xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” นั่งชิลจิบกาแฟ บ่นทุกพรรครุมพรรคทหาร ลั่นถ้ากลัวคงไม่ตัดสินใจรัฐประหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ประยุทธ์” ผ่อนคลายนำคณะนั่งชิลจิบกาแฟร้านหรู บอกพรรคไหนจะทาบเอานโยบายมาดู ดักอย่าเลิกที่ รบ.ทำมาหมด ชี้ทุกพรรครุมชูนโยบายสู้พรรคทหาร ไม่หวั่นเปลืองตัวลุยการเมือง บอกถ้ากลัว ต้องกลัวตั้งแต่ 22 พ.ค. 57 แล้ว



วันนี้ (30 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิธีเปิดมหกรรมสร้างการตระหนักรู้ต่อยุทธศาสตร์ชาติ “อนาคตไทย อนาคตเรา : Our Country Our Future” ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ เสร็จสิ้น นายกฯ ได้เดินลงมาเยี่ยมชมนิทรรศการบริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเดินผ่านร้านค้าภายในห้างฯ ก็ได้ทักทายนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการอย่างเป็นกันเอง พร้อมชวนผู้สื่อข่าวมาดื่มกาแฟอย่างอารมณ์ดี ที่ร้าน Twinings โดยมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ

โดยนายกฯ ได้สั่งกาแฟอเมริกาโนร้อน และชา London Strand Earl Grey พร้อมของว่างอย่างบลูเบอร์รีมัฟฟิน สโคนเซต และทไวน์นิ่งซิกเนเจอร์ ถือเป็นแรกตั้งแต่ที่ พล.อ.ประยุทธ์รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ใช้เวลานอกกำหนดการเพื่อผ่อนคลายอิริยาบถ เป็นที่น่าสังเกตว่าเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ถูกจับตามองที่จะตอบรับเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรคหรือไม่ ซึ่งการมานั่งดื่มกาแฟครั้งนี้อาจจะเป็นการปรับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จากที่ดูดุดันให้เข้าถึงง่ายขึ้นและดูเป็นกันเอง

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเป็นแม่ทัพก็ไม่เคยมานั่งอะไรแบบนี้ เพราะไปไหนลำบาก รปภ.ที่ตามไปด้วยก็เยอะแยะ วันหยุดก็ไม่ได้พาครอบครัวไปเที่ยวไหน ทุกวันนี้เลิกงานก็กลับบ้าน มีไปตีกอล์ฟบ้าง ทั้งนี้ตนชอบรับประทานของหวานเพราะรับประทานข้าวไม่ค่อยได้ พอรับประทานของหวานแล้วก็รู้สึกดีขึ้น

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนในประเด็นการเมืองนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่ออกมาก็ไม่พ้นสิ่งที่รัฐบาลได้ทำไปแล้ว แต่เขาจะทำให้มากขึ้นใช้เงินให้มากขึ้นจากจะให้ 600 บาท ให้ 800 บาท จะเอาเงินที่ไหนมาให้ ส่วนนโยบายประชารัฐของรัฐบาลซึ่งไปพ้องกับชื่อของพรรคการเมือง พรรคดังกล่าวมาที่หลังรัฐบาลไม่ใช่หรือ ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน การทำงานในนโยบายของประชารัฐทำกันมานานแล้ว ทางนักการเมืองก็ไปหาชื่อให้มันสอดคล้อง อย่างพรรค ทษช. (ไทยรักษาชาติ) สื่อก็รู้ว่าตั้งมาอย่างไร แล้วตัวย่อมาจากอะไร อย่างไรก็ตาม ในเมื่อพรรคการเมืองทุกพรรคต้องการที่จะเป็นรัฐบาล ต้องการบริหารราชการแผ่นดิน ทุกคนก็ต้องดูว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง ทำไมจะต้องเลิกของเก่ากันหมดเลยหรือ อะไรที่ดีก็ต้องทำต่อ ไม่ใช่ว่าอะไรที่เกิดในรัฐบาลก่อนต้องเลิกหมดมันไม่ใช่

เมื่อถามว่า เหตุใดนายกฯ ถึงพูดว่ามีคนไม่พอใจทหารบ่อยในช่วงนี้ มีกระแสมากขนาดนั้นเลยหรือ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มี ทุกพรรครุมทหารหมดนั่นแหละ กลายเป็นต่อสู้ระหว่างพรรคทหารกับพรรคประชาธิปไตย สื่อก็รู้อยู่ ทำไมต้องต่อสู้กันเอง เลิกเสียทีการเมืองแบบนี้

เมื่อถามว่ากรณีที่นายกฯ ระบุว่า มีคำตอบในใจว่าจะทำงานการเมืองต่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ในใจไง เมื่อถามว่า ท่าทีของพรรคพลังประชารัฐ ดูเหมือนจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯในบัญชี พรรค พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีหลายพรรค ขอดูก่อน หลายพรรคเขาก็สนับสนุนเรา แต่ปัญหาเราคือเราเลือกได้พรรคเดียว ก็ดูก่อนว่านโยบายเขาเป็นอย่างไร เมื่อถามย้ำว่า มีคนมองนโยบายของพรรคพลังประชารัฐสานต่อนโยบายรัฐบาลนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่เห็นเลย เขาต้องทำนโยบายมาให้ตนดู

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ามีหลายพรรคการเมืองติดต่อมา มีพรรคใดทาบทามมาแล้วหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็เขาพูดในสื่อ เมื่อถามย้ำว่า วันนี้เหมือนจะมีพรรคเดียวคือพรรคพลังประชารัฐที่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ในนามพรรค พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คำว่าสนับสนุนมี 2 อย่าง คือ เสนอชื่อเป็นนายกฯ ซึ่งตอบรับให้ได้เพียงพรรคการเมืองเดียว แต่พรรคอื่นที่มีอยู่หลายพรรคก็บอกว่าจะเสนอตนซึ่งเป็นการสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดิน

เมื่อถามว่าจะรู้สึกอย่างไรหากตัดสินใจลงมาทำงานทางการเมืองต่อ นายกฯ กล่าวว่า ก็ปรับตัวเองเยอะ ต้องอดทนมากกว่านี้ แต่บางทีตนก็เป็นมนุษย์ คนเราก็มีความรู้สึก บางทีทำอะไรไปแล้วไม่เข้าใจ ก็ต้องทำให้มากขึ้น แต่ที่ตนไม่ชอบคือการ โป้ปดบิดเบือน เพราะเราไม่เคยทำ

เมื่อถามว่า ครั้งนี้ถือว่าปรับตัวแล้วหรือยัง เพราะปกติไม่เห็นนายกฯ ใช้เวลาสบายๆ แบบนี้ ที่ผ่านเสร็จงานข้างนอกก็จะกลับเข้าทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มว่า พอดีจะสั่งงานเขาด้วยว่าให้ปรับเรื่องยุทธศาสตร์ชาติอีกนิดหน่อย พอเดินผ่านร้านนี้เห็นสวยดี เหมือนนั่งอยู่ต่างประเทศ เพราะเวลาตนไปต่างประเทศก็ไม่เคยนั่งแบบนี้ อยู่แต่ในห้องประชุม ในโรงแรมไม่เคยแวะที่ไหน

เมื่อถามว่า ฝ่ายกฎหมายได้หารือถึงข้อปฏิบัติต่างๆ ของนายกฯ รวมถึงรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการ รวมถึงรายการศาสตร์พระราชาฯ ก็กำลังถามอยู่ แต่การที่ตนพูดในนามของรัฐบาลในรายการดังกล่าว ไม่ได้พูดว่าให้เอาพรรคใคร ตนก็พูดของตนในเรื่องงานที่มีปัญหาเข้ามาทุกวัน พวกเราไม่มีประโยชน์ส่วนตัว เพราะหลายคนมองว่านายกฯ ได้ประโยชน์ ตนขอถามหน่อยอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ ได้ประโยชน์อะไรสักบาทหรือไม่

เมื่อถามว่า หลายคนเป็นห่วงว่าหากลงสนามการเมืองเต็มตัว จะถูกขุดคุ้ยเรื่องต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สื่อก็ต้องช่วยตน ต้องไปบอกให้เลิกกระทำแบบนี้ แล้วเรื่องส่วนตัวตนมีอะไรเสียหาย อยู่มา 4 ปีตนก็ไม่มีเรื่องนี้ สื่อต้องบอกเขา เป็นเครื่องมือให้เขาทำไม สื่อเป็นเครื่องมือให้เขาโดยไม่รู้ตัว เขาพูดอะไรก็ถ่ายทอดมา ประชาชนก็ไม่รูว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ตนก็เสียใจเพราะไม่ได้ทำอย่างที่เขาว่า

เมื่อถามว่า หากตัดสินใจเข้าสู่สนามการเมือง ไม่กลัวเปลืองตัวหรือ เพราะจะเป็นเป้าหมายในการโจมตีของฝ่ายการเมือง นายกฯ กล่าวว่า “ถ้ามันโจมตีไม่ใช่เรื่อง ผมก็ไม่สนใจ แล้วถ้าผมกลัวจะเข้ามาทำไม ถ้ากลัวก็ต้องกลัวตั้งแต่ 22 พ.ค. 57 แล้ว จบไหม ถ้ากลัว ผมไม่ตัดสินใจแบบนี้หรอก”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนคนที่สนับสนุนตนก็หวังว่าเขาจะเข้าใจตนมากขึ้น อยากให้เข้าใจสถานการณ์ อดีต ปัจจุบัน และอนาคตคืออะไร การเมืองควรจะต้องเป็นอย่างไร ตนคาดหวังกับ 4 ปีที่ทำมา คนไทยต้องรู้จักและเอาทุกอย่างมาเป็นบทเรียน อย่าให้เกิดขึ้นอีก ถ้าไม่เกิดขึ้นอย่างในอดีตตนก็ไม่มีทางมายืนอยู่ตรงนี้หรอก







กำลังโหลดความคิดเห็น