xs
xsm
sm
md
lg

สรรหา ผอ.การท่าเรือฯสุดฉาว ดัน“กมลศักดิ์”ค้านสายตา จน “บอร์ดสรรหา”3ใน 5 ชิงไขก๊อก **จิ้งจกเรียกพี่!! “ธาริต”ยอมละศักดิ์ศรี ขอหย่าศึก “สุเทพ”คดีหมิ่นประมาทแถลง “โรงพักร้าง” **ถอยดีกว่า!! “ลุงตู่”โดนด่าฟรี ปมชงบัตรเลือกตั้ง “โนโลโก้ (พรรค)”

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ตัวใครตัวมัน!! สรรหา ผอ.การท่าเรือฯสุดฉาว ดัน“กมลศักดิ์”ค้านสายตา จน “บอร์ดสรรหา”3ใน 5 ชิงไขก๊อก ไม่ขอถูกใช้เป็น“ตรายาง”พัวพันเรื่องไม่ชอบมาพากล ท้วงทักหลายกระแส ยังหน้ามึนถือ “ใบสั่งลงอาคม”ล็อกคอ แทงชื่อเข้าบอร์ดใหญ่ก่อนสิ้นปี ทั้งที่คำถามค้างคา ข้อร้องเรียนยาวเป็นหางว่าว ข้อครหาผลประโยชน์ทับซ้อน “กงสีผัวเมีย”ยังไม่คลี่คลาย

ประวัติศาสตร์ต้องจารึก .. การสรรหา ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) คนใหม่ ที่มี กฤชเทพ สิมลี รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ว่า เป็นการสรรหาผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานรัฐที่ “ฉาวโฉ่”ที่สุดครั้งหนึ่ง .. สื่อหลายสำนัก รายงานตรงกันว่ากระบวนการสรรหา“ไม่ถูกต้อง-ไม่เป็นธรรม” แต่ “ผู้เกี่ยวข้อง”ก็ไม่นำพา .. แรกเริ่มลือกันว่ามี "ใบสั่งลงอาคม" จาก “ผู้ใหญ่”ในกระทรวงคมนาคม แล้วยังหนักข้อถึงขนาดแอบอ้าง บัญชา“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา อีกด้วย .. เป็นบัญชาที่เจาะจงว่า ผู้ที่จะได้รับเสนอชื่อต้องเป็น ร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร รอง ผอ.สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ กทท. เท่านั้น .. ว่ากันว่า “กรรมการสรรหา”ขัดแย้งกันหนัก จนมี 3 ใน 5 คน ที่ไม่เห็นด้วย และขอลาออกไป .. ด้วย“รับไม่ได้”กับธงที่ตั้งไว้ อันขัดกับ“ครหา”นานัปประการของ “ผู้ที่ถูกเลือก”..โดยเฉพาะ “ข้อร้องเรียน”ต่อ “รองฯกมลศักดิ์” ตลอดจน ครหาสำคัญ “ผลประโยชน์ทับซ้อน”ที่ภรรยา ร.ท.กมลศักดิ์ คือ อัฌนา พรหมประยูร ผู้ช่วย ผอ.สายบริหารทรัพยากรบุคคลฯ กทท. ที่มีแนวโน้มขึ้นเป็น "รอง ผอ." อยู่ในปัจจุบัน .. กรรมการสรรหาบางคนที่ “ไม่ร่วมสังฆกรรม”กับกระบวนการสรรหาครั้งนี้ ให้เหตุผลที่ทำให้กระบวนการ“ไม่ชอบมาพากล”ไว้ด้วย ..
ร.ท.กมลศักดิ์ และ อัฌนา พรหมประยูร
เมื่อย้อนไปครั้งที่ 4 ผู้ผ่านคุณสมบัติรอบแรก เข้าสัมภาษณ์-แสดงวิสัยทัศน์ เมื่อ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏ "บอร์ดสรรหา" ไม่ครบองค์ประชุม .. ทั้งที่มีการแจ้งลาล่วงหน้า แต่ก็ยังนำเรื่องสำคัญขนาดนี้เข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดสรรหา แล้วลงคะแนนเลือก "ผู้ชนะ" หน้าตาเฉย .. กลายเป็น“จุดแตกหัก”ที่ทำให้ “บอร์ดสรรหา”ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมตัดสินใจลาออก ไม่ต้องการถูกใช้ชื่อพัวพันเรื่องฉาวโฉ่ .. หลังจากนั้น ก็ลุกลี้ลุกลน ชงเรื่องเข้า "บอร์ดใหญ่" ตีตรา "วาระลับ" เคาะชื่อ "กมลศักดิ์" ผ่านฉลุยออกมา เดินหน้าต่อรองค่าจ้างกันต่อ .. ล็อกคอชงชื่อเข้า “บอร์ดการท่าเรือฯ”ล่วงหน้า 27 ธ.ค.นี้ เคาะอีกโป้ง “กมลศักดิ์”ขึ้นเป็น ผอ.เต็มตัว .. นัยว่ารวบรัดตัดจบ เป็น“ของขวัญปีใหม่”ให้ “ครอบครัวพรหมประยูร”รวมไปถึง“ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง”..พอเกิดเรื่องจนกลายเป็นกระแสอื้อฉาว “บอร์ดกทท.”แทนที่จะเดือดเนื้อร้อนใจ รีบหาข้อเท็จจริง ชี้แจงต่อสื่อ-ต่อสาธารณะ .. แต่เหมือนเกรงใจ “ผู้ใหญ่”ที่ต้องการ“ลุยถั่ว” ประเคนเก้าอี้ให้ “ร.ท.กมลศักดิ์”ให้ได้ .. น่าสังเกตว่า เรื่องใหญ่ขนาดนี้ บอร์ดหลายรายพยายามบ่ายเบี่ยง เลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์สื่อ .. อ้างตรงกันราวกับได้สคริปต์จากแหล่งเดียวกันว่า การสรรหาผู้อำนวยการ กทท.คนใหม่ ยังไม่สิ้นสุด อยู่ระหว่างการพิจารณาของบอร์ด ที่จะได้ข้อสรุปก่อนสิ้นปีนี้ .. บอร์ดเอาแต่ท่อง “คาถาอาคม”ยันว่า การสรรหาครั้งนี้ เป็นไปตามกระบวนการ คณะกรรมการสรรหาฯก็พิจารณาตามหลักเกณฑ์ .. ส่วนการร้องเรียนถือเป็นเรื่องปกติทั่วไป ที่ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งจะถูกกล่าวหา ซึ่งก็ต้องพิจารณากันตามข้อเท็จจริง .. ที่ถือเป็นข้อชี้แจงที่ “ไร้ความรับผิดชอบ”ชอบกล.

**จิ้งจกเรียกพี่!! “ธาริต”ยอมละศักดิ์ศรี ขอหย่าศึก “สุเทพ”คดีหมิ่นประมาทแถลง “โรงพักร้าง”ก่อนศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษา ทั้งที่ถือแต้มต่อ 2 ศาล “ชั้นต้น-อุทธรณ์”ยกฟ้อง แล้วยังออกตัวแรงเป็น “ผงซักฟอก”ให้อีก อ้าง“สุเทพ”ไม่ผิด เหตุออกคำสั่งตามข้อเสนอของ ผบ.ตร. งานนี้ “ฝ่ายเพื่อไทย”ที่“ธาริต”เคยป้อนข้อมูลให้ มีเหวอ..
สุเทพ เทือกสุบรรณ
พลิกอีกตลบ .. รายของ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่โชว์ความพลิ้ว เปลี่ยนสีสันได้ตลอด .. ชื่อเสียงระบือมาตั้งแต่สมัยยังรับราชการ หน้าผากพะยี่ห้อ “เด็กทักษิณ” แต่ก็ยังอุกอาจมีบทบาทสำคัญในยุค “รัฐบาลประชาธิปัตย์” .. สร้างชื่อในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ห้ำหั่น "คนเสื้อแดง" จนถูก “ขั้วเพื่อไทย” จองกฐิน .. จนสมัยเลือกตั้งปี 54 ยังไม่ทันรู้ผล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประกาศหมายหัว “ธาริต” โดนเด้งแน่ หากอำนาจเปลี่ยนมือ .. ปรากฎว่า “มวยพลิก” จากคนอาการพะงาบๆ เจียนตาย กลับขึ้นหม้อเป็น “มือไม้สำคัญ” ของ “ รัฐบาลเพื่อไทย” .. ไม่โดนเด้งก็ว่าสุดๆแล้ว ยังปวารณาตัวเป็นหัวหอกเล่นงาน "อำนาจเก่า" อย่างมันมือ .. คนที่โดนเน้นๆ ไม่พ้น “นายเก่า” อย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ .. จะว่าไป “คดีโรงพักร้าง” ชนักปักหลังของ “เทพเทือก” ก็ได้ “ดีเอสไอ” ในยุค “ธาริต” นี่แหละ ที่เดินงานเนี้ยบ จับเอา “สุเทพ” ขึงพืดมาจนบัดนี้ .. เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน (อีกแล้ว) จู่ๆ ธนากร แหวกวารี ทนายความของ “ธาริต” ก็ออกมาเป็นตัวแทนแถลงยอมรับสารภาพ-ขอโทษ “สุเทพ” .. ในกรณีที่ “ธาริต” ตกเป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาท จากการแถลงข่าวกรณีก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศ หรือ “โรงพักร้าง” .. จากที่เคยห้ำหั่น ยกคดีโรงพักร้างเป็น “เรื่องเร่งด่วน” กะฟาด “สุเทพ” อย่างเอาเป็นเอาตาย .. มาวันนี้ เปลี่ยนโทน “ได้ทบทวนเรื่องราว พบว่า การแถลงข่าวที่เกิดขึ้นไม่สมควร เป็นการล่วงเกินนายสุเทพ ทั้งที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาและมีพระคุณ” แถลงการณ์ขอโทษว่าไว้ .. หมุดหมายก็เพื่อโน้มน้าวใจให้ “สุเทพ” ใจอ่อนยอมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท ที่นัดอ่านคำพิพากษา “ชั้นฎีกา” ในช่วงสัปดาห์นี้ ..
ธาริต เพ็งดิษฐ์
น่าติดใจก็ด้วยคดีนี้ “ศาลชั้นต้น-ศาลอุทธรณ์” ตัดสินทำนองเดียวกันให้ “ยกฟ้อง” ที่ตามหลักสู้คดี แค่ตราประทับ “ชั้นต้น-อุทธรณ์” ให้ยกฟ้อง ก็น่าจะพอสรุปได้ว่า “ศาลฎีกา” จะว่าอย่างไร .. ประตูชนะคดี ศาลยกฟ้อง เปิดกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ 2 ศาล ระบุว่า เป็นความเห็นทางกฎหมาย ทำตามหน้าที่ อธิบดีดีเอสไอ .. แต่ไม่น่าเชื่อว่า “ธาริต” กลับเลือกที่จะละ “ศักดิ์ศรี” เจรจาขอจบเรื่องกับ “สุเทพ” โดยมี คณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด เป็นคนกลางช่วย ประสาน .. ที่น่าสนใจกว่านั้น นอกเหนือจากการขอโทษขอโพย เพื่อเลี่ยงการถูกตัดสินมีความผิด เสี่ยงไปจองจำในคุกแล้ว .. บางช่วงบางตอนยังออกตัวเป็น “ผงซักฟอก” การันตีว่า “โรงพักร้าง” นั้น ไม่เกี่ยวกับ“เทพเทือก” อีกต่างหาก .. “ตามข้อเท็จจริงแล้ว การออกคำสั่งของ นายสุเทพ ดังกล่าว เป็นการกระทำตามข้อเสนอของ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นข้าราชการประจำ โดยมีเหตุผล และที่มาที่ไปตามความเหมาะสมและจำเป็น” ถ้อยแถลงของ “ธาริต” ว่าไว้ .. งานนี้นอกจากทำ “กองเชียร์ - กองแช่ง” ไปไม่เป็นแล้ว “ฝ่ายเพื่อไทย” ก็ต้องเหวอ ก็ชุดข้อมูลที่เอาล่อเอาเถิด “สุเทพ” ก็มาจาก “ธาริต” นี่แหละ

**ถอยดีกว่า!! “ลุงตู่”โดนด่าฟรี ปมชงบัตรเลือกตั้ง “โนโลโก้ (พรรค)”แค่ “พรรคเล็ก”ชงขมปี๋ในวงประชุมคสช. แล้วดันไปคอมเมนต์ตามน้ำ เผอิญ “รองเลขาฯ กกต.”เด้งมารับลูกอีก ก็เลยไปกันใหญ่ กลายเป็นโยนหินถามทาง เลี้ยงกระแสไม่ยอมชี้แจง ก่อนโบ้ยอำนาจ “อรหันต์ กกต.”ที่คงไม่นึกอุตริ หลังเจองัดชะตากรรม “3หนา 5 ห่วง”มาขู่ แถมมีชนักแบ่งเขตช้า-พิสดาร อยู่อีก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน .. ที่ว่า“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเจ้าไอเดีย เสนอให้ “บัตรเลือกตั้ง”ไม่ต้องมี“โลโก้พรรค-ชื่อพรรค”ในที่ประชุมร่วมของ คสช. เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.นั้น “ไม่จริ๊ง ไม่จริง”..แค่มีบางพรรคการเมืองจุดพลุขึ้นมา แล้ว“ลุงตู่”ก็รับฟัง พร้อมแนะนำให้ไปหาวิธีพีอาร์ กันเองหากไม่มีโลโก้พรรค แล้วก็มอบให้ กกต.ไปเป็นการบ้านเท่านั้น .. แต่เรื่องมันเผอิญ 2 เด้ง หนึ่งเนื้อหาในข่าวระบุว่า “ลุงตู่”เป็นผู้เสนอตามเสียงลือหึ่งในหมู่มวล “ส.ส.พลังดูด”ที่หวังเลี่ยงปม “ย้ายพรรค”..แล้วยังมาเผอิญอีกชั้นเมื่อ ณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. ดันโพล่งว่า กำลังพิจารณา “บัตรโนโลโก้”เนื่องจากมีปัญหาในการจัดส่งไปต่างประเทศ สำหรับผู้ใช้สิทธินอกราชอาณาจักร .. ผนวกรวมกันก็เลยกลายเป็นว่า “ลุงตู่”ชง แล้ว “กกต.”เด้งดึ๋ง รับลูก ซ้ำแผลเก่าแบ่งเขตเลือกตั้งที่ยังคาใจกันอยู่ .. ผิดก็อีกที่ พอเป็นประเด็นขึ้นมา ทั้ง คสช.หรือรัฐบาล ไม่ยักจะออกมาแก้ไข ทำความเข้าใจ ปล่อยให้ “ลุงตู่”โดนด่าฟรี ..
อิทธิพร บุญประคอง  และ  พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
จับทางได้ว่า ที่ปล่อยให้เป็นประเด็นตั้งหลายวัน โดยที่ไม่มีคำชี้แจงออกจากรัฐบาล หรือคสช. ก็คงมองได้ไม่ผิดว่า แค่ลูกไม้“โยนหิน”ลองถามทาง อีกครั้ง .. ก่อนให้ “เสี่ยบี”พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกรัฐบาล ออกมาลงสวยๆ ว่า ไม่เคยแทรกแซง กกต. .. บัตรเลือกตั้งหน้าตาเป็นอย่างไร ก็เป็นอำนาจ กกต.ของ “ทูตปุ๊”อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. พิจารณา .. เท่าที่ซาวเสียงมาตลอด 3-4 วัน กับเสียงคัดค้านแบบ“ร้อยทั้งร้อย” ก็คงชัดเจนเพียงพอแล้วว่า กกต. จะดำริเกี่ยวกับ “บัตรเลือกตั้ง”ออกมายังไง .. ยิ่งมีการปลุกผี “3 หนา 5 ห่วง”รุ่นพี่ กกต.ในอดีต ที่ต้องโทษจำคุกกันในบั้นปลายชีวิต นั่นก็อีก .. อย่าลืมว่า กรณีแบ่งเขตล่าช้า-พิสดาร ยังถูกจดไว้ในบัญชี ที่ช่วงนี้ยังไม่มีใครนึกคึกจะยกขึ้นมาเอาผิดกันในช่วงนี้ .. ก็เกรงกันว่าหาก“ท่านอรหันต์ กกต.”ตกพุ่มซวย มีคดีความขึ้นมา ปฏิทินเลือกตั้งจะถูกเลื่อนออกไปอีก ก็เท่านั้น .. ขืนอุตริทำอะไรพิสดารพันลึกขึ้นมาอีก ก็น่ากลัวว่า “ฝ่ายแค้น” จะเบรกแตก เอาผิดกันตั้งแต่ตอนนี้ขึ้นมาละก็ ยุ่งตายชัก

ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น