ระวังตายน้ำตื้น!! ฝ่ายตรงข้ามจ้องจับผิด พปชร. ปมขายพ่วง บัตรคนจน-สมัครสมาชิกพปชร. **อย่าได้ผุดได้เกิด!! “ค่ายสะตอ”เริ่มสั่งสอน “ก๊วนเพื่อนหมอ”ริท้าทายชิงเก้าอี้หัวหน้า ** ศึกยุทธหัตถี!! “จองชัย”เปิดตัวซุก “พรรคเสี่ยหนู”ท้าชนเกลอเก่า “ประภัตร”

ข่าวปนคน คนปนข่าว


**ระวังตายน้ำตื้น!! พปชร. ยิ่งเด่น ยิ่งเป็นเป้า ฝ่ายตรงข้ามจ้องจับผิด ขยายความปมขายพ่วง บัตรคนจน-สมัครสมาชิกพปชร. “ส่วนกลาง” โร่ย้ำวิธีปฏิบัติสมาชิก งัดไม้แข็งใครนอกลู่ พร้อมตัดสิทธิ์ จะให้ดีควรตัดไฟต้นลม เบรกพฤติกรรมเลียนแบบ งัดยาแรงตัดสิทธิ์จากผู้สมัคร ก่อน“โมเดลขายพ่วง”จะคุมไม่อยู่ ระวังโดนยุบพรรคที่อุตส่าห์ปั้นมาแทบตาย กลับต้อง“ตายน้ำตื้น”โดยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

งานชุกเป็นพิเศษ .. ค่ายพลังประชารัฐ ภายใต้การนำ อุตตม สาวนายน ที่ราศีจับเป็นเป็นพิเศษ จนถูกพวกจ้องจับผิดเป็นพิเศษเช่นกัน ตั้งแต่ปม “โต๊ะจีนระดมทุน”ที่ยังจบไม่ลง .. ซ้ำอีกดอก ด้วยข้อครหา“ว่าที่ผู้สมัคร พปชร.”ที่ จ.ยโสธร ไปทะเล่อทะล่า ถูกถ่ายคลิป กล่าวหาว่าไป“ขายพ่วง” เอาใบสมัครสมาชิกพรรคไปแจกจ่ายแถวซุ้มรับ “บัตรคนจน”..กลายเป็นเรื่องใหญ่โต แชร์กันว่อนโซเชียล พวกโวยวายลั่นทุ่ง เอาเปรียบกันนี่หน่า กวักมือเรียก กกต.มาดูหน่อย แบบนี้มันไม่แฟร์ .. ในพื้นที่ก็ต้องโร่ไปแจ้งความเอาเรื่อง “คนปล่อย”วุ่นวาย ด้วยชัดเจน หากผิดก็เป็น“ความผิดเฉพาะตัว”ต้องรับผิดชอบกันเอง แต่หนีไม่พ้นกระทบชิ่งมาที่พรรคอยู่ดี ..

ร้อนมาถึง “ส่วนกลาง”ที่ต้องให้ วิเชียร ชวลิต นายทะเบียนสมาชิกพรรค ควง สุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการบริหารพรรค ตั้งโต๊ะแถลงย้ำแนวทางปฏิบัติผู้เสนอตัวสมัครส.ส.ของพรรคอีกรอบ .. แจกแจงอีกครั้ง 1 2 3 ตอนนี้ยอดสมาชิกทะลุเป้า ไม่มีนโยบายรณรงค์หาสมาชิกเพิ่ม เว้นเฉพาะสำนักงานใหญ่ กับสาขาหลัก 4 แห่งใน 4 ภาค .. วางมาตรการเข้มๆ เป็นไปตามกฎหมายลูก ใครฝ่าฝืนนอกเหนือจากนี้ ชักดาบเชือด ตัดสิทธิ์พ้นจากผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร ตัดเส้นทางสู่“สภาหินอ่อน”โดยปริยาย .. เรียกว่า “ตัดไฟแต่ต้นลม”ด้วยมองว่า หากเคส ที่ ยโสธร ตรวจสอบแล้วไม่ผิด "เอาตัวรอด"ไปได้ ดูเบาไป ขืนที่อื่นนึกว่า “ของดี”ทำตามอย่างกัน เกิด“พฤติกรรมเลียนแบบ”พาลจะยุ่งไปใหญ่ ตามล้างเช็ดไม่หวาดไม่ไหว .. ทางที่ดีเพื่อป้องกัน“พฤติกรรมเลียนแบบ”ต้องเพิ่ม “ยาแรง”กล้าลงโทษ “ตัวต้นเรื่อง”จากเขตเลือกตั้งไปเลย .. ปล่อยไว้เป็นเชื้อ อาจกลายเป็น “กิ้งกือตกท่อ”โดนยุบพรรค ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทั้งคนใน ที่ต้องคุมให้อยู่หมัด แล้วยังต้องป้องกัน “เกมใต้เข็มขัด”จากฝ่ายตรงข้ามอีก .. เตือนด้วยความหวังดี ถ้าเอาคนในไม่อยู่ บล๊อกเกมข้างนอกไม่ได้ มีหวัง “พลังประชารัฐ”ที่อุตส่าห์ปั้นมาแทบตาย อาจจะจอดตั้งแต่ยังไม่ได้แจว

**อย่าได้ผุดได้เกิด!! “ค่ายสะตอ”เริ่มสั่งสอน “ก๊วนเพื่อนหมอ”ริท้าทายชิงเก้าอี้หัวหน้า“อภิสิทธิ์”แค้นฝังหุ่นของคนจำแม่น เปิดหัวดีด“เจือ ราชสีห์”หลุดโผผู้สมัคร ที่ สงขลา หลังแพ้ไพรมารีฯ “ลูกนิพนธ์”หลุดลุ่ย จับตา 26 ธ.ค.นี้ กางโผทั้งประเทศ“เพื่อนหมอ-เด็กเทพ”หลุดอีกอื้อ วาระ “นายหัวใหญ่”สั่งสอน“นายหัวรุ่นน้อง”เหมือน “กบฏ”หลายก๊วน ที่ไม่ให้ได้ผุดได้เกิด อีกเลย

ตุ๊มๆ ต่อมๆ .. ดีเดย์ วันแกะกล่องของขวัญ“บ๊อกซิ่งเดย์”26 ธ.ค. ตามธรรมเนียมฝรั่ง “ค่ายสะตอ”พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ หลังผล “ไพรมารีโหวต”ในพื้นที่ .. ผลไพรมารีเบื้องต้น ก็ส่วนหนึ่ง ที่ต้องจับตาไม่กระพริบ ก็ชะตากรรม“ก๊วนเพื่อนวรงค์”ที่หาญกล้าท้าชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร .. แม้คลื่นลมในพรรคจะสงบลง หลังผลโหวตให้ “เฮียมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำทัพเป็นหัวหน้าค่ายต่อไป แต่บอกเลย“เกมจบ คนไม่จบ”..ด้วยระหว่างหาเสียง “กลุ่มเพื่อนวรงค์”เดินสายหาเสียงให้น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แบบ “ล้ำเส้น”ไม่น้อย จนดูท่าจะ “อยู่กันยาก”.. สัญญาณมีให้เห็นแล้ว จากผลไพรมารี ที่ “สงขลา”ปรากฏว่า เขต 1 เจือ ราชสีห์ อดีตส.ส. 3 สมัย พ่ายหลุดลุ่ยให้กับ“เสี่ยเพชญ์”สรรเพชญ บุญญามณี .. เป็นความพ่ายแพ้ ที่มีร่างเงาของผู้พ่ออย่าง นิพนธ์ บุญญามณี นายกอบจ.สงขลา ยืนตระหง่านอยู่ .. ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นผลพวงมาจากอาการ “ออกตัวแรง”ร่วมกับศิษย์พี่ ถาวร เสนเนียม ในการหนุน“หมอวรงค์”..เพราะบอกเลย แม้ในพื้นที่จะมีปัญหา หรือ“นิพนธ์” จะใหญ่คับพรรค ในฐานะรองหัวหน้าพรรค คนที่ 1 ควบบอร์ดสรรหา ผู้สมัครส.ส. .. หาก “อภิสิทธิ์”หรือกระทั่ง ชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคฯ จะ “ปราณี”กันบ้าง“เสี่ยเจือ”คงไม่เสียฟอร์มให้ “เด็กรุ่นหลัง”เช่นนี้ ..

การปล่อยให้ผลไพรมารีออกมา ก็เหมือน“สั่งสอน” ให้รู้เหนือ รู้ใต้ รู้สี่ รู้แปด อะไรควรไม่ควรทำ ใน“ค่ายสะตอ”..กางชื่อดู “ทีมเพื่อนวรงค์”แล้วน่าห่วงแทบทุกราย แม้ “นายหัววร”ของน้องๆ อาจจะรอดตัว ด้วยทำพื้นที่เข้มแข็ง แต่คนอื่นยากจะการันตี .. ไม่ต้องอื่นไกล “เสี่ยตาล” สาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตผู้แทนเมืองตรัง ตัวหลักแห่งเวที กปปส. วันนี้ก็ไม่รู้ว่า“นายหัวชวน”มองว่าเป็น “มิตร”หรือ“ศัตรู” ..ด้วยความที่ว่า ที่นั่ง ส.ส.ตรัง หดหายจาก 4 เหลือแค่ 3 ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องมีส.ส.เก่า คนใดคนหนึ่ง เสียสละ .. เพราะลึกๆ แล้วไม่ใช่แค่สั่งสอน“ก๊วนเพื่อนหมอ”เท่านั้น แต่ต้องกระทบคราด ไปถึง“เด็กกำนัน”ด้วย .. การจัดวางตัวผู้สมัครของ “ค่ายสะตอ”ในโซนปักษ์ใต้ จึงมีปัจจัย คือ หนึ่งต้องไม่เสียท่าให้กับ“รวมพลังประชาชาติไทย”ของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่มีฐานเสียงคาบเกี่ยว อันจะทำให้“พลังต่อรอง”หลังเลือกตั้งหดหาย .. อีกหนึ่งคือ ต้องสยบ“เด็กฝาก”ของ “พี่เทพ” ให้เบ็ดเสร็จ ด้วยรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้มี “งูเห่า”อาจ มีพวกอาศัยเสื้อสีฟ้าเข้าสภา แล้วดีดตัวไปดู๋ดี๋กับ“พรรคสุเทพ”ในภายหลัง .. ที่สำคัญ ลืมไม่ได้ เสียงลอดจากไรฟัน “นายหัว” ที่ว่า ปล่อยให้“พรรคเทพเทือก”เกิดไม่ได้เด็ดขาด ด้วยจะเป็นการท้าทายบารมี ยี่ห้อ“ใบมีดโกน”..ต้องสั่งสอนให้เหมือน“กบฎ”หลายๆ ก๊วน ที่ตีจาก“พรรคสะตอ”ไป ก็ไม่ได้ผุดได้เกิด ในพื้นที่ปักษ์ใต้อีกเลย

** ศึกยุทธหัตถี!! “จองชัย”เปิดตัวซุก “พรรคเสี่ยหนู”ท้าชนเกลอเก่า “ประภัตร”เลขาฯชาติไทย ที่เขต 3 สุพรรณฯ เหตุเคลียร์ไม่ลงตัว หลัง“หลานประภัตร”โผล่ซบ“พลังประชารัฐ”ชน “ลูกจองชัย”ที่เขต 4 สุพรรณฯ ร้อนถึง “หนูนา”ต้องออกโรงหย่าศึก หวั่น “คนกันเอง”ตีกัน ต่างฝ่ายสูญเสียไม่พอ “ตาอยู่”อาจคว้าพุงไปรับประทาน

ซุ่มเงียบอยู่นาน .. มังกรการเมืองนามกระเดื่อง จองชัย เที่ยงธรรม ย้ายสำมะโนครัวจาก“ชาติไทยพัฒนา”ไปอยู่ “ภูมิใจไทย”แบบไม่เป็นข่าว .. ก่อนมาเปิดตัวฮือฮา ไล่เรียงสาเหตุการย้ายพรรคไว้อย่างดุเดือด โดย “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็บอกว่า“จองชัย”ย้ายมาค่ายสีน้ำเงินได้ 2 เดือนเศษแล้ว .. อันมีสาเหตุ “แยกทาง”ไม่ต่างจาก “บ้านปริศนานันทกุล”แห่งอ่างทอง นำโดย “เฮียตือ”สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่หอบ “ลูกแบต”ภราดร และ “ลูกแชมป์”กรวีร์ มาอยู่ “พรรคเสี่ยหนู”เช่นกัน .. ความบันเทิงมันเกิดตรงที่ไม่ได้ย้ายสังกัดเฉยๆ แต่ประกาศรีเทิร์น หวนลงสมัครส.ส.เขต ที่ “สุพรรณบุรี”ซะด้วย .. เจาะจง เขต 3 สามชุก-ศรีประจันต์ ที่สังกัดเก่าส่งเบอร์ใหญ่อย่าง ประภัตร โพธสุธน ลงแทน .. กลายเป็นศึก “ยุทธหัตถี-ช้างชนช้าง”อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยดีกรีไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน “ประภัตร”ก็ระดับผู้แทน 11 สมัย ส่วน “จองชัย”ก็ไม่น้อยหน้า 9 สมัย ด้วยกัน .. ต้องยอมรับว่า เหตุที่“ขุนพลปลาไหล”แตกกระสานซ่านเซ็น ออกมานั้น ก็เพราะการจากไปของ“หลงจู๊”บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ .. ด้วยเดิม “ป๋าเติ้ง”ที่ประคับประคองความสัมพันธ์ของ“มวยหลัก”ในพรรค ที่แต่เดิมก็ไม่ลงให้กันมาตลอด .. ก่อนจะมาแตกหักดังโพละ เมื่อ“สุพรรณบุรี” เมืองหลวงของ“ชาติไทย”ถูกลดเขตเลือกตั้ง จาก 5 เหลือ 4 เขต อะไรๆ ก็เริ่มไม่ลงตัว ..

ก่อนหน้าก็เป็น ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ที่จำต้องโร่ไปอยู่พรรคอื่น เพราะจะถูกดันขึ้นบัญชีรายชื่อ หลังเคลียร์ลงตัว ถึงกลับเข้าพรรคเหมือนเดิม .. แต่สำหรับ“ประภัตร - จองชัย”ดูจะลึกซึ้งกว่านั้น ด้วยลูกชายจองชัย อย่าง “เสี่ยป๊อป”เสมอกัน เที่ยงธรรม มีดีกรีเป็นเจ้าของพื้นที่ และยังเป็นคนรุ่นใหม่ จึงยังได้ลงรักษาพื้นที่ .. แต่กลับมีชื่อ ยุทธนา โพธสุธน หลานชายประภัตร โผล่ไปอยู่ พรรคพลังประชารัฐ และเตรียมลงสมัครที่ เขต 4 ชนกับ"เสมอกัน" .. เชื่อแน่ว่า“หลังไมค์”คงมีการเจรจากันแล้ว ด้วยหวาดระแวงว่า“ประภัตร”คงจะสนับสนุน “หลานในไส้”มากกว่า “หลานนอกไส้”..เมื่อไม่ลงตัว นำมาซึ่งเสียงโวย “รังแกเด็ก”ก่อนที่ “จองชัย”จะเปิดตัวเตรียมลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้ง ในวัย 75 ปี ท้าชน“ประภัตร”เกลอเก่านั่นเอง .. เมื่อ 2 ผู้เฒ่า ไม่ยอมลงให้กัน ร้อนถึง “หนูนา”กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา คนปัจจุบัน ที่ขอเป็น“โซ่ข้อกลาง”เจรจายุติความบาดหมางของ“คนกันเอง” .. ด้วยรู้ว่า หากไม่หย่าศึกก่อนการรับสมัครเลือกตั้ง ย่อมนำมาซึ่งความสูญเสียของ 2 ฝ่าย ที่ไม่ได้มองแค่ 1 เก้าอี้ส.ส. แต่กลายเป็น“ศึกศักดิ์ศรี”ที่ยอมกันไม่ได้ .. อาจสะเทือนถึงฐานเสียง ระดับ 1 แสนเสียงในเขต ของ“ชาติไทยพัฒนา”ที่อาจแตกเป็นเสี่ยง จน“ตาอยู่”คว้าพุงไปกินได้.

ช.ชฎา