คาถา“อาคม”เข้มขลัง!! ชื่อ “กมลศักดิ์”ยังเหนียวจ่อ “ผอ.การท่าเรือฯ”คนใหม่ **เชื่อถือได้ไหม!! “นิด้าโพล”ปล่อยผลสำรวจนายกฯ ในใจคนไทย“หญิงหน่อย”แซง “ลุงตู่” **“กลุ่มชากังราว - ลูกบุญทรง”ผละ “เพื่อไทย”ซบ“พลังประชารัฐ”

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**คาถา“อาคม”เข้มขลัง!! ชื่อ “กมลศักดิ์”ยังเหนียวจ่อ “ผอ.การท่าเรือฯ”คนใหม่ ได้อานิสงส์ “ใบสั่งลงอาคม”ขีดเส้น สิ้นเดือนพ.ย.นี้“ปิดจ๊อบ”สั่งการ “กฤษเทพ”ล็อกคิว “รองฯกมลศักดิ์”ต่อรองเงินเดือน แนบเรื่องส่งเข้า“บอร์ด”แทงทะลุไปกระทรวงคมนาคม ที่เปิดไฟเขียวเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด คอยท่าอยู่ ทั้งที่เรื่องร้องเรียนเช่าที่ถูก - บุกรุกสารพัด แถมครหา “ผัวเป็น ผอ. เมียเป็นรองฯ ผอ.”ผลประโยชน์ซ้อนทับชัดๆ ยังไม่เคลียร์ สะพัด“บอร์ดการท่าเรือ”ที่ต้องเป็นคนชงเรื่อง “โดดหนีตาย”เตรียมลาล่วงหน้า ไม่ขอเกลือกกลั้วร่วมโหวตด้วย

เข้มขลัง หนังเหนียว .. ชื่อของ ร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร รอง ผอ.สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ยังคงจ่อคิวจะได้เป็น “ผอ.การท่าเรือฯ”คนใหม่ .. เป็นชื่อที่ “ถูกเลือก”โดย “วงประชุมลับ”ของ คณะกรรมการสรรหา ที่มี กฤชเทพ สิมลี รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน .. ขนาดมี “ข้อครหา”ที่หลายฝ่ายท้วงทักไป ก็ยังจะ “ลุยถั่ว”ดันให้สุดทาง โดยมี อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ถูกกล่าวอ้างว่าเป็น “แบ็ค”ให้ .. ลือหึ่งๆใน “คนท่าเรือ”ว่า มี “ใบสั่ง”ที่ไม่ธรรมดาเป็น “ใบสั่งลงอาคม”ขีดเส้น สิ้นเดือนพ.ย.นี้ “ปิดจ๊อบ”ให้ได้ .. นัดแนะเสร็จสรรพ “กฤษเทพ”ลงบุ๊กกลางสัปดาห์หน้า ล็อกคิว “รองฯกมลศักดิ์”ต่อรองเงินเดือน แนบเรื่องส่งเข้า “บอร์ด”แทงทะลุไปกระทรวงคมนาคม ที่เปิดไฟเขียวเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด คอยท่าอยู่ กะปิดกล่องเป็น “ของขวัญปีใหม่”ของใครบางคน .. เสียงลือกระหึ่ม รับกับชื่อเสียงโด่งดังใน“อาณาจักรคลองเตย” ของ“รองฯกมลศักดิ์”ทำเอา “บอร์ดการท่าเรือ”ที่ต้องเป็นคนชงเรื่อง “โดดหนีตาย”เตรียมลาล่วงหน้า ไม่ขอเกลือกกลั้วร่วมโหวตด้วย .. จนตอนนี้ “บิ๊กกระทรวงหูกวาง”ไม่เป็นอันทำอะไร ต่อสาย “ล็อบบี้”ไล่บอร์ดรายตัว เกลี้ยกล่อมให้หันกลับมาสนับสนุน “กมลศักดิ์”.. แต่จะให้กลับหลังหัน 360 องศา มันก็กระไรอยู่ แม้จะคุ้เคย “กมลศักดิ์”ในฐานะ “ลูกหม้อ - คนใน”แต่ก็ไม่ค่อยวางใจให้รับผิดชอบ “งานใหญ่”ที่รอ “ผอ.คนใหม่”อยู่ .. ไม่ว่ากลไกสำคัญในระบบ “ลอจิสติกส์”ที่เชื่อมไปถึงการขับเคลื่อน “โปรเจกต์ยักษ์ EEC” เรือธงของรัฐบาล คสช. .. หรือ “เค้กก้อนโต”อย่างการประมูลงานเป็นแสนๆ ล้านบาท ที่คอยท่าอยู่ในช่วง 1-2 ปีนี้ ทำให้ กทท.ถูกขนานนามว่าเป็น “ขุมทรัพย์แสนล้านสุดขอบน้ำ” ..

เค้กก้อนใหญ่อยู่ที่ ที่ดินย่านท่าเรือคลองเตย 2,300 ไร่ ที่ถูกกำหนดไว้เป็น “แลนด์มาร์กแห่งใหม่”ตีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท .. “งานใหญ่”ที่ต้องรับผิดชอบมัน “ย้อนแย้ง”กับวีรกรรมเก่าของ “กมลศักดิ์”ที่ดูแลสายงานบริหารสินทรัพย์ และพัฒนาธุรกิจ .. แต่เผอิญมีเรื่องร้องเรียนเป็นหางว่าว เกี่ยวกับการบริหารค่าเช่าที่ดิน ปล่อยเช่าสินทรัพย์ของ กทท.ในราคาถูกเกินจริง ยังมีกรณีปล่อยปละ บุกรุกอีกด้วย ล้วนโยงใยกับ“เครือญาติ-คนรู้จัก” ที่เป็นผู้เช่า .. อีกทั้ง “กรรมการสรรหา-บิ๊กคมนาคม”ยังไม่มีคำตอบดีๆ ให้กับ “บอร์ด”ที่แทงคำถามเกี่ยวกับกระบวนการสรรหา“กมลศักดิ์”ไป .. ด้วยต้องท้าวความว่า การสรรหา ผอ.การท่าเรือฯ หนนี้ไม่ใช่หนแรก และ “กมลศักดิ์”ก็ไม่ได้เพิ่งสมัครหนแรกเช่นกัน .. ชื่อของ“กมลศักดิ์ พรหมประยูร”ได้เคยสมัคร รับการคัดเลือกเป็น ผอ.การท่าเรือฯ มาแล้วหนหนึ่ง แต่ “ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา”ตั้งแต่รอบแรก .. แต่พอมาสมัครในครั้งที่ 2 ไม่เพียง “ผ่านเกณฑ์การพิจารณา”เท่านั้น ยังทะลุขึ้นโพเดียม คว้าอันดับ 1 ในใจกรรมการสรรหา ซะด้วย .. ทาง “บอร์ด”ก็เลยถามไปว่า หลักเกณฑ์พิจารณาครั้งที่ 1 และ 2 แตกต่างกันอย่างไร ทำไม “คนตกรอบ”หนก่อน ถึงมาผ่านเข้ารอบ และคว้าชัยชนะในครั้งนี้ .. ก็เลยต้องถามกันให้ชัดว่า “กมลศักดิ์”มีพัฒนาการเด่นชัดด้านไหนขึ้นมาเป็นพิเศษ รวมทั้งถามไปด้วยว่า ทราบเรื่องร้องเรียนที่ยังไม่เคลียร์ของ “ท่ารองฯ”บ้างหรือเปล่า .. แต่ทาง “บอร์ดสรรหา” ก็ดูจะพูดไม่ออก บอกไม่ถูก ขนาด “รายงานเบื้องต้น”ที่ว่าจะนำเข้าที่ประชุมบอร์ดใหญ่ ก็ถูกชักออกไปกระทันหัน .. ที่หนักสุดเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่อง“ประโยชน์ทับซ้อน” ประเภท “ผัวเป็น ผอ. เมียเป็นรองฯ ผอ.”ที่หากได้ “กมลศักดิ์” มาทำหน้าที่เบอร์ 1 การท่าเรือฯ ก็จะได้ภรรยา อัฌนา พรหมประยูร ผช.ผอ.การท่าเรือฯ สายบริหารทรัพยากรบุคคล และบรรษัทภิบาล ที่มีโอกาสขึ้นเป็น “รอง ผอ.”มาช่วยงานด้วย .. งานหนักของ “อัฌนา”ต้องเป็นทั้ง “แม่บ้าน”ที่บ้าน แล้วยังต้องมาเป็น “แม่บ้านใหญ่”ในการท่าเรือฯด้วย .. เรื่องที่ว่าไป รู้กันกระหึ่ม เสียงท้วงก็หนักหน่วงไปถึง “ตึกไทยคู่ฟ้า”นู่น แต่ชื่อ “กมลศักดิ์”ยังนอนมาขนาดนี้ หากไม่มี “พ่อยก”ประเภท “คาถาอาคมเข้มขลัง”ก็ต้องมี “ใบสั่งลงอาคม”แปะหน้าผากมาด้วยแหงๆ .

**เชื่อถือได้ไหม!! “นิด้าโพล”ปล่อยผลสำรวจนายกฯ ในใจคนไทย หน 5 “หญิงหน่อย”คว้า 25.16% เฉือนแซง “ลุงตู่”ที่ได้ 24.05% ครั้งแรก ทะแม่งๆ แต้มส่วนตัว “เจ๊หน่อย”พรวดพราดไม่มีปี่มีขลุ่ยเกือบ 10% จนต้องถามว่า “เชื่อถือได้แค่ไหน”แต่ก็เอาเถอะ เห็นตัวเลขแบบนี้ บวกแต้มพรรค “เพื่อไทย”ยังที่ 1 “พลังประชารัฐ”มาที่ 2 เหมือนเดิม ภารกิจ“ต่อท่ออำนาจ”คงไม่ง่ายอย่างที่คิด

มาถี่ๆ กันเลยทีเดียว .. “นิด้าโพล”สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ปล่อยผลสำรวจความเห็น“ประชาชนอยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป”ที่ถือเป็นครั้งที่ 5 เข้าให้แล้ว .. งวดนี้มีฮือ “เจ๊หน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โดดขึ้นมาเป็นที่ 1 ด้วยคะแนน 25.16% .. แซง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ครองบัลลังก์ ตลอด 4 ครั้งที่ผ่านมา หล่นมาเป็นที่ 2 ด้วยคะแนน 24.05% .. ตามมาด้วย ที่ 3 “เสี่ยเอก”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ 14.52% อันดับ 4 “เฮียมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 11.67% และที่ 5 พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ 6.90% .. พื้นที่แห่งนี้ เคยวิเคราะห์แบบลงลึก “นิด้าโพล”ทุกครั้งแล้วว่า “บิ๊กตู่”อาการน่าห่วง แม้ยึดหัวหาดมาทุกครั้ง แต่ “ผู้ตาม”ที่กระชับพื้นที่ ลดช่องว่างคะแนนนิยมตามมา .. โป๊ะเชะ ชัดเจนก็หนนี้ ที่ต้องสูญเสียบัลลังก์ให้“เจ๊หน่อย”ไปในที่สุด หากแต่ก็มี “ข้อสังเกตเล็กๆ”ให้ขบคิด .. หนึ่ง โพลของสถาบันการศึกษาจับกลุ่มตัวอย่างแค่หลักพันต้นๆ คงเหมารวมเป็น “เสียงคนทั้งประเทศ”ไม่ได้ อย่างที่หลายคนว่าไว้ เวลาโพลไม่เข้าทาง .. สอง คะแนนงวดนี้ออกจะ “ทะแม่งๆ”ไม่น้อย ในส่วนของเรตติ้ง “ลุงตู่”ไม่ติดใจ ด้วยทิศทางปักหัวลงมาตลอดจาก“38.64%-32.24%-31.26%-29.66%”จนมาถึง" 24.05%" ในครั้งนี้ ..

แต่การที่ “ลุงตู่”นำเป็นที่ 1 มาตลอด ก็มีคำถามตามมาตลอดเช่นกันว่า “เชื่อถือได้ไหม”..กลับกัน แต้มของ “เจ๊หน่อย”ที่เคยสวิงอยู่ระหว่าง อยู่ที่ 13 - 17% มาตลอด 4 หนที่ผ่านมา กลับกระโดดพรวดเป็น 25.16% ขึ้นมาเกือบ 10% เลยทีเดียว .. ถือเป็น “ส่วนต่าง”ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมี “นัยสำคัญ”ในทางวิจัย และควรมี “เหตุผลประกอบ”เหมือนกัน และต้องถามเหมือนกันว่า “เชื่อถือได้ไหม”..เพราะการที่ “หญิงหน่อย”ได้ขึ้นเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ไม่น่าจะทำให้แต้มพรวดขึ้นมาขนาดนี้ หรือหาก “ลุงตู่”เรตติ้งตก ก็น่าจะเฉลี่ยไปที่คู่แข่งรายอื่นๆ มากกว่าเทแต้มมายัง “เจ๊หน่อย”คนเดียว .. แต่ก็เช่นเคย งานนี้จะมองว่า “ลุงตู่”ร่วงลงมาอันดับเดียว ก็ดูจะ “มองโลกสวย”ไปนิด ต้องตามไปดูแต้ม“คู่แข่ง - คู่เทียบ”ทั้งหมดด้วย .. โดยเฉพาะ "คะแนนภาพรวม" ของ "ขั้วตรงข้าม คสช." ที่หากเอาคะแนน“หญิงหน่อย + เสี่ยเอก”บวกด้วย“เสรีพิศุทธ์”และ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ที่ได้ 5.32% ก็จะเกิน 50% .. ยิ่งไล่ไปดูคะแนนพรรค“เพื่อไทย”ครองแชมป์ต่อ ด้วยแต้ม 31.75% เพิ่มจากหนก่อน ที่ได้ 28.78% .. ส่วน “พลังประชารัฐ”ตามมาที่ 2 ที่ 19.92% ลดจากหนก่อนที่ได้ 20.62% ก็ยิ่งไปกันใหญ่ .. อย่างที่ไล่เรียงว่า ต้องละไว้ว่า“เชื่อถือได้แค่ไหน”แต่เมื่อเห็นตัวเลขแบบนี้แล้ว ภารกิจต่อท่ออำนาจของ “รัฐบาล คสช.”คงไม่ง่ายอย่างที่คิด

**คุณคือจุดอ่อน!! “กลุ่มชากังราว - ลูกบุญทรง”ผละ “เพื่อไทย”ซบ“พลังประชารัฐ”ขยายปม “เจ๊แดง - เยาวภา”เสื่อมหนัก ขนาด “พรรคเพื่อธรรม”ที่ตัวเองเป็นสปอนเซอร์ ยังเอาไม่อยู่ “สมพงษ์ - พงศกร”ไขก๊อกหัวหน้า-เลขาฯ กระทันหัน ต้องให้ “นลินี”สายตรง “นายหญิงจันทร์ส่องหล้า” ขัดตาทัพ ยังต้องใช้บารมี“นายใหญ่ดูไบ”เบรก “บ้านบูรณุปกรณ์”แห่งเมืองเชียงใหม่ ที่กำลังไปซบพลังประชารัฐอยู่รอมร่อ

เร่เข้ามาๆ .. ในที่สุดเดดไลน์ 26 พ.ย. ที่จะต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคครบ 90 วัน หากเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 ก็มาถึง .. เป็นเหตุให้รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝุ่นตลบอบอวล “นักเลือกตั้งอาชีพ”เพ่นพ่านหาพรรคลงกันจ้าละหวั่น .. เนื้อๆ เน้นๆ อยู่ที่ “ค่ายพลังประชารัฐ”ที่จัดหนักจัดเต็ม โดยเฉพาะชุดของ “กลุ่มสามมิตร”ของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ - สมศักดิ์ เทพสุทิน และ ทีมงาน สุชาติ ตันเจริญ แห่งกลุ่มบ้านริมน้ำ เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ที่นำทัพ อดีตรัฐมนตรี - อดีต ส.ส.มาเข้าสังกัด “พลังประชารัฐ”รวมแล้วมากกว่า 100 ชีวิตเลยทีเดียว .. เซอร์ไพร์ส มีเรื่อยๆ อย่าง อำนวย คลังผา อดีตส.ส.ผูกขาด ที่ จ.ลพบุรี ก็ไม่มีใครเชื่อ ระดับ “มวยหลักแห่งเมืองลิง”เป็นที่ยอมรับในพรรคเพื่อไทย สมัยที่แล้วยังเป็นประธานวิปรัฐบาล จ่อเป็นรัฐมนตรีโควตาภาคกลางคิวต่อไป หากไม่มีรัฐประหารด้วยซ้ำ .. ส่วน “ไฮไลต์สำคัญ” ต้องยกให้“กลุ่มกำแพงเพชร”ที่มีชื่อ “เสี่ยต๋อง”วราเทพ รัตนากร เป็นหัวหน้าทีม .. แม้จะไม่ได้มาร่วมเปิดตัวด้วยตามนัด แต่ก็เป็น “เสี่ยต๋อง”ที่เป็นคน “เซย์เยส”กับ “ผู้ใหญ่ในประชารัฐ” ..เป็นที่มาของทีมงาน 5 ชีวิตแห่งเมืองชากังราว ประกอบด้วย “ไผ่ ลิกค์ - พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ - ปริญญา ฤกษ์หร่าย - อนันต์ ผลอำนวย - สุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์”มากันยกจังหวัด .. ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ รายของ "ไผ่ ลิกค์" หรือ "ไผ่ วันพอยท์" ก็ระดับเพื่อนซี้ “เสี่ยโอ๊ค”พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ แถมเป็นแขกประจำ เดินทางเยี่ยมเยือน ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต่างแดน โพสต์รูป เชิดชู 2 อดีตนายกฯ ลงโซเชียลตลอด .. เช่นเดียวกับ “ไวพจน์”ที่ขึ้นชื่อ “โจกแดงสายฮาร์ดคอร์”ตลอด 4-5 ปีมานี้ ก็เป็นหัวโจกด่า “รัฐบาล คสช.”ต่อเนื่อง ..

เหนือความคาดหมายสุดๆ น่าจะเป็นคิวของ “เสี่ยป้ำ”เดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ลูกชาย บุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่เปิดตัวเป็นว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ของพรรคเพื่อไทยแล้วด้วยซ้ำ .. แต่ตัดสินใจลาออกทันที ที่ “ทนายยิ่งลักษณ์”เอาชื่อพ่อมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ก่อนมาลงเอยกับพรรค พปชร. .. ที่ผิดนัดไปก็มี “บ้านบูรณุปกรณ์”แห่งเมืองเชียงใหม่ ที่รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว แต่แจ้งยกเลิก .. ดีที่ “นายใหญ่ดูไบ”ต่อสายตรง เบรก ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ หลานของ “เสี่ยโต๊ะ”บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกฯ อบจ.เชียงใหม่ ได้ทันในนาทีสุดท้าย .. ร่องรอยความปั่นป่วน ทั้งการเสีย “กลุ่มชากังราว - ลูกบุญทรง”ให้กับ “พลังประชารัฐ”หรือการที่ “บ้านบูรณุปกรณ์”คิดจะย้ายขั้ว ต้องใช้บารมี “นายใหญ่”เบรก .. ไล่เรื่อยไปถึงการเปลี่ยนม้ากลางศึกของ “พรรคเพื่อธรรม”ที่มีชื่อ “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง .. ซึ่ง สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ - พงศกร อรรนพพร ลาออกจากหัวหน้า และเลขาธิการพรรค ทั้งที่เพิ่งได้รับเลือกแค่ร่วมเดือน แล้วต้องตั้ง นลินี ทวีสิน สายตรงจันทร์ส่องหล้า ขึ้นมาขัดตาทัพ .. ล้วนแล้วแต่เป็นความปั่นป่วนในเครือข่าย “วังบัวบาน”ของ “เจ๊แดง”ที่วันนี้กลายมาเป็น “จุดอ่อน”ของระบอบทักษิณ อย่างเป็นทางการทั้งสิ้น .. อันเป็นผลมาจากคดีความที่กำลังจะถึงตัว“เจ๊แดง”รวมไปถึงวีรกรรมความใจไม้ไส้ระกำ ไม่ดูดำดูดี “ลิ่วล้อ”จนตกระกำลำบาก

ช.ชฎา