xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.กกต.แนะจับตาผลประชุมแม่น้ำ 5 สายเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธาน กกต.แนะให้จับตาการประชุมแม่น้ำ 5 สายหลังกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.บังคับใช้จะมีปัจจัยให้เลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มี ยันคำสั่ง คสช.ที่ 16/61 ไม่ใช่นิรโทษกรรม กกต.น้อมรับเสียงวิจารณ์ ไม่น้อยใจปมปัญหาสุขภาพส่วนตัวทำแบ่งเขตช้า

วันนี้ (22 พ.ย.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองยื่นหนังสือขอให้การเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมปวันที่ 24 ก.พ. 2562 และพรรคการเมืองอีกกลุ่มขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปว่า กกต.จะเอาข้อมูลมาพิจารณาในภาพรวม ซึ่งพรรคการเมืองขนาดเล็กก็มีข้อเรียกร้องให้มีความยืดหยุ่นเกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้ง รวมถึงผลกระทบจากปัจจัยอื่นๆ ที่จะต้องพิจารณาด้วย แต่เบื้องต้นมองว่ายังไม่มีเหตุปัจจัยที่จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปจากโรดแมป

ส่วนการตัดสินใจว่าการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปหรือไม่นั้น คงจะมีความชัดเจนหลังจากการประชุมร่วมกันระหว่างแม่น้ำ 5 สายกับตัวแทนพรรคการเมืองตามข้อ 8 ของคำสั่ง คสช.ที่ 53/2561 และคาดว่าวันประชุมจะชัดเจนหลัง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ว ส.ส.มีผลใช้บังคับ แต่หากมีข้อสรุปให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป กกต.เองก็ไม่จำเป็นแสดงความรับผิดชอบเพราะกฎหมายไม่ได้กำหนดเช่นนั้น แต่การเลื่อนก็ต้องมีเหตุผลและก็ต้องชี้แจงให้เข้าใจ

ส่วนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 เปิดทางให้ กกต.ทบทวนการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ให้เสร็จก่อนวันที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะมีผลใช้บังคับ ประธาน กกต.บอกว่า ทาง กกต.กำหนดวันไว้แล้วว่าจะพิจารณาให้เสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย.เพื่อเผื่อเวลาการประกาศในราชกิจจานุเบกษาไว้ด้วย โดยตั้งแต่สัปดาห์หน้า กกต.ก็จะมุ่งมั่นในการประชุมเพื่อให้เสร็จตามแผนงานที่วางไว้ ยืนยันว่าจะพิจารณาการแบ่งเขตให้สอดคล้องตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 27 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ต้องคำนึงถึงจำนวนประชากรต้องมีความใกล้เคียงกันในแต่ละเขต

ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่าการเปิดทางให้ คสช. และรัฐบาลรับเรื่องร้องเรียนแบ่งเขตได้ อาจเป็นการเปิดทางให้ฝ่ายที่มีอำนาจแทรกแซงการแบ่งเขตเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ประธาน กกต.ระบุว่าไม่คิดเช่นนั้น แต่เป็นการเพิ่มช่องทางในการรับเรื่องร้องมากกว่า การแบ่งเขตตามเงื่อนไขในคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 ก็กำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องเป็นไปตามกฎหมายไม่ถือว่าทำให้ คสช.หรือรัฐมาครอบงำและคำสั่งไม่ได้มีผลนิรโทษกรรมให้กับ กกต.ที่ถูกมองว่าแบ่งเขตไม่เสร็จ เพราะจริงๆ กกต.ทำทันตามกรอบเวลาที่คำสั่ง คสช.13/61 กำหนดให้แบ่งเขตเลือกตั้งแล้วเสร็จก่อน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ อีกทั้งแม้ว่าจะแบ่งเขตไม่ทันตามที่กำหนดในระเบียบเนื่องจากระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแบ่งเขตให้ขยายเวลาได้อยู่แล้ว จึงไม่มีเรื่องที่ คสช.ต้องนิรโทษกรรมให้ กกต.แต่ยอมรับว่าอาจมีการหารือเรื่องของการคุ้มครอง กกต.ในเรื่องการปฏิบัติอื่นๆ

สำหรับเงื่อนไขในคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการสังกัดพรรคการเมืองภายใน 90 วัน ว่าสามารถสมัครได้จนกว่าจะปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น ประธาน กกต.บอกว่ายังไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ ที่ผ่านมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับการแบ่งเขตอยู่ แต่ได้ยืนยันต่อที่ประชุมตัวแทนพรรคการเมืองในวันนี้แล้วว่า กกต.จะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนเรื่องที่มีการวิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจนทำให้การแบ่งเขตเลือกตั้งล่าช้าออกไปนั้น ก็เป็นความเห็นของแต่ละปัจเจกบุคคล ไม่ได้น้อยใจ และน้อมรับต่อกระแสวิจารณ์

ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงกรณีรัฐบาลจัดสรรงบเพิ่มสิทธิบัตรคนจนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง อาจเข้าข่ายใช้นโยบายหาเสียงล่วงหน้าว่า เชื่อว่าเป็นเรื่องที่สำนักงาน กกต.จะพิจารณาซึ่งต้องดำเนินการตามอำนาจแล้ว หากรวบรวมข้อมูลแล้วเห็นว่ามีมูลก็จะเสนอ กกต.พิจารณาตั้งคณะกรรมการไต่สวน ซึ่งดำเนินการได้โดยไม่ต้องมีผู้ร้องอย่างไรก็ตามถ้ามีผู้องก็ยิ่งดีซึ่ง สำนักงานจะเป็นผู้พิจารณาส่วนกรณีนี้จะเข้าข่ายเพื่อประโยชน์ให้พรรคการเมืองที่มีรัฐมนตรีในรัฐบาลสังกัดอยู่หรือไม่เห็นว่าตนย้ำแล้วว่าไม่ว่าจะเป็นใครหากดำเนินการเข้าข่ายผิดกฎหมายสำนักงานจะติดตามตรวจสอบอยู่เสมอ แต่ผลบางครั้งที่ออกมาก็ไม่ได้เป็นไปตามที่มีการร้อง คือหลักฐานและข้อมูลไม่เพียงพอที่จะชี้ได้ว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายจึงยุติเรื่องไป แต่ถ้ามีมูลก็เสนอ กกต.ดำเนินการอย่างเข้มข้นโดยตั้งกรรมการสืบเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่แค่แกก็มาฟ้องแล้วก็ให้ตัดสินเลย ถ้าทำแบบนี้จะไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม เนื่องจากหากพบว่ามีความผิดโทษรุนแรง

ส่วนที่เมื่อวันที่ 21 พ.ย. สำนักงาน กกต.มีหนังสือถึงบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ขอให้มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการที่พรรคการเมืองดำเนินการในลักษณะถูกครอบงำชี้นำซึ่งเข้าข่ายอาจถูกยุบพรรคต่อคณะกรรมการตรวจาอบข้อเท็จจริงหลัง กกต.มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น นายอิทธิพรกล่าวว่า เรื่องที่สำนักงานดูแลก็เป็นไปตามกิจวัตรที่สำนักงานจะทำไปจนก็เห็นแต่ข่าวเรื่องยังไม่ถึง กกต.อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของสำนักงานแต่ไม่ว่าใครก็ตามที่เราเห็นว่ามีข้อมูลและเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนก็จะเชิญมาขอข้อมูล
กำลังโหลดความคิดเห็น