เพิ่มเบี้ยประชุม “สภาความมั่นคง” ย้อนหลัง สูงสุดครั้งละ 1 หมื่น พร้อมจ่ายค่าตอบแทน ที่ปรึกษาฯ 6 คณะ 26 คน รายละ 3 หมื่น พร้อม ประโยชน์ตอบแทนอี่นและสิทธิประโยชน์อื่น เทียบเท่าข้าราชการทั่วไป
วันนี้ (25 ม.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ให้กำหนดเพิ่มเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่น ให้กับสมาชิก สมช. และคณะกรรมการ รวมถึงค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์อื่นให้กับที่ปรึกษาของ สมช. โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ต.ค. 2561 ตามพระราชบัญญัติสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2559 ภายหลัง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เป็นผู้เสนอ
ทั้งนี้ กำหนดให้ประธาน สมช. และ สมาชิก สมช. ผู้เคยเป็นสมาชิกเฉพาะกิจ คณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการ ได้รับเบี้ยประชุมและประโยซนํตอบแทนอื่น ตามที่ ครม. กำหนด (มาตรา 12 วรรคหนี่ง) และกำหนดให้คณะที่ปรึกษา สมช. ได้รับค่าตอบแทน และ สิทธิประโยซนํอื่นตามที่ ครม. กำหนด (ตามมาตรา 12 วรรคสอง)
“เบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดให้มีองค์ประกอบ ได้แก่ 1) นายกรัฐมนตรีเป็นประธานสภา 2) รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานสภา และ 3) สมาชิกของสภาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สมาซิกประจำและสมาซิกเฉพาะกิจ”
นอกจากนี้ สภา สมช. ยังสามารถแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณา หรือ ปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด ทั้งนี้อาจพิจารณากำหนดเบี้ยประชุมให้แก่สมาชิกประจำของ สมช. และคณะกรรมการได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน โดยมีอัตราเบี้ยประชุมเทียบเคียงจากประกาศ กระทรวงการคลัง เรื่อง กำหนดรายชื่อคณะกรรมการ และ คณะอนุกรรมการที่มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุม เป็นรายเดือนและอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนและเป็นรายครั้ง สำหรับกรรมการ อนุกรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ พ.ศ. 2558 และกำหนดให้สมาชิกเฉพาะกิจ สมช. กำหนดให้ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2557 รายละเอียดด้งนี้
“ประธานสภา เดือนละ 10,000 บาท รองประธานสภา เดือนละ 9,000 บาท สมาชิกประจำ เดือนละ 8,000 บาท และสมาชิกเฉพาะกิจ ครั้งละ 1,600 บาท ส่วนคณะกรรมการ ที่กำหนดรายชื่อ 6 คณะ มีอัตราเบี้ยประชุม ประธานกรรมการ เดือนละ 4,000 บาท รองประธานกรรมการ เดือนละ 4,500 บาท กรรมการ เดือนละ 4,000 บาท”
อนึ่ง สมาชิก สมช. และคณะกรรมการจะมีสิทธิไค้รับเบี้ยประชุม เฉพาะเดือนที่มีการประชุม และได้รับไม่เกินเดือนละ 1 ครั้ง และหากเดือนใดไม่มีการประชุมหรือมีการประชุม แตไม่เข้าร่วมประชุมให้งดจ่าย
นอกจากนี้ ยังให้กำหนดค่าตอบแทนของที่ปรึกษาของสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยให้ที่ปรึกษาฯ ซื่งมิได้เป็นข้าราชการได้รับค่าตอบแทนในอัตราไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน และให้ที่ปรึกษาฯ ซึ่งเป็นข้าราชการได้รับค่าตอบแทนในอัตราไม่เกิน 4,000 บาทต่อเดือน
อนึ่ง เงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ที่ปรึกษาของฺสภาความมั่นคงแห่งชาติให้เป็นไป ตามรายละเอียดการกำหนด่หลักเกณฑและเงื่อนไชการจ่ายค่าตอบแทน รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่ของ ที่ปรึกษาชองสภาความมั่นคงแห่งชาติตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติกำหนด
ส่วนประโยชน์ตอบแทนอี่นและสิทธิประโยชน์อื่นให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2520 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเตินทางไปราชการ พ.ศ. 2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่เป็นข้าราชการ ส่วนผู้ที่ไม่ไค้เป็นข้าราชการให้เทียบเคียงตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง
ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภา สมช. ได้ลงนามคำสั่งสมช.ที่ 4/2561 เรื่อง แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาของสภาความมั่นคงแห่งชาติ จำนวน 6 ด้าน ดังนี้
ด้านการเตรียมความพร้อมและการป้องกันประเทศ 1. นายชยพล ธิติศักดิ์ 2. พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา 3. พล.อ.อนุตร ธรศรี 4. พล.อ.วินัย ภัททิยกุล
ด้านความมั่นคงภายในและระหว่างประเทศ 1. ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต 2. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ 3. พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ 4. พล.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช 5. รศ.ปณิธาน วัฒนายากร 6. พล.อ.ทวีป เนตรนิยม
ด้านเศรษฐกิจและสังคมวิทยา 1. นายบุญยฤทธิ์ กัลยาณมิตร 2. นายกมลินทร์ พินิจภูวดล 3. นายปรีดี ดาวฉาย 4. นายสายเมือง วิรยศิริ 5. นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ 6. นายพีระ เพชรพาณิชย์
ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และดิจิทัล 1. พล.ท.มโน นุชเกษม 2. นายศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร 3. พล.ท.สุชาติ ผ่องพุฒิ 4. น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ 5. น.อ.นที ปั้นทอง
ด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ 1. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา 2. พล.อ.ชัยชนะ เตชะเกรียงไกร 3. นายถวิล เปลี่ยนศรี
ด้านข่าวกรอง 1. นายชูเกียรติ มาลินีรัตน์ 2. พล.อ.ธิวา เพ็ญเขตกรณ์