“ประยุทธ์” ย้ำงานพระราชพิธีต้องสงบเรียบร้อย ปัดยืดเยื้อเลือกตั้ง

นายกฯ แจงเทงบให้กองทุนหมู่บ้านเพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนดีกว่าหว่านลงไป ขู่ต้องคุ้มค่าและห้ามทุจริต ย้ำการหาเสียงต้องไม่ขายฝัน ระบุออกซิงเกิลเพลงใหม่ “ในความทรงจำ” เพื่อให้ทบทวนสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ชี้งานพระราชพิธีต้องสงบเรียบร้อย ไม่อยากยืดเยื้อเลือกตั้งและต้องเลือกรัฐบาล-นายกฯ ที่ดี ไม่ใช่ใครก็ได้

วันนี้ (10 ม.ค.) ที่อาคารชาเลนเจอร์ อาคาร 2 อิมแพค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในงาน “มหกรรมการแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง” โดยมีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และตัวแทนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจากทุกจังหวัดทั่วประเทศกว่า 18,000 คน ร่วมงาน โดยนายกฯ ได้มอบรางวัลให้แก่โครงการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามแนวทางประชารัฐในแต่ละจังหวัด

จากนั้นนายกฯ ขึ้นเวทีกล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเจอพวกเราเกือบ 20,000 คน วันนี้มาในนามของนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาในนามอื่น มาเพื่อดูความก้าวหน้าตามเครื่องมือกลไกประชารัฐ ซึ่งรัฐบาลนี้พยายามเข้ามาแก้ไขเพื่อทำทุกอย่างให้เกิดความเติบโต และจัดระเบียบใน 4 ปีที่ผ่านมา อยากให้ทุกคนรับรู้ว่าการจัดการทั้งหมดนั้นทำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รางวัลที่มอบให้วันนี้เป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจในการบริหารจัดการชุมชน ไม่ใช่แค่เพียงการรับเงินเฉยๆ แต่เพื่อให้ทุกคนได้คิดเองบริหารเองให้ชุมชนเกิดความสามัคคี

ทุกคนเคยได้ยินถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บท แผนการปฏิรูป แผนการปฏิบัติราชการ เป็นความยากง่ายของทุกๆ รัฐบาลที่จะต้องทุกแผนให้สอดคล้องกัน เฉพาะระบบการเงินของภาครัฐซึ่งนำเงินภาษีของคนทุกสดับมาจัดสรร เป็นโครงการต่างๆ เช่นกองทุนหมู่บ้านที่มีการจัดสรรกองทุนในทุกปี ทุกอย่างต้องมีความต่อเนื่อง เมื่อเริ่มต้นก็ต้องมีการสานต่อเพื่อความแข็ง จึงจำเป็นต้องมีงบประมาณมากขึ้น รัฐบาลจึงจำเป็นต้องหารายได้ให้มากขึ้น วันนี้โลกอยู่ได้ด้วยความรู้และเทคโนโลยีรวมทั้งนวัตกรรมใหม่ๆ ถ้าเรามัวจะอยู่แบบเดิมเราจะเดินหน้าไปไหนไปไหนไม่ได้ ทำให้ประเทศเสียผลประโยชน์

นายกฯ กล่าวว่า การใช้ทรัพยากรต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรให้ประหยัด นึกถึงลูกหลานในอนาคต หลายอย่างบางคนอยากให้เป็นของส่วนตัวไปเสียทั้งหมด ทั้งที่ดิน ป่า ภูเขา แหล่งน้ำ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องใช้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อผลในอนาคต เรื่องของงบประมาณ เราต้องฟังประชาชนด้วย การจัดสรรงบประมานต้องทำให้คุ้มค่า ถ้าเอาไปทำอย่างอื่นมากๆ ก็จะไม่มีงบมาลงที่กองทุนหมู่บ้าน วันนี้สิ่งที่ทุกคนต้องการ คือ เงินกองทุน น้ำ และอีกหลายอย่างเรื่องนี้รัฐบาลเข้าใจดี รัฐบาลนี้ต้องดูแลทุกคนโดยเฉพาะเกษตรกรซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยที่ควรต้องยอมรับและอย่าไปอายใคร

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เราทำทุกอย่างเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนในหมู่บ้านดีขึ้น อย่างการลงไปในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการซ่อมแซมบ้านให้แก่ชาวประมง ซ่อมไปอย่างไรก็เหมือนเดิม เพราะซ่อมจากโครงสร้างเดิม วันหน้ามีพายุมาก็ไปอีก เพราะคนไม่ยอมขยับหรือย้ายที่ ทั้งนี้ พื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นที่ดินของ ส.ป.ก. หรือที่ดินที่จัดสรรให้เป็นที่ดินส่วนกลางของประเทศ จำเป็นต้องสงวนไว้ให้ลูกหลาน และเป็นพื้นที่ที่จัดไว้เพื่อทำการเกษตร หากวันหน้าพื้นที่เหล่านี้หายไปจะทำอย่างไรเพราะบางพื้นที่ก็เป็นที่ของเอกชนซึ่งหากเขาขายไป การเกษตรก็จะหายไป แล้วใครหรือพื้นที่ไหนทำการเกษตรได้อีก เข้าใจว่าทุกคนอยากได้ แต่ถ้าทุกอย่างถูกขายไปทั้งหมด ลูกหลานจะทำอย่างไร

“ที่ผมพูดวันนี้ไม่ใช่จะไปคัดค้านกับใคร แต่เราต้องสร้างหลักคิดที่ถูกต้องให้ประชาชน วันนี้เราเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง การหาเสียงจะต้องเป็นเรื่องของการหาเสียง ไม่ใช่การขายฝัน และฝันยังไม่เป็นจริง เพราะแม้แต่การซื้อลอตเตอรี่ก็ยังไม่ถูก ดังนั้นเมื่อฝันแล้วก็ต้องทำด้วยจะได้เป็นไปตามฝัน ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางทำได้ ฉะนั้นต้องทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น ฉะนั้นเพลงใหม่ที่ออกมาคือเพลง “ในความทรงจำ” ต้องทบทวนความทรงจำในอดีตที่ผ่านมาว่าดีหรือไม่ดี แล้วการจะสร้างความทรงจำที่ดีต่อไปในอนาคตเราจะต้องทำอย่างไร ทุกอย่างผมมีความหมายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเพลงใจเพชร หรือเพลงก่อนหน้านี้ เพื่อให้ทุกคนมีจิตสำนึกยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้หน้าที่ทำให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความปลอดภัย ให้ดำรงอยู่เป็นหลักสำคัญของบ้านเมือง ขณะเดียวกันก็มีหน้าที่ดูแลประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย” นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การให้เงินช่วยเหลือในลักษณะรัฐสวัสดิการ ทำเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ดีกว่าจะหว่านไปทั้งหมด ให้ใครก็ได้ แม้จะเป็นสิทธิแต่คงไม่ใช่ เราจึงจำเป็นต้องสร้างโอกาสให้แก่ทุกคน เลี้ยงดูครอบครัว และสามารถค้าขายได้อย่างเสรีตามกฎหมายและกติกา คนรวยก็มีโอกาสค้าขาย แต่หากทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ ไม่ว่าจะรวยขนาดไหนก็ติดคุกได้เหมือนกัน หลายสิ่งที่ดีเกิดขึ้นในรัฐบาลสมัยนี้ทั้งนั้น เพราะพวกเราช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบสุข ประเทศชาติมั่นคงปลอดภัย เจ้าหน้าที่รัฐสามารถทำงานได้ ถ้าทุกอย่างรวนเรกลับไปเหมือนเดิมก็คงจะเกิดเรื่องราวเหมือนเดิมซ้ำไปซ้ำมา สิ่งดีๆ ก็จะไม่เกิดและหายไปในพริบตา ดังนั้น การสร้างความเข้มแข็งและกองทุนหมู่บ้านจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง

นายกฯ แนะคนไทยเลือกตั้งให้ได้นายกฯ-รัฐบาลที่ดี

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลได้อนุมัติเงินกองทุนต่างๆ ลงไปในพื้นที่ ถือว่าใช้เงินไปพอสมควร แต่เงินเหล่านี้คิดว่าไม่ไปไหน ถ้าไม่เกิดการทุจริต ตนคาดหวังว่าจะไม่มีทุจริต ถ้าทุจริตก็ต้องถูกตรวจสอบ หลายอย่างบางทีเกิดความไม่เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน หรืออาจมีการให้ร้ายกันบ้าง คงเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมในวันนี้ สังคมโซเชียลมีเดียเวลาโพสต์ก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ด่าคนโน้นคนนี้มีความสุขไปวันๆ

“ผมคิดว่าทำลายประเทศทำลายกันเองอย่างนี้ไม่ได้ ไม่มีใครจะสร้างประเทศไทยให้ยั่งยืนได้ ผมก็ไม่ได้ ใครก็ไม่ได้ นอกจากคนไทยด้วยกัน จะเลือกตั้งให้ได้รัฐบาลที่ดีก็อยู่ที่คนไทยทั้งหมด รัฐบาลที่ดีต้องได้ นายกรัฐมนตรีที่ดีด้วย ไม่ใช่ได้อะไรมาก็ไม่รู้ที่ตามใจพอใจ ที่มีความสุขแฮปปี้แล้วทำหรือเปล่า ไปทบทวนดู ที่พูดๆ กันมาทั้งหมดผมไม่ได้ให้ร้ายใคร พูดตรงนี้เพราะผมไม่ใช่นักการเมืองในขณะนี้ที่จะไปลงเลือกตั้ง ผมพูดในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ผมมีความห่วงกังวลในประเทศของเรา ผมคิดว่าทุกคนก็ต้องห่วงเช่นผมเหมือนกัน ห่วงหรือไม่ ห่วงชาติหรือไม่ เมื่อห่วงแล้วก็ต้องหวงด้วย ไม่ใช่ห่วงอย่างเดียวแต่ไม่หวง ดินแดนนี้เป็นดินแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ คิดง่ายๆ ให้รู้สึกดีภูมิใจในความเป็นชาติ แม้กระทั่งพายุปาบึกมีความเสียหายน้อยที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเขาค่อยสลายไปเอง ผมสวดมนต์ทุกวัน ขอพระสยามเทวาธิราช ไม่เช่นนั้นจะทวีความรุนแรงขึ้น ทุกประเทศที่โดนเดี้ยงหมด ก็แปลกดีที่ของเราค่อยๆ ม้วนหาง แต่ก็ยังมีคนเดือดร้อนเสียชีวิต ไม่ใช่เรื่องที่เราจะปล่อยปละละเลย ก็ทำเต็มที่ สิ่งเหล่านี้เป็นพลังเดินหน้าประเทศไปข้างหน้า ผมทำคนเดียวไม่ได้” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ขอให้พากันไปงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว เพื่อแสดงพลัง ที่อยากให้ไปไม่ได้อยากให้ทุกคนไปเหนื่อยไปร้อน สิ่งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานลงมาเพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยมีความเป็นมาอย่างไร และดูว่าในงานมีอะไรบ้าง ที่พัฒนาไปแล้วในหลายๆ จังหวัด เพื่อนำมาพัฒนาตัวเอง อย่างไรก็ตาม ตรงนี้คือกลไกประชารัฐ ไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะอันนี้เกิดขึ้นก่อนนานแล้ว รัฐบาลได้ให้งบประมาณไปพัฒนา ตอนนี้เชื่อว่าคงรอกันว่าเมื่อไหร่จะได้ใหม่ รัฐบาลกำลังหาเงินอยู่ มันเป็นภาระระยะยาว หลายโครงการเกิดขึ้นใหม่ในรัฐบาลนี้ มีการพัฒนามาตลอด สิ่งไหนดีก็ทำต่อ และต้องดีจริงๆ ไม่ใช่ตรงนั้นมีความสุข ตรงนี้เจ๊ง แบบนี้ไม่ได้ โครงการแบบนั้นทำกันมาแบบไม่มีรายละเอียด เมื่อทำมากๆ ก็เจ๊งไปหมด แม้กระทั่งงบที่ลงไปให้โรงพยาบาลที่ไม่ดูเรื่องการป้องกัน ใช้เงินมหาศาล วันนี้รัฐบาลต้องเติมเงินลงไปเยอะ ก็คิดว่าดีกัน แต่การบริการก็ยังเหมือนเดิม วันนี้ต้องมาแก้ไขกันใหม่ จริงๆ แล้วการรักษาพยาบาลไม่จำเป็นต้องมาหาหมอที่โรงพยาบาลก็ได้ ปรึกษาหมอในพื้นที่หรือผ่านระบบออนไลน์ก็ได้ นี่คือระบบการประกันสุขภาพที่ต้องสมบูรณ์

วันนี้รัฐบาลดูแล อสม.เพื่อให้ไปดูแลผู้ป่วยติดเตียงที่บ้าน 10 ปีมาแล้ว ที่ อสม.ไม่ได้รับการดูแล ไม่ได้ให้เพื่อให้เขามารักตน เมื่อไหร่ที่รักกันก็ให้ เมื่อไหร่ที่เลิกให้ก็ไม่รัก ใช่หรือไม่ อยากให้รักนานๆ คือรักประเทศของท่าน ไม่ใช่รักตน ต้องรักประเทศและคนไทย

“พูดมากๆ ก็เจ็บคอ พูดมา 3-4 วันแล้ว แล้วก็บอกว่านายกฯ พูดเยอะ พูดมาก สอนหรือไง ผมไม่ได้สอนใคร แต่ต้องการให้ทุกคนเกิดความคิดเหมือนที่ผมคิด มันอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ไตร่ตรองเอาเอง เพราะบังคับไม่ได้ หลายคนบอกผมเป็นคนขี้โมโหบ้าง บังคับบ้าง ผมเคยบังคับอะไรท่านหรือเปล่า มีแต่กฎหมายเดิมที่มีอยู่แล้วทั้งนั้น ถ้าไม่บังคับใช้กฎหมาย บ้านเมืองก็ไร้ขื่อแป ซึ่งมันไม่ได้ ประเทศไทยต้องใช้กฎหมายให้เกิดความเท่าเทียม” นายกฯ กล่าว

งานพระราชพิธี และเลือกตั้งต้องสงบเรียบร้อยที่สุด ยืนยันไม่อยากยืดเยื้อ

นายกฯ กล่าวว่า เราต้องสนใจการค้าโลก คิดอย่างเดิมไม่ได้ การตั้งราคายังได้แค่การตั้งราคาประกันราคาข้าว จำนำไว้ในยุงฉ้างและต้องเฉลี่ย 3 ปี หารกันออกมาถึงจะตั้งราคาครั้งแรกได้ มีกติกาอยู่ และเมื่อราคาสูงขึ้นในตลาดโลกถึงจะดูว่าจะขึ้นราคาเท่าไหร่ ไม่ใช่ขึ้นสุดโต่ง อย่าให้เขาหลอกแบบนี้ เราต้องเรียนรู้อย่าคิดว่าใครพูดอะไรดีหมด เมื่อวานขอ 1 พัน 2 พันเพิ่มในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ต้องดูหลักเกณฑ์ด้วย นี่แหละค่านิยมคนไทยว่าเขาไม่ได้เพราะเขาไม่มีรายได้ ดูถูกเขาไม่ได้ ต้องช่วยสร้างความเข้าใจตรงนี้ด้วย และที่ไปเกี่ยวข้าว ดำนา เพราะต่างประเทศเขาสนใจเรื่องนี้ และเพื่อให้รู้ว่ายากแค่ไหน รวมถึงการทอผ้า รายได้จากการท่องเที่ยว 40 ล้านคน ต้องไปไล่ดูเงินไปที่ไหน ไม่ได้มาอยู่ที่รัฐบาล แต่อยู่ที่ประชาชนและภาคเอกชน ธุรกิจ ร้านค้า และท้องถิ่นได้ซักเท่าไหร่จากตรงนั้น รัฐบาลได้จากภาษีเท่านั้นเอง

หลายคนไปหาเสียงว่า นักท่องเที่ยวมา 40 ล้านคน มีเงินเป็นแสนล้านบาท รัฐบาลเอาไปใช้ไหนหมด รัฐบาลได้ไม่ถึงแสนกว่าล้าน ไม่ได้มาก ได้ตามภาษีเท่านั้น ทำอะไรให้มั่นคงอย่าทำร้ายประเทศตัวเอง วันนี้มีการผลักดันกฎหมายเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้กองทุนหมู่บ้านมีความเข้มแข็ง เป็นสถาบันการเงินของชุมชน ไม่ใช่ยิ่งเติมยิ่งหาย นั่นหมายความว่าล้มเหลว

“สิ่งสำคัญที่สุด คือ การเลือกตั้ง ต้องดำเนินการให้สงบเรียบร้อยที่สุด และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือพิธิพระบรมราชาภิเษก บ่ายวันที่ 10 ม.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นความศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินนี้บ้านเมืองนี้ เป็นจารีตประเพณีทุกคนต้องช่วยกัน อย่าเอาอะไรมาพันกันทั้งสิ้น เป็นเรื่องการทำงานที่ต้องทำให้ได้เพื่อความสงบเรียบร้อย ทั้งการเลือกตั้ง พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เรื่องการขับเคลื่อนกองทุนและงานอื่นๆ ทั้งหมด ต้องไปด้วยกันได้ อะไรที่มีปัญหาให้ปรับแก้กันไป ไม่ใช่มันจะเป็นจะตายกันหมด ผมไม่ได้ต้องการจะยืดเยื้อเพราะก็เหนื่อยเต็มทีที่ต้องมาพูดแบบนี้ เราต้องทำวันนี้เพื่อลูกหลาน ทุกอย่างต้องรักษาสืบไปให้เขาด้วย จำคำผมไว้แล้วกัน คิดแบบนี้มาตลอด ถ้าเราไม่ห่วงเขาแบบนี้จะหายไปทั้งหมดในสมัยเราและวันหน้าเขาจะลำบากยิ่งกว่าเรา” นายกฯ กล่าว