“กรณ์” ซัดบ้านล้านหลังหาเสียงสร้างความต้องการเทียม ฟุ้งโฉนดสีฟ้า ปชป.ดีกว่า

“กรณ์” ชี้โครงการ “บ้านล้านหลัง” สร้างความต้องการ-ความหวังเทียม ตามรอยรถคันแรกของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โวนโยบาย “โฉนดสีฟ้า” สร้างความมั่นคงให้ประชาชนที่ครอบคลุม ยั่งยืนยิ่งกว่า

วันนี้ (25 ธ.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช รองห้วหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมการนโยบายพรรคฯ แถลงถึงนโยบายบ้านล้านหลังของรัฐบาล ว่าเป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ประชาชนรายได้น้อยได้มีโอกาสมากขึ้นในการมีบ้านของตนเอง เช่นเดียวกับสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ช่วงปลายปี 2553-2554 รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ออกโครงการบ้านหลังแรก ปลอดดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี เพื่อให้ประชาชนที่ต้องการมีบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 3 ล้าน โดยราคาบ้านเฉลี่ยที่ประชาชนเข้าโครงการ คือ 1.4 ล้านบาท ช่วยเหลือตรงกลุ่มเป้าหมาย

ในส่วนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีโครงการบ้านล้านหลัง ในราคาหลังละ 1 ล้านบาท ผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ระบุให้ระวังหนี้เสีย และผ่อนบ้านที่เดือนละ 3,800 บาท เปลี่ยนจากค่าเช่ามาเป็นค่าผ่อนบ้านเพื่อให้ประชาชนมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง

อย่างไรก็ดี นายกรณ์กล่าวว่า แต่มีข้อด้อยที่วางการตลาดมากเกินไปในช่วงเลือกตั้ง โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อที่จำกัดไว้ที่ 50,000 ล้านบาท เฉลี่ยหลังละ 1 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะช่วยประชาชน 1 ล้านคนตามชื่อโครงการจริง เหมือนเป็นการสร้างความต้องการเทียม ในโครงการรถยนต์คันแรกในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสร้างความหวังเทียม เพราะอาจทำให้ประชาชนครึ่งหนึ่งที่ต้องอดนอนต่อคิวยื่นสมัครขอกู้เงินต้องผิดหวัง ถูกปฏิเสธตามเงื่อนไขของธนาคารที่กำหนดไว้

“เกรงว่าประชาชนที่ยังไม่มีความพร้อมจริงในการมีบ้าน กลับต้องเร่งกู้เงินโดยกลัวจะไม่มีโอกาสอีกในอนาคต ซึ่งประชาชนกลุ่มนี้สุ่มเสี่ยงที่สุดที่จะมีปัญหาหนี้สินในอนาคต ถือเป็นโครงการประชานิยมทำในช่วงใกล้เลือกตั้ง ไม่ยั่งยืน ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์มองว่าการกู้ยืมในเงื่อนไขที่ดีนี้เป็นพันธกิจโดยตรงของ ธอส.ที่ให้โอกาสการเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่าเพื่อซื้อบ้านเป็นสิทธิถ้วนหน้าของผู้มีรายได้ตํ่าที่มีศักยภาพในการกู้ยืม โดยไม่ต้องเข้าแถวข้ามคืนกันอีกต่อไป” นายกรณ์กล่าว

นอกจากนี้ นโยบายเรื่องบ้านของพรรคประชาธิปัตย์สอดคล้องกับแนวคิดเรื่องการเข้าถึงที่ทำกินตามนโยบายโฉนดสีฟ้า คือ 1.) การยกระดับ โฉนดชุมชนเพื่อความมั่นคงของเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ 2.) การยกระดับ ส.ป.ก.เพื่อเพิ่มความมั่นคงและโอกาสการเข้าถึงทุนของเกษตรกร 3.) การยกระดับกระบวนการแปลงเอกสารครอบครองขนิดต่างๆ ให้เป็นโฉนดโดยเร็ว พรรคเล็งเห็นความสำคัญของการมีที่ทำกินของประชาชน รวมไปถึงการมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงถาวรซึ่งจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของประชาชนในด้านต่างๆ ต่อไป