xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.เล่น “สงครามจิตวิทยา”ทำ “เจ๊แดง”อยู่ไม่ไหว“ร้อนตัว”ติดปีกชิ่งไปก่อน **“ดาราดัง”โดนกับตัว ฤทธิ์ “รถแดงเชียงใหม่”ห่างแค่คืบ คิด 600 บาท ** “7เสือ กกต.”เคาะ “บัตรเลือกตั้ง”แปะ “ชื่อพรรค - โลโก้พรรค”ครบ แต่ยังมีการบ้านรออีกอื้อ

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว


**คิดถึงจึงตามหา!! ป.ป.ช.เล่น “สงครามจิตวิทยา”ทำ “เจ๊แดง”อยู่ไม่ไหว“ร้อนตัว”ติดปีกชิ่งไปก่อน“ลุงตู่”รู้เข้าก็เป็นห่วง สั่งลูกน้องตามหาควั่ก ก็ยังไม่เจอ รอบนี้ “ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์”มาเช็กอินสิงคโปร์ ก็ไม่ยักไปจอยด้วย เห็นว่าง่วนแบ่งกองทรัพย์สินที่หอบติดออกไปอยู่ที่ “ประเทศเพื่อนบ้าน” อาศัยบารมี“ลูกเขย”คุ้มหัวอยู่

กลายเป็นวาระแห่งชาติ .. การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหนีคุก .. สำคัญตรงที่ “เจ๊แดง”ยังมีสถานะสำคัญเป็น “เจ้านายเก่า”ของ “เสี่ยฮุก”บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ตัวละครเอกในท้องเรื่อง“จีทูเจ๊ - จีทูเจี๊ยะ” เสียด้วย .. รับข่าวคราวความคืบหน้าการไต่สวนคดีทุจริตระบายข้าว ลอต 2 ที่ข่าวว่ามี “ข้อมูลสำคัญ”หลุดจากปาก“คนในคุก”.. ไม่เพียงแต่ “บุญทรง” ที่ถูกหมายตา จน นราวิชญ์ หล้าแหล่ง อดีตทนายความ“หนูปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เอามา “ตีปลาหน้าไซ”เป็นประเด็นการเมืองเท่านั้น .. อย่าลืมว่า นอกจาก“เสี่ยฮุก”ที่ต้องโทษจำคุก 42 ปี จากคดี จีทูเจ๊ ลอตแรกแล้ว ยังมีคนที่ตกพุ่มซวย เพราะทำตามบัญชา “เจ๊ใหญ่จอมบงการ”อีกนับสิบชีวิต .. บอกเลยถึง “บุญทรง”จะยันว่า “กูพูดไม่ได้”แต่ก็ไม่ได้การันตีว่า “ผู้ต้องขัง”คนอื่นๆ จะพูดไม่ได้ไปด้วย .. แต่ในฐานะ “ตัวละครเอก”หากเป็น “เสี่ยฮุก” ซัดทอดเอง ก็ดูจะมีน้ำหนักมากกว่าใครเพื่อน .. แม้จนถึงป่านนี้ ป.ป.ช. ทั้ง “บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน จะไม่หลุดอะไรออกมามาก .. เช่นเดียวกับ สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดี จีทูเจี๊ยะ ลอต 2 ก็ไม่ตอบรับ หรือปฏิเสธใดๆ .. กับข้อถามว่า บุคคลที่เข้าข่ายถูกไต่สวนเพิ่มเติมในลอต 2 นั้นเป็น “คนในตระกูลชินวัตร”หรือเจาะจงลงไปว่าเป็น “คุณนายแดง”หรือไม่ .. ปล่อยให้คิดเองเออเอง แค่นี้ก็หลอนขนหัวลุก “คนนอกวง” ยังเอ่ยปาก “เป็นใครๆ ก็หนี”..กลายเป็น“สงครามจิตวิทยา”กดดันไปยัง “ผู้ที่เกี่ยวข้อง”ที่หากใจไม่แข็งพอ ก็เท่ากับ“ร้อนตัว”..
เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ
ให้เบาะแสหลายรอบแล้วว่า "เจ๊แดง" หอบกระเป๋าใบโต ตีตั๋วโกอินเตอร์ ปลายทาง "มหานครดูไบ" ตั้งแต่เมื่อปลายเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา .. หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้พบเจอหน้าค่าตาอีกเลย ขนาดคนใกล้ชิด "เสี่ยแมว" วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ถึงกับขอเว้นระยะห่าง ไม่ได้พบ "คุณนายแดง" มาราว 3 เดือนได้แล้ว .. นอกจากกองแช่ง-กองเชียร์ ที่เป็นห่วงเป็นใย “เจ๊เยาวภา”แล้ว ยังมี “แฟนคลับกิตติมศักดิ์”โผล่มาแสดงความคิดถึงด้วย .. เป็น “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่บอกเองว่า ติดตามข่าวอยู่เหมือนกัน พอได้ยินว่าหนีไปต่างประเทศ ก็สั่งการให้เจ้าหน้าตรวจสอบ .. ปรากฏว่า ยังไม่พบตัว ไม่รู้อยู่ที่ไหน แต่ก็ยังมองโลกในแง่ดีว่า “ยังอยู่ในประเทศไทย”..นี่ขนาด “ผู้นำประเทศ”มีลูกน้องเป็นหูตาสัปปะรด ยังควานหาตัวไม่เจอ ก็น่าจะชัดซะยิ่งกว่าชัดนะว่า “ไม่อยู่แล้ว”.. ก็ผิดวิสัยพอควร ที่รอบนี้ “ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์”มาปักหมุดอยู่สิงคโปร์ ก็ยังไร้เงา “เจ๊แดง” ไปจอยด้วย .. ทั้งที่ปกติถ้า“สองศรีพี่น้องสัมภเวสี”ร่อนมาป้วนเปี้ยน ย่านเอเชีย-อาเซียน ไม่เคยพลาด .. สงสัยช่วงนี้ไม่ว่าง เห็นง่วนอยู่กับการจัดแจงแบ่งสรร ทรัพย์สินที่หอบออกไปได้ อยู่ที่ “ประเทศเพื่อนบ้าน”อาศัยบารมี “ลูกเขย”คุ้มหัว .. อันนี้ก็แค่พูดลอยๆ “ลุงตู่”ทราบแล้วเปลี่ยน

**ทำร้ายตัวเอง!! “ดาราดัง”โดนกับตัว ฤทธิ์ “รถแดงเชียงใหม่”ห่างแค่คืบ คิด 600 บาท สะท้อนปัญหาขูดรีดนักท่องเที่ยวไม่เคยแก้ไข ทำนองเดียวกับที่ “ภูเก็ต”เงียบเชียบกระทั่ง “ไฮซีซันส์ ”รุมชี้ตรงกัน “ทำร้ายตัวเอง”ทั้งนั้น สงสัยต้องถึงมือ“บิ๊กโจ๊ก”อดีตรองผู้การท่องเที่ยว ลงไปกวาดล้าง“มาเฟียเจ้าถิ่น”ที่จ้องขูดเลือดนักท่องเที่ยว-คนต่างถิ่นซะละมั้ง
รัชชานนท์ สุประกอบ
ไวรัลฮิตประจำวัน .. คลิปเดือดๆ ของ “หนุ่มกาย”รัชชานนท์ สุประกอบ ดาราวัยรุ่นคุณพ่อลูกสาม ที่สับแหลกถึงพฤติกรรมเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ที่ประสบพบเจอด้วยตัวเองที่ “เชียงใหม่” ..คู่กรณีเป็น “รถสองแถวเชียงใหม่”ที่หรือที่รู้จักกันดี เรียกกันเคยปากว่า “รถแดง”ผู้ครอบครองตลาดขนส่งมวลชนในพื้นที่ .. เมื่อโบกรถจะโดยสารไปจุดหมายไม่ไกล แค่ 1 กิโลเมตร ปรากฏว่า โดนเรียกราคาสาหัส 600 บาทไทย .. พอกดเข้าแอปพลิเคชั่นรถโดยสารชื่อดัง พบว่าคำนวณออกมา แค่ 52 บาทเท่านั้น .. แต่ก็รู้ว่าเรียกไม่ได้ เกรงจะมีปัญหาบานปลาย ไล่ตี ต่อย ตะเพิดลงจากรถ มีให้เห็นบ่อย ก็เลยยอมเหนื่อย เดินเอา .. "ถามหน่อย ใครจะนั่ง บ้าหรือเปล่า แล้วเราก็ไม่กล้าเรียกไง เลยเดินเอา นี่ขนาดคนไทยนะ แล้วถ้าฝรั่งจะเป็นยังไง ผมไม่รู้เหมือนกัน ว่าราคาจริงๆ เป็นเท่าไหร่ ถ้านั่ง Grab 52 บาท สองแถวก็ควรจะประมาณนั้นไหม" เป็นเสียงบรรยายบางช่วงในคลิป .. อย่างน้อย “หนุ่มกาย”ออกตัวให้ด้วยว่า “ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคัน”แต่หลายคนก็เคยเจอกับตัว บอกเลยว่า “ส่วนใหญ่”.. พร้อมฝากคำถามถึง “มาตรฐานการคำนวณค่าเดินทาง”ที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเดิมๆ ที่ไม่เคยมีการแก้ไข .. บ่อยครั้งมีการกล่าวถึง “ตลกร้าย”กับการเดินทางในเชียงใหม่ ที่ว่า ถ้าคุณพูด “ภาษาอังกฤษ”คุณจะโดนเรียกค่าโดยสารแพงอย่างไร้เหตุผล .. ถ้าพูด “ภาษากลาง”ก็จะลดลงมาหน่อย แต่ถ้า “อู้กำเมือง”ก็จะได้ราคามาตรฐาน 20 บาทตลอดเส้นทาง ..
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล
ถือเป็นพฤติกรรม “ทำร้ายตัวเอง”ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดดังๆ .. อันดับหนึ่ง “ทอปชาร์ต”ต้องยกให้ที่ “ภูเก็ต”ที่ค่าโดยสารบนเกาะเล็กๆ แพงมหาโหด จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ใกล้ไกลไม่สน สตาร์ทกันที่ 500-600 บาท บางจังหวะไปถึง 800 บาทก็มี บวกกับ “ค่าครองชีพ”ที่ถ้าไม่มีฐานะพอ ก็ไม่ควรย่างกรายไปให้ลำบาก .. กลายเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ตอนนี้กำลังจะมีดรามา สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ เงียบเหงา ร้างนักท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นช่วง“ไฮซีซันส์ ”.. เรื่องแบบนี้ไม่ต้องโอดโอยโทษภาครัฐ โทษนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือโทษโศกนาฏกรรมที่ทำให้นักท่องเที่ยวหวาดกลัว .. ต้องนึกย้อนโทษพฤติกรรมของตัวเองมากกว่า ก็เป็นกันซะแบบนี้ ใครหน้าไหนจะอยากไปถูก“ขูดเลือดขูดเนื้อ”.. ใครทะลึ่งไปชิงตลาดด้วย“ราคาเป็นธรรม” ก็ไม่รอดสันดอน กลายเป็น“เหยื่ออารมณ์”ของ “มาเฟียเจ้าถิ่น”ซะอีก .. วันก่อนเห็นไวๆ “บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช. สตม. อดีตรองผู้การท่องเที่ยว โพสต์ถามแฟนเพจ ให้ช่วยออกแนวคิดทำให้ “ภูเก็ต”กลับมาคึกคักเหมือนเดิม .. ก็อยากฝากให้ “ท่านโจ๊ก”ดูภาพรวมว่า เกิดจากสาเหตุเดียวกันนี่แหละ ถึง “เชียงใหม่ - ภูเก็ต”จะอยู่กันคนละโยชน์ แต่ก็ไม่ต่างกัน .. เอาแต่ได้ กอบโกยกันอย่างอำมหิต กลายเป็น “ทำร้ายตัวเอง”ทั้งนั้น

**การบ้านมีอีกเพียบ!! “7เสือ กกต.”เคาะ “บัตรเลือกตั้ง”แปะ “ชื่อพรรค - โลโก้พรรค”ครบ “ประธานปุ๊”โอ่หน้าประวัติศาสตร์ ยกเป็น “บัตรไฮบริด ทูอินวัน”คลายปมไปเรื่องหนึ่ง แต่ยังมีการบ้านรออีกอื้อ ทั้งข้อเรียกร้อง “พรรคเดียว เบอร์เดียว”ทั้งประเทศ หรือประเด็นให้ “ต่างชาติ”สังเกตการณ์ที่เป็นอำนาจ กกต. แต่คนไม่เกี่ยวก็ชอบคอมเมนต์ ให้โดนด่าฟรีอยู่เรื่อย
อิทธิพร บุญประคอง
มันก็แค่เนี้ย .. ในที่สุดมติ “7 เสือ กกต.”ก็ออกมาตามคาด กับ “บัตรเลือกตั้ง”ที่มี “ชื่อพรรค - โลโก้พรรค”พร้อมสรรพ .. จริงๆ ก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่โตอะไร เป็น “เบสิก”ที่บัตรเลือกตั้งควรจะเป็นอยู่แล้ว .. แต่ดันไปตีข่าวครึกโครม เรื่อง “บัตรโนโลโก้-โนเนม”ให้โดนด่าฟรีอยู่เป็นสัปดาห์ๆ .. โดนด่าฟรีทั้ง “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ รวมไปถึง กกต. ที่เลี้ยงประเด็น อ้างข้างๆ คูๆ ไม่ยอมเคลียร์ให้ชัดเจนเองด้วย .. พอออกหน้านี้ ก็ไม่ยักจะมี “ข้อจำกัด”ปัญหาด้านการขนส่งไปเลือกตั้งในต่างประเทศ อะไรให้วุ่นวายเลย .. แล้ว “ทูตปุ๊”อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ถึงขนาดโอ่ว่า เป็น “ประวัติศาสตร์หน้าใหม่”ขนานนามให้ว่าเป็น “บัตรไฮบริด ทูอินวัน”ว่าไปนู้น .. ปัญหาเรื่องบัตรเลือกตั้งจบไป ท่ามกลางเสียงถอนหายใจโล่งอกของหลายพรรคการเมือง แต่บอกเลยยังมี “การบ้าน”กองรอ กกต.อีกเพียบ .. ทั้งประเภท “ได้คืบเอาศอก”กดดันให้ กกต. เสนอ คสช. ออกคำสั่งแก้ไขกฎเกณฑ์ “ต่างเขต ต่างเบอร์”ให้กลับมาใช้ “พรรคเดียว เบอร์เดียว”ทั้งประเทศแทน .. อย่างที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ที่ผันตัวไปเป็นพลพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากระชุ่นให้ กกต. “สวมหัวใจสิงห์”กล้าเสนอให้ คสช. แก้ไข ..
ดอน ปรมัตถ์วินัย
แต่ที่กำลังกดดันกันหนัก เป็นเรื่องการเปิดให้ “องค์กรต่างชาติ-ผู้แทนต่างประเทศ”เข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งมากกว่า .. อันที่จริงแล้วก็เป็น “เบสิก”ของการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะอยู่ในสมัยรัฐบาลเลือกตั้ง หรือรัฐบาลทหาร ที่ต่างชาติย่อมแสดงเจตจำนงค์ ของเข้ามาดูการเลือกตั้ง .. แน่นอนว่า มาคอยตรวจสอบว่าการเลือกตั้งถูกต้อง โปร่งใส ตามครรลองหรือไม่ รวมไปถึงศึกษาดูงานพัฒนาการเลือกตั้งแต่ละประเทศไปในตัว .. เอาเข้าจริงเรื่องนี้“ต่างชาติ”เขาก็ไม่ได้คาดคั้นให้เราตัดสินใจกันวันสองวันนี้หรอก .. แต่จุดพลุเป็นประเด็นขึ้นมาก็เพราะ “คนในรัฐบาล”ที่ทำท่ารังเกียจรังงอน ไม่อยากให้มีใครเข้ามาจุ้นจ้านการเลือกตั้ง จนเสียอาการ .. หนักสุดคงเป็นรายของ ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ที่กันท่าว่า“กระทรวงบัวแก้ว”ไม่เชิญองค์กรต่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์ การเลือกตั้งในประเทศไทยอย่างแน่นอน อ้างไปถึง“ศักดิ์ศรีของประเทศ”อะไรเทือกนั้น .. เข้าอิหรอบเดียวกับ “บัตรเลือกตั้ง”ที่ออกมาคอมเมนต์กันให้วุ่น สุดท้ายก็บอกเป็นธุระในอำนาจของ กกต. .. การเชิญ ไม่เชิญต่างชาติ หรือจะอนุญาตให้มีผู้สังเกตการณ์หรือไม่ ก็เป็นอำนาจของ กกต. เช่นเดียวกัน ตามปกติแล้วก็จะอนุญาต หากมีการขอมาอย่างถูกต้องตามระเบียบ .. หน้าที่ใครหน้าที่มัน ใครไม่เกี่ยวก็ไม่น่าออกความเห็น ชักใบให้เรือเสีย หาเรื่องให้โดนด่าฟรีๆ เลย

ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น