“เสี่ยป้อม” ไฟเขียว กกท.ชง ครม.ของบกลาง 69 ล้าน จ้างที่ปรึกษาออกแบบ “ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ (ส่วนกลาง) หัวหมาก” มูลค่า 3 พันล้าน จ่อขอ ครม.อนุมัติแผนก่อสร้าง คาดปลายปี 62 เริ่มดำเนินการ พร้อมใช้งบผูกพันประจำปีจนสิ้นสุดโครงการ 5 ปี
วันนี้ (18 ม.ค.) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) เห็นชอบให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อขอใช้งบกลางดำเนินการจ้างออกแบบศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ (ส่วนกลาง) National Training Center(NTC)โดยอนุมัติให้ใช้เงินทุนจากกองทุนสำรอง กกท.ประมาณ 69 ล้านบาท โดยเมื่อออกแบบเสร็จเรียบร้อยจะนำเสนอ ครม.อีกครั้ง เพื่อขออนุมัติจัดสร้างต่อไป
โครงการดังกล่าว บอร์ด กกท.จะอนุมัติงบประมาณก่อสร้างให้ เมื่อโครงการมีความพร้อม และรายละเอียดของรูปแบบศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ ที่ได้จัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อออกแบบแล้วเสร็จ โดยจะให้ กกท.เสนองบกลาง จาก ครม.เพื่อเป็นงบประมาณค่าดำเนินการก่อสร้างอาคาร และค่าควบคุมงานก่อสร้างในปีแรก คาดว่าประมาณปลายปี 2562 และให้ใช้งบประมาณประจำปีผูกพันต่อไปจนสิ้นสุดโครงการ
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการปรับปรุงศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ในโครงการศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ เตรียมสรุปข้อมูลในเดือน มี.ค. 2562 นี้ หลังจากมีคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปดูงานศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติเกาหลีใต้ มาแล้ว และคาดว่า จะเริ่มก่อสร้างได้ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป คาดว่าจะต้องใช้เวลาถึง 5 ปีในการก่อสร้าง
มีรายงานว่า กกท.มีแผนงานและตั้งของบประมาณไว้ราว 3,000 ล้านบาท เฉพาะการก่อสร้างตัวอาคาร ซึ่งคาดว่า การสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติใหม่ จะสร้างประโยชน์ให้นักกีฬาทีมชาติไทยที่จะได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ทางการกีฬา การวิจัยทางด้านร่างกายและการฝึกซ้อม
“โครงการนี้เป็นนโยบายจาก พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เพื่อสร้างศูนยฝึกกีฬาแห่งชาติ ที่ครบวงจร เพราะที่ผ่านมาสถานที่ฝึกซ้อมที่ไม่เพียงพอ บางกีฬาต้องไปหาที่ซ้อมกันเอง กระจัดกระจายออกไป บางกีฬาก็ไปซ้อมถึงต่างจังหวัด”
มีรายงานด้วยว่า ในอดีต กกท.มีแปลนการก่อสร้างในเบื้องต้น เช่น จะทุบศูนย์ฝึกกีฬาในร่ม ที่อยู่ติดกับอาคารเฉลิมพระเกียรติ 25 ชั้น กกท.แล้วสร้างศูนย์ฝึกขึ้นใหม่บนที่ดังกล่าวเป็นอาคาร 5 ชั้น เพื่อให้นักกีฬาหลายๆ ชนิดได้ฝึกซ้อมร่วมกัน มีอุปกรณ์การฝึกซ้อมอันทันสมัยครบวงจรรองรับ ซึ่งได้มีการเสนอของบไปแล้วกว่า 900 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับการอุดหนุน