“โบว์ ณัฏฐา” ไลฟ์สดแจงคลิปฉาว ยันเลิกสามีเก่ามา 6 ปี แต่ยังช่วยกันเลี้ยงลูก อ้างคนทำต้องมีทรัพยากรสั่งคนเซตอัพกล้อง เป็นคลิปเก่าถ่ายไว้นาน รอปล่อยหลังพรรคการเมืองใหม่จัดงานใหญ่และตกเป็นข่าว เชื่อหวังทำลาย “เราสองคน” และสิ่งเชื่อมโยงนั่นคือพรรค และภารกิจต้านสืบทอดอำนาจเผด็จการ คนเสียประโยชน์คือประชาชน ลั่นไม่ฟ้องเพราะกระบวนการยุติธรรมไม่มีไว้สำหรับเรา
จากกรณีที่วานนี้ (21 ธ.ค.) มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอนักการเมืองวัยกลางคนกับนักเคลื่อนไหวทางการเมืองสาวกำลังมีเพศสัมพันธ์กันในโรงแรมแห่งหนึ่ง และ ต่อมาก็เป็นที่รู้กันว่า น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ “โบว์” แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้คบหากับนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย มาระยะหนึ่งแล้ว (อ่านข่าว คนสนิทเผย “โบว์” พบรักใหม่ต้นปี 60 หลังตีขิมหน้าศาลช่วย “ไผ่ ดาววิน” ฝ่ายชายปลื้มความเด็ดเดี่ยวถึงกับน้ำตาไหล ไปรอรับที่สนามบิน ,คนสนิทแจง “เสี่ยไก่-โบว์ อยากเลือกตั้ง” คบกันมานานแล้ว พบรักเพราะ “ถูกกระทำ” ด้วยกันทั้งคู่)
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 18.11 น.วันนี้ (22 ธ.ค.) น.ส.ณัฏฐา ได้ชี้แจงผ่านระบบถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana กรณีคลิปดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 48 นาที มีใจความสรุปได้ว่า แรกสุดมีความรู้สึกเหมือนตนเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวแต่ถูกติดตั้งกล้องไว้หลายมุมในระดับ HD แอบถ่ายแล้วนำคลิปไปเผยแพร่เป็นข่าวไปทั่วประเทศ แล้วมีบุคคลหลายประเภทเข้ามาคอมเมนต์ทับถมซ้ำเติม ส่วนเรื่องชีวิตส่วนตัวเราทั้งสองก็ได้ชี้แจงค่อนข้างชัดเจนแล้ว แต่ละครอบครัวมีอดีต สิ่งที่ดำรงอยู่คือลูกและความรับผิดชอบลูก อดีตของตนนั้นเราแยกทางกันด้วยดี 6 ปีแล้ว แต่ยังช่วยกันเลี้ยงลูกอยู่ และเขาก็มีครอบครัวหนึ่งที่ต้องดูแล ส่วนความรู้สึกของลูกตอนนี้ไม่น่าห่วง ที่ห่วงคือความปลอดภัยของลูก
ประเด็นต่อมา ใครเป็นคนทำ ต้องเข้าใจตรงกันว่ามันคืออาชญากรรม ผิดกฎหมาย ถามว่าศัตรูของเราทั้งสองคนคือใคร บางคนคิดว่าอดีตสามีอดีตภรรยาทำหรือไม่ บอกเลยว่าไม่มีใครอยากทำร้ายพ่อหรือแม่ของลูกตัวเองแน่ๆ อย่าไปลากคนไม่เกี่ยวข้องให้ถูกกล่าวหาเป็นอาชญากรด้วย แล้วจะเป็นใคร ปกติก็มีคนติดตามตนเองอยู่แล้ว เป็นคนมียศ วนถ่ายรูปบ้านแล้วออกไป เป็นแบบนี้ และใกล้ช่วงกิจกรรมใหญ่จะมาถี่มาก แต่ไม่กังวลเพราะเกิดขึ้นจนเคยชิน เราสองคนเวลาไปทานข้าวก็ที่ทานที่ร้านอาหารปกติ คลิปที่เห็นลงจากรถก็เป็นการเดินเข้าร้านอาหาร นั่งในที่ที่เป็นสาธารณะไม่ได้ปิดบัง
คำถามที่ว่าศัตรูของเราคือใคร ชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวของตน มีใครเสียประโยชน์หรือสร้างปัญหาให้ใคร ใครจะมีทรัพยากร กำลังคนถึงขนาดที่จะติดตามตนได้ทุกหนทุกแห่ง มีเครื่องมือที่จะไปสั่งใครก็ได้ จะเอากล้องไปเซ็ตอัพที่ไหน ในคลิปโบว์สะพายกระเป๋าที่ไม่ได้ใช้นานแล้ว แสดงว่าเขาเก็บคลิปนี้ไว้นานแล้ว และรอจังหวะปล่อยออกมาซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พรรคการเมืองเริ่มทำกิจกรรม เป็นจังหวะเดียวกับที่เรารณรงค์เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และเกิดงานเลี้ยงของพรรคการเมืองใหม่ มีข่าวใหญ่เกิดขึ้น คลิปนี้จึงถูกปล่อยออกมา ในภาพนิ่งที่ถูกปล่ยออกมาล็อตหนึ่งมีโลโก้ของพรรคการเมืองชัดเจน แสดงว่าไม่ได้ต้องการทำลายแค่คนสองคน แต่ทำลายสิ่งเชื่อมโยงกับเราด้วย
ส่วนจะฟ้องไหม ต้องเล่าย้อนว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เราเคยหันหาเข้าหากระบวนการยุติธรรมมาแล้ว นายวัฒนาเคยถูกชกที่ลานจอดรถของสนามฟุตบอล ไม่สามารถจับตัวผู้กระทำผิดได้ ตนเองเคยถูกตัดต่อรูปกับอาชญากร แจ้งความที่ ปอท.แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเสียเวลามาก ส่วนการจัดการกับเจ้าของสถานที่นั้น 4-5 ปีที่ผ่านมานายวัฒนามีคดี 10 กว่าคดี ของโบว์ถึงศาลแล้ว 2 คดี กระบวนการยุติธรรมไม่ได้มีไว้กับคนอย่างพวกเราจึงเป็นคำตอบว่าทำไมพวกเราไม่เสียเวลาไปกับสิ่งนี้
สื่อมวลชนหลายสำนักไม่ตระหนักว่าสิ่งนี้คืออาชญากรรมแต่กลับสนับสนุนให้การก่ออาชญากรรมครั้งนี้ ด้วยการใช้ภาพ แม้จะเบลอแต่นั่นคือสิ่งที่อาชญากรต้องการ นั่นคือสิ่งที่อำนาจนั้นต้องการ
ประเด็นสุดท้าย ใครเป็นคนเสียประโยชน์และใครได้ประโยชน์จากเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราสองคน คนหนึ่งเป็นนักการเมืองที่เคลื่อนไหวในประเด็นที่เสี่ยงและอยู่ในพรรคที่ตกเป็นเป้า ส่วนโบว์เป็นนักเคลื่อนไหว คนที่ต้องการทำร้ายทำลายเรา ต้องการทำลายสิ่งที่เชื่อมโยงกับองค์กรที่ดูจากติดโลโก้พรรค และทำลายสิ่งที่เราพยายามแบกไว้บนบ่า เรื่องการเคลื่อนไหวไม่ให้เลื่อนเลือกตั้ง แบกไฟฉายส่องไปยังกลไกการเลือกตั้งให้เสรีและเป็นธรรม แบกความพยายามในการหยุดการสืบทอดอำนาจของเผด็จการไว้
ส่วนคนที่เสียประโยชน์ คือประชาชนที่ต้องการการเลือกตั้งที่เสรีเป็นธรรม แล้วใครได้ประโยชน์ เป็นเรื่องน่ากลัวกว่าที่คิด น่ากลัวกว่าจะเซ็ตอัพตั้งกล้องถ่ายคนสองคน น่ากลัวกว่าการปล่อยคลิปแต่คือผลประโยชน์ของสาธารณะของประเทศ เพราะฉะนั้น วันที่ 24 ก.พ. 2562 ต้องไปจับปากกาฆ่าเผด็จการ และในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ เวลา 17.00 น. จะจัดงานรวมพลคนเช็กบิลเผด็จการ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ