดิ์ พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่ตำบลวงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อพบปะประชาชนกว่า 5,000 คน พร้อมนำเสนอแนวนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ และนำแนะว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งจังหวัดพิษณุโลก คือ นายพัฒณปกรณ์ ดอนตุ้มไพร เขต 2 และ นายอนุชา น้อยวงศ์ เขต 3

โดยนายสมศักดิ์ ขึ้นเวทีปราศรัยนำเสนอแนวนโยบายที่จะต่อยอดจากรัฐบาล อย่างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ราคาข้าว รวมถึงเสนอนโยบายโคบาลประชารัฐ พักชำระหนี้ 3 ปี ไม่มีดอกเบี้ย พร้อมเน้นย้ำกับประชาชนว่า ที่ต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ เข้าไปเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เพราะจะก้าวข้ามความขัดแย้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนเริ่มปราศรัย นายสมศักดิ์ ได้เรียกประชาชนมานั่งเก้าอี้ที่ว่างหน้าเวที พร้อมพูดว่า "เดี๋ยวจะเหมือนเวทีที่จังหวัดมหาสารคาม ที่ไปบอกว่ามีคนลุกหนี แต่วันนี้ยืนยันเลยว่า ถ้าประชาชนฟังผม กับร.อ.ธรรมนัส จะไม่ยอมกลับบ้านแน่นอน หากฟังไม่จบ เพราะมีแต่นโยบายดีๆ"

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส ปราศรัยว่า จากที่ได้เดินทางพบประชาชนหลายจังหวัดในภาคเหนือ สิ่งที่สัมผัสได้ ทำให้มีกำลังใจต่อสู้เพื่อความสุขของประชาชน และยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเดินหน้าต่อเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งก่อนนี้ มีนักการเมืองหลายพรรค พยายามโจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่านำภาษีไปแจกคนจน แต่อยากฝากประชาชนว่า พรรคเห็นความสำคัญประชาชนทุกกลุ่ม เมื่อประชาชนเดือดร้อน ก็ต้องเยียวยา โดยจะไม่ปล่อยให้ใครอยู่ข้างหลังโดยไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐ นอกจากนี้ ยังย้ำว่า ประเทศไทย 10 ปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์บ้านเมืองแตกแยก มีการแบ่งสี ทำให้กลายเป็นสังคมที่ไม่น่าอยู่ แต่พรรคพลังประชารัฐ จะนำพาก้าวข้ามความขัดแย้ง และถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนแปลง

ในช่วงท้าย ร.อ.ธรรมนัส ได้ถามประชาชนว่า อยากให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่คู่กับคนไทยตลอดไปหรือไม่ ปรากฎว่า ประชาชนพร้อมใจกันชูกำปั้น และตะโกนว่า เฮ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าเห็นด้วยกันอย่างพร้อมเพรียง.


กำลังโหลดความคิดเห็น