xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อไทยจับมือ ปชป.ส่ง “มาร์ค” ประธานสภา-วิชามารเป็นไปไม่ได้ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมืองไทย 360 องศา

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2562 เริ่มต้นปีใหม่ทั้งสองพรรคการเมือง คือ เพื่อไทย และ ประชาธิปัตย์ต่างรีบออกมาปฏิเสธข่าวดีลลับทั้งสองพรรคจับมือตั้งรัฐบาล ว่า เป็น “วิชามาร” เพื่อทำลายก่อนการเลือกตั้ง โดยก่อนหน้านี้ ตามรายงานข่าวบอกว่าเป็นฝ่ายพรรคเพื่อไทย ที่ยื่นมือไปจับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขัดขวาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ

รายงานข่าวยังระบุอีกว่า พรรคเพื่อไทย ที่มั่นใจว่า จะได้จำนวน ส.ส. มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแกนนำ และดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วม โดยจะเสนอตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้นั่งตำแหน่งดังกล่าว ขณะเดียวกัน ยังมอบโควตาในกระทรวงสำคัญบางกระทรวงให้ด้วย

แน่นอนว่า ข่าวแบบนี้เมื่อเปิดออกมาในช่วงเวลาที่ใกล้เลือกตั้ง มันก็ต้องชัวร์อยู่แล้วที่ทั้งสองพรรคจะต้องรีบออกมาปฏิเสธคอเป็นเอ็นเอาไว้ก่อน แม้หากถามว่าในมุมการเมืองแล้วมันเป็นไปได้หรือไม่ คำตอบก็คือมันไม่มีอะไรที่การเมืองไทยเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปได้หมด หากผลประโยชน์ลงตัวหรือสมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย

ถามว่า ทำไมทั้งสองพรรคต่างรีบปฏิเสธว่าไม่จริง ไม่มีดีลลับ หรือไม่มีเรื่องดังกล่าวเอาไว้ก่อน เพราะหากพิจารณาจากแบ็กกราวนด์และฐานคะแนนเสียงที่ทั้งสองพรรคมีอารมณ์ไม่ต่างจาก “ขมิ้นกับปูน” หรือน้ำกับน้ำมัน ไม่มีทางรวมกันได้ แต่ในสถานการณ์ปัจจัยบรรยากาศหลายอย่างมันกำลังเปลี่ยนไป เพราะพวกเขากำลังสู้กับอีกฝ่าย นั่นคือ “คู่ต่อสู้เฉพาะหน้าอาจไม่ใช่คนเดิม” แต่เป็นฝ่าย คสช. ที่กุมอำนาจรัฐ และมีแนวโน้มค่อนข้างแน่นอนว่าจะลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีผ่านทางกติกาที่มีการออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถือว่า “ได้เปรียบ”

ขณะที่ขั้วของพรรคการเมือง ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ดังกล่าวมีความเสียเปรียบ ทั้งกลไกต่างๆ รวมไปถึงความนิยมเฉพาะตัวผู้นำ เพราะหากโฟกัสให้แคบเข้ามานาทีนี้ก็ยังต้องบอกว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีคะแนนนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อพิจารณาจากผลสำรวจที่ออกมาตรงกัน

แน่นอนว่า ข่าวที่ออกมาว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์จะจับมือกันตั้งรัฐบาลเพื่อขัดขวาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ มันย่อมสร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับบรรดาแฟนคลับไม่น้อย ด้วยแบ็กกราวนด์และเหตุผลดังกล่าวข้างต้น และอาจจะส่งผลกระทบไปถึงคะแนนเสียงเลือกตั้งอีกด้วย มันถึงต้องรีบออกมาตัดบทอย่างเร็วในแบบที่เห็น

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวที่เป็นจริงก่อนหน้านี้ ทั้งสองพรรคล้วน “เป็นไปในทางเดียวกัน” ตลอด นั่นคือ พยายามแสดงให้เห็นว่าพวกเขา “เป็นฝ่ายประชาธิปไตย” ส่วนฝ่ายที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็พยายามเน้นย้ำให้เห็นว่าเป็นฝ่าย “หนุนเผด็จการ” ที่ระบุว่า ต้องการสืบทอดอำนาจต้องร่วมกันขัดขวางต่อต้าน

ขณะเดียวกัน ในอีกมุมหนึ่งเวลานี้ภาพของความเป็นศัตรูนั้นแทบจะหมดไปแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสถานการณ์ “ขั้วการเมือง” เปลี่ยนไป และสอง เกิดจาก “พลังดูด” มีการย้ายพรรคจะเห็นได้ว่าในพรรคเพื่อไทยมีบรรดาแกนนำคนเสื้อแดง รวมทั้งอดีต ส.ส. ระดับตัวท็อปหลายคน “ไหล” ออกไปสู่อีกหลายพรรค โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุว่า อยู่อีกขั้วเพราะเชื่อว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ดังนั้น นาทีนี้หากถามว่าในอนาคตหลังเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลนั้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ คำตอบก็คือเป็นไปได้ และเป็นไปได้มากเสียด้วย หากพิจารณาจากท่าทีและความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ และหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงน้อยกว่า (แต่ต้องเกินร้อยเสียงเพราะถ้าต่ำกว่านั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ บอกว่า จะลาออก) มันก็เป็นไปได้ที่จะเสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เป็นประธานสภาผู้แทนฯ

อย่างที่บอกนั่นแหละว่า “มันเร็วเกินไป” ที่จะพูดกันในตอนนี้ ที่สำคัญ มันจะส่งผลคะแนนเสียงเลือกตั้ง ทำให้บรรดาแฟนคลับกระอักกระอ่วน
 
แต่ย้ำว่า สูตรนี้มันเป็นไปได้แน่นอน เพียงแต่ตอนนี้ฟังแล้วอาจยังไม่ชิน แต่อีกสักพักเมื่อได้ยินบ่อยๆ ก็จะชินไปเอง!!


กำลังโหลดความคิดเห็น