โฆษก ปชป.เปิดชื่อผู้สมัครนนทบุรี-ราชบุรี-นครปฐม โวผลสำรวจนำโด่งเชื่อเข้าวินยกทีมทั้ง 3 จว. เปิดตัวนโยบายพรรคสัปดาห์หน้า แฉสุโขทัยเก็บบัตร ปชช.ทำบัตรคนจน ไม่สนคุณสมบัติ จี้ กกต.จับตาใช้อำนาจรัฐเอื้อบางพรรค ฝาก ปชช.สกัดซื้อเสียง
วันนี้ (28 พ.ย.) นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงยืนยันความพร้อมในการส่งผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าพรรคมีผู้สมัครที่มีคุณภาพและจะส่งครบ 350 เขตทั่วประเทศ แม้ในหลายพื้นที่จะมีผู้สมัครของพรรคออกไปอยู่พรรคการเมืองอื่น เราเคารพการตัดสินใจและได้ตัวบุคคลที่มีคุณภาพ มีคุณสมบัติยึดมั่นแนวทางประชาธิปัตย์มาลงแทนแล้ว โดยเชื่อว่าประชาชนอยากได้นักการเมืองซื่อสัตย์ สุจริต ดำเนินการทางการเมืองได้อย่างซื่อตรง ตรงกับพรรคที่จะไม่หาประโยชน์ทางการเมืองด้วยการหลีกเลี่ยงกติกาและกฎหมาย โดยจะยึดมั่นผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้ ประชาธิปัตย์ในยุคที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค จะเป็นประชาธิปัตย์ที่ไม่เกรงใจใครอีกแล้ว ถ้าขัดหลักการของบ้านเมือง ผลประโยชน์ของประเทศจะต่อสู้และยืนหยัดทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งพรรคจะเสนอนโยบายเป็นจริง สัมผัสได้และรวดเร็ว โดยนายกรณ์ จาติกวณิช เป็นประธานจัดทำนโยบายพรรคเสร็จสมบูรณ์แล้วและจะเริ่มแถลงในแต่ละเรื่องตั้งแต่สัปดาห์หน้า
นายธนายังกล่าวถึงปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า มีบางพรรคนำเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งมาเจรจาต่อรองให้ย้ายพรรค เมื่อไม่ย้ายก็มีการแบ่งเขตเป็นสองส่วนเอาพื้นที่ที่มีคะแนนนิยมน้อยมาใส่แทน เช่น ที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบในทางการเมือง ดังนั้น พรรคจะตรวจสอบการแบ่งเขตเลือกตั้งทั่วประเทศของ กกต.ว่าเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของ กกต.หรือไม่ โดยมีความเป็นห่วงว่า คสช.เข้ามาบริหารแล้วไม่ดำเนินการต่างจากรัฐบาลเดิมที่ตัวเองยึดอำนาจ จะทำให้บ้านเมืองจะเข้าสู่วงจรความขัดแย้งเหมือนเดิม เพราะการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม
ด้านนายธัญญนิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงรายชื่อผู้สมัครของพรรคใน 3 จังหวัด คือ จังหวัดราชบุรี ประกอบด้วย นางกัลยา ศิริเนาวกุล เขต อ.เมืองฯ พ.ต.ท.สันทัด เจียมสกุล เขตปากท่อ วัดเพลงสวนผึ้งบ้านคา นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ เขตโพธาราม จอมบึง นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ เขตบ้านโป่ง และนายชัยโรจน์ เอกอัครอัญธรณ์ เขตดำเนิน บางแพ จังหวัดนครปฐม ประกอบด้วย นายชวินชยาทิต ภาณหสตังไทรงาม เขต 3 พ.ท.สินธพ แก้วพิจิต เขต 1นายสมคิด เปี่ยมคล้า เขต 2 นายสมชาย มณีรัตน์ เขต 4 และนายสุรชัย อนุตธโต เขต 5 และจังหวัดนนทบุรี ดร.วิภาวัลย์ วรวรรณปรีชา เขต 1 ดร.เฉลิมพล นิยมสินธุ์ เขต 2 นายกฤตพัศ อัจฉริยะประสิทธิ์ เขต 3 นายวิรัตน์ บรรดาศักดิ์ เขต 4 นายจำลอง ขำสา เขต 5 นายสัมฤทธิ์ ด้วงโสน เขต 6 โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้สำรวจความนิยมแล้วได้รับการตอบรับอย่างดี จึงมั่นใจว่าจะชนะยกทีม
ขณะที่นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าบางพรรคการเมืองใช้อำนาจรัฐและความได้เปรียบผ่านโครงการของรัฐเพื่อทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมือง โดยมีการร้องเรียนผ่านประชาธิปัตย์ว่าใช้อำนาจรัฐอย่างไม่ชอบ เช่นที่สุโขทัย เก็บบัตรประชาชนอ้างว่าจะนำไปทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ โดยไม่คำนึงว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะนำไปสู่ปัญหาการเลือกตั้งที่จะซื้อสิทธิขายเสียงในอนาคตแน่นอน กกต.ต้องลงไปดู ซึ่งการใช้อำนาจรัฐดังกล่าวมีหลักฐานทั้งคลิปเสียงและภาพ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะยังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีผู้สมัครก็สามารถดำเนินการได้ทันที และฝากถึงประชาชนว่าต้องไม่หลงกลนักการเมืองประเภทที่มีการทวงบุญคุญว่าถ้าอยากได้อีกต้องเลือกเขาเพราะมีความใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจรัฐ ประชาชนต้องไม่เลือกนักการเมืองซื้อเสียงที่จะไปถอนทุนคืน ซึ่งจะนำไปสู่การยึดอำนาจอีกครั้ง ประชาชนต้องช่วยกันสกัด ขณะที่กกต.ต้องสร้างความเชื่อมั่นเป็นหลักของประเทศ ไม่เป็นเครื่องมือของใครคนใดคนหนึ่ง จนทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรม เพราะจะทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้
นายจุฤทธิ์ยังกล่าวถึงปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดสุโขทัยว่า ไม่คำนึงถึงลักษณะทางภูมิศาสตร์ เช่น อำเภอกรงไกรลาศ ไม่เคยโดนแบ่งอำเภอ แต่ครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง แม้ กกต.จะแบ่งอำเภอได้ แต่มีความพยายามแบ่งเขตใหม่เพื่อเอื้อให้บางพรรคมีโอกาสมากขึ้น และการแบ่งเขตจังหวัดกาญจนบุรี ก็มีปัญหานำประชากรจากเขต 2 ไปประมาณ 5 หมื่นคน กระจายไปตามเขตเลือกตั้งอื่น ทำให้มีประชากรน้อยกว่าเขตอื่นกว่า 5 หมื่นคน หากแบ่งเขตเช่นนี้ต้องมีคำตอบให้ชาวกาญจนบุรีทราบด้วย เรื่องนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือคัดค้านการแบ่งเขตดังกล่าวแล้ว