คสช.เดินหน้ามาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” 27 ธ.ค.- 2 ม.ค. 62 เผยวันแรกยึดแล้ว 88 คัน ชี้สถิติ 4 ปีจำนวนผู้กระทำผิดเพิ่มสูงขึ้นทุกปี เชื่อมั่นมาตรการดังกล่าวลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
วันนี้ (28 ธ.ค.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เปิดเผยว่า “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” เป็นหนึ่งในมาตรการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนในช่วงเทศกาลและวันหยุดต่อเนื่อง เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 46/2558 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาอันเกิดจาการขับขี่ยานพาหนะ ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ดำเนินการมาตลอด 4 ปี
สำหรับในห้วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2561 - 2 มกราคม 2562 นี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มอบให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครอง กระทรวงคมนาคม องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนและประชาชนจิตอาสา ดำเนินมาตรการดังกล่าวอีกเช่นเคย โดยได้จัดตั้งจุดตรวจตามเส้นทางคมนาคม บนถนนสายหลัก สายรอง ทางตรงระยะยาว หรือจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ใช้เส้นทางอย่างปลอดภัย เน้นป้องกันไม่ให้มีการดื่มสุราแล้วขับรถ ทั้งนี้ หากตรวจพบพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง เจ้าหน้าที่จะใช้การชี้แจง แนะนำให้ยุติการใช้รถ ติดต่อญาติหรือผู้นำชุมชนมารับทราบเหตุ หากจำเป็นเจ้าหน้าที่จะนำรถไปเก็บรักษาไว้ก่อน ณ สถานที่ที่จัดเตรียมไว้พร้อมดูแลป้องกันความเสียหายของรถ เช่น การลงทะเบียน บันทึกภาพ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทั้งนี้เจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับรถคืนได้หลังเทศกาล
โดยสถิติการดำเนินมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ปี 2559-2561 ปรากฏว่าผู้กระทำผิดและรถที่เจ้าหน้าที่เก็บรักษาไว้ตลอดเทศกาลมีจำนวนสูงขึ้นทุกปี ดังนี้
- ปี 2559 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 3,046 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 2,477 คัน และรถยนต์ 569 คัน ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด 30,152 คน
- ปี 2560 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 4,354 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 3,118 คัน และรถยนต์ 1,236 คัน ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด 66,783 คน
- ปี 2561 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 6,326 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 4,823 คัน และรถยนต์ 1,503 คัน ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด 245,356 คน
สำหรับในวันที่ 27 ธันวาคม 2561 วันแรกของมาตรการนี้ พบว่ามีผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาท 6,852 ครั้ง ดำเนินคดี 4,443 ราย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเก็บรักษารถไว้ 88 คัน (จักรยานยนต์ 63 คัน และรถยนต์ 25 คัน) ยึดใบขับขี่จักรยานยนต์ 95 คน และยึดใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 34 คน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” เป็นมาตรการที่ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะทำให้ผู้ใช้เส้นทางมีความระมัดระวังและตระหนักในวินัยจราจรยิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาล ที่หวังให้เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของคนไทยอย่างแท้จริง