กกต.แจงงบฯ ซื้อรถประจำตำแหน่ง ไม่เกี่ยวกับงบฯ เลือกตั้ง ระบุรถเกินอายุใช้งาน ซ่อมตลอดไม่ได้ซื้อรถใหม่มา 7 ปีแล้ว เผยงบเลือกตั้งใช้จ่ายประหยัดหลายรายการซื้อได้ต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้
วันนี้ (10 ม.ค.) นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. กล่าวชี้แจงกรณีการจัดซื้อรถประจำตำแหน่งของ กกต.จำนวน 22 ล้านบาทเศษว่า ในปีงบประมาณ 2562 กกต.ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบฯ แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ งบรายจ่ายประจำ 2,017 ล้านบาท งบสำหรับการเลือก ส.ว.1,300 ล้านบาท งบสำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.4,006 ล้านบาท และ งบเลือกตั้งท้องถิ่น 802 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 4 ส่วนมี พ.ร.บ.งบประมาณควบคุมการใช้จ่ายอยู่ และสำนักงบฯ ก็ได้จัดสรรเงินมาให้กับ กกต.แล้ว โดยในส่วนของการจัดซื้อรถประจำตำแหน่ง ประธาน กกต. กรรมการการเลือกตั้ง และทั้งเลขาธิการ กกต.วงเงิน 22 ล้านบาท อยู่ในงบฯ รายจ่ายประจำ ที่สำนักงบประมาณจัดสรรให้เป็นงบลงทุนประเภทการจัดซื้อครุภัณฑ์ เนื่องจากว่ารถประจำตำแหน่งที่มีอยู่ในปัจจุบันมีอายุการใช้งานมาเกินกว่า 6 ปีแล้ว รถของประธาน กกต.จัดซื้อมาก่อนปี 2554 ส่วนกรรมการคนอื่นซื้อเมื่อ 2554 นับเวลาก็มากกว่า 7 ปี ส่วนของเลขาธิการ กกต.ซื้อตั้งแต่ปี 2548 โดยปัจจุบันรถของ กกต.บางคันก็ใช้งานไม่ได้แล้ว หรือที่ยังใช้งานได้อยู่ ก็จะมีปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุงอยู่ตลอดเวลา หลายครั้งที่ก กต.ได้ตรวจงานต่างจังหวัด รถก็ไปเสียอยู่บ่อยครั้ง
“ล่าสุดรถของนายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กกต.ไปตรวจงานที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ก็ไปเสีย ทางสำนักงานต้องเอารถตู้ไปรับกลับมาที่ กทม. ดังนั้น การที่จะต้องมาเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก ประกอบการจัดซื้อรถเราทำคำขอไปตั้งปี 2561 ก็เพิ่งจะได้รับการจัดสรรมาในปีงบประมาณนี้ ซึ่งการจัดซื้อขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดทำทีโออาร์” นายกฤชกล่าว และว่าการจัดซื้อรถประจำตำแหน่งของ กกต.นั้นเทียบเท่ากับรถประจำตำแหน่งของคณะรัฐมนตรี โดยรถประธาน กกต.มีวงเงินจัดซื้อไม่เกิน 4.2 ล้านบาท กรรมการ กกต.ไม่เกิน 3.7 ล้านบาท และรถของเลขาธิการ กกต.ไม่เกิน 2.7 ล้านบาท
ส่วนเมื่อมีการจัดซื้อรถมาใหม่แล้ว รถรุ่นเก่า กกต.จะเปิดประมูลจำหน่ายตามระเบียบของ กกต.ต่อไป ทั้งนี้เบื้องต้น กกต.ได้จัดซื้อมาแล้ว 2 คันตามงบประมาณปี 2561 เป็นรถเบนซ์รุ่นใหม่ E350e เพื่อรองรับกรรม กกต.อีก 2 คนที่มีเพิ่มตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
สำหรับงบเลือกตั้งจะแยกต่างหากจากงบการจัดซื้อรถ มีแผนการใช้จ่ายที่ชัดเจน ซึ่งแผนการใช้จ่ายงบฯ เลือกตั้ง 4,006 ล้านบาท กกต.ได้อนุมัติและเริ่มที่จะมีการซื้อวัสดุบางอย่างเพื่อมาใช้ในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งหลายรายการทางสำนักงานสามารถจัดซื้อได้ต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้ อย่างหีบบัตรเราตั้งงบประมาณในการจัดหาเพิ่มเติม 45,000 ใบ ใบละ 450 บาท เป็นเงิน 18 ล้านบาท แต่ก็สามารถจัดซื้อได้ในราคาใบละ 271 บาท ใช้งบฯจริงไป 13 ล้านบาทเศษ ประหยัดงบฯไปได้เกือบ 5ล้านบาท คูหาเลือกตั้งจัดซื้อเพิ่มเติม 1 แสนคูหา ตั้งราคาไว้คูหาละ 180 บาท งบประมาณทั้งสิ้น 18 ล้านบาท แต่ก็สามารถจัดซื้อได้เพียงคูหาละ 118 บาท ใช้งบประมาณไป 11.8 ล้านบาท ประหยัดงบประมาณไป 6 ล้านบาทเศษ ซึ่ง กกต.ก็คำนึงถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายงบประมาณเป็นสำคัญ