xs
xsm
sm
md
lg

“นิพิฏฐ์” ฟุ้ง ปชป.กวาด ส.ส.ภาคใต้ 45 เขต ซัด พปชร.ขี้ขโมยพฤติกรรมสวนทางปฏิรูป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ(แฟ้มภาพ)
“นิพิฏฐ์” ยังฟุ้งมั่นใจชนะเลือกตั้งภาคใต้ได้ สส.เขตไม่น้อยกว่า 45 คน จวกพลังประชารัฐพฤติกรรมสวนทางปฏิรูปกลายเป็นคู่ขัดแย้งใหม่ ชี้แอบปีนหลังคาเข้ามาขโมยของทั้งกลางวันกลางคืน

วันนี้ (27 พ.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงอดีต ส.ส.ปี 2554 ของพรรคในพื้นที่ภาคใต้ ลาออกไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นรวม 7 คนว่า เป็นการตัดสินใจของแต่ละคนซึ่งพรรคให้ความเคารพ แต่เชื่อว่าไม่กระทบเพราะมีผู้สมัครใหม่ลงแทนแล้ว โดยตั้งเป้าได้ ส.ส.45 คนขึ้นไปจากทั้งหมด 50 เขตในพื้นที่ภาคใต้ แต่ยอมรับว่าคะแนนเสียงอาจจะเฉลี่ยไปบ้าง เพราะมีผู้สมัครเยอะ คาดว่าในแต่ละเขตจะมีผู้สมัคร ประมาณ 10-15 พรรคการเมือง โดยผู้สมัครแต่ละคนก็มีญาติพี่น้อง และคะแนนอาจจะหายแต่ละเขตถึงหลักหมื่นซึ่งจะกระทบต่อฐานคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ดังนั้น ถ้าจะเอาคะแนนของภาคใต้ไปบวกให้กับบัญชีรายชื่อคงจะมีปัญหานิดหน่อย แต่ด้วยหน้าที่ของตนเองก็จะทำให้ได้ ส.ส.เขตมากที่สุด

นายนิพิฏฐ์ยังกล่าวถึงการย้ายพรรควันสุดท้ายของอดีต ส.ส.ว่า เป็นภาวะที่เรียกว่าฝุ่นตลบ แต่ก็ดีที่ทำให้ประชาชนเห็นภาพชัดเจนขึ้นเพราะฝุ่นจางลง เช่น พรรคพลังประชารัฐไปดูดพรรคเพื่อไทย คนก็คิดได้ว่าไปยึดอำนาจเขามาแล้วดูดมหาศาล จนเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ เอาคนของเขามาไว้ในอ้อมอกอยู่ในพรรคเดียวกัน ตกลงจุดเป้าหมายในการยึดอำนาจคืออะไร จะอ้างเหตุผลว่าต้องการปฏิรูปการเมืองจึงตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่สร้างคนไม่ทัน จำเป็นต้องดึงอดีต ส.ส.มาร่วมด้วยนั้น ฟังไม่ขึ้น เพราะหลักของการยึดอำนาจต้องการขจัดความขัดแย้ง

“ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐกลายเป็นคู่ขัดแย้งใหม่ เป็นการเพิ่มความขัดแย้ง ไม่สามารถยุติความขัดแย้งได้ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนให้ทหารยึดอำนาจ แต่ในความเป็นจริงพรรคพลังประชารัฐกลับดูดอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์จำนวนมาก และมีบางอย่างที่ไม่ควรกระทำ เช่น เอาคนของเราไปเสนอตำแหน่งให้ และใช้คนเหล่านั้นกลับมาดูดคนของเราอีก ขโมยคนของเราทั้งกลางวันและกลางคืน ปีนขึ้นมาบนหลังคาก็มี อย่างนี้นอกจากสร้างความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยแล้ว ยังลามมาถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วย กลายเป็นคู่ขัดแย้งใหม่ในทางการเมือง” นายนิพิฏฐ์กล่าว

นายนิพิฏฐ์กล่าวด้วยว่า พฤติกรรมของพรรคพลังประชารัฐสวนทางกับการปฏิรูปการเมือง สิ่งเหล่านี้คนได้เห็นภาพชัดเจนแล้ว ที่พูดว่าจะขจัดความขัดแย้งเป็นเพียงลมปาก เป็นเพียงแค่การหาช่องทางเข้าสู่อำนาจโดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตามตอนนี้มั่นใจว่าที่ดูดไปจำนวนมากจะได้ ส.ส.เพียง 30 เปอร์เซ็นต์ของที่ดูดก็หรูแล้ว เพราะที่ดูดไปส่วนใหญ่เป็นแถว 3 ดังนั้นที่เห็นว่ามีจำนวนเยอะอย่าตกใจ จึงเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่ใช่พรรคการเมืองใหญ่อย่างที่คาดหวังไว้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ตนเองเดินหาประชาชนทั้งวัน ไม่เคยเห็นคะแนนของพลังประชารัฐ และไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ภาคใต้ แต่ในพื้นที่ภาคอื่นๆ ก็เป็นเช่นเดียวกัน ดังนั้นคะแนนของพรรคพลังประชารัฐ จึงเห็นแต่ในโพล แต่ไม่เจอในสนามเลือกตั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น