“มาร์ค” แถลง กก.บห.ให้โอกาส “ถาวร-วิทยา” ไม่ลงโทษฐานร่วม “สุเทพ” หาสมาชิก รปช. หลังยอมรับทำไม่เหมาะสม พร้อมออกกฎใครทำซ้ำไม่ส่งเลือกตั้ง-ขับออก ย้ำ ปชป.ไม่ฮั้วการเมืองกับใคร รับสภาพมีระเบิดเวลาในพรรค แต่ยังกุมสภาพได้
วันนี้ (21 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคว่า ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงกรณีที่มีสมาชิก 2 คน คือ นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา และนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองอื่น โดยที่ประชุมเข้าใจตรงกันว่าเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว การคบหาสมาคมในหมู่นักการเมืองหรือคนที่เคยร่วมงานเป็นเรื่องปกติ รวมถึงการต้อนรับ กินข้าว กินกาแฟ เล่นกีฬา ไม่มีปัญหา แต่การไปปรากฏตัวระหว่างการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองอื่นก่อให้เกิดความสับสนในหมู่สมาชิกและประชาชน การเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองใดก็พึงทุ่มเทสนับสนุนพรรคการเมืองนั้น การไปอยู่ในกิจกรรมของพรรคการเมืองอื่นที่กระทบต่อการแข่งขันของพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง ทำให้เกิดความสับสนในหมู่สมาชิกและประชาชนทั่วไปว่าจุดยืนแนวทางของพรรคเป็นอย่างไร
ดังนั้น ตนจึงขอให้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้ รวบรวมข้อเท็จจริง จากนั้นตนได้โทรศัพท์คุยกับนายวิทยา และได้พบกับนายถาวร อธิบายให้บุคคลทั้งสองทราบว่าประชาธิปัตย์มีจุดยืนเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีแนวความคิดที่จะไปฮั้วกับพรรคการเมืองใด เพราะฉะนั้น การกระทำที่จะทำให้เกิดความสับสน ไขวเขว้ ไม่พึงกระทำ ทั้งสองท่านยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ และไม่ระมัดระวังอย่างที่ควรจะเป็น กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์จึงเห็นว่าควรยุติเรื่องนี้ เพราะทั้งคู่ยอมรับจุดยืนรวมถึงหน้าที่พื้นฐานในฐานะสมาชิกพรรคแล้ว โดยกรรมการบริหารพรรคมีมติเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคตว่ากรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปกระทำการใดๆ ที่ไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่น กระทบกับการแข่งขันของพรรคประชาธิปัตย์ ในอนาคตจะดำเนินการลงโทษตามข้อบังคับพรรค
“อย่างน้อยที่สุดถ้าอยู่ในข่ายลงสมัครรับเลือกตั้งจะไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ถ้าร้ายแรงก็ขับออกจากสมาชิกพรรค เป็นสิ่งที่สมาชิกพรรคต้องยึดถือต่อไป”
ส่วนกรณีของนายถาวร และนายวิทยา เมื่อยอมรับแล้วว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมก็ยังอยู่ในข่ายที่จะส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะทั้งคู่ไม่ได้โต้แย้งใดๆ ต่อจุดยืนของพรรคในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม บุคคลทั้งสองไม่ได้กล่าวขอโทษกับปัญหาที่เกิดขึ้น ตนเห็นว่าการขอโทษเป็นวิจารณญาณของแต่ละคนที่ไม่สามารถไปบังคับได้
นายอภิสิทธิ์ยืนยันด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับผลกระทบจากการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค แต่ยอมรับว่ายังมีผลข้างเคียงจากการกระทบกระทั่งกันระหว่างการหยั่งเสียง หากมีระเบิดเวลาในพรรคก็เชื่อว่าแก้ไขได้ และมั่นใจว่าในฐานะหัวหน้าพรรคยังสามารถกุมสภาพในพรรคได้
ส่วนกรณี ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม ยื่นเรื่องร้องเรียนถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ว่ามีการทุจริตหยั่งเสียงในพื้นที่บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้น เรื่องดังกล่าวมีการหารือกันแล้วในส่วนของ กกต.พรรคและผู้สมัครทั้งสามคน พร้อมกับชี้แจงถึงการตัดคะแนนจำนวน 32,462 ที่ผู้กองปูเค็มติดใจออกไปว่าเป็นเพราะพบว่ามีการลงคะแนนจากเลขบัตรประชาชนเบอร์เดียวซ้ำกันหลายครั้ง และในการลงคะแนนผ่านแอปพลิเคชัน ต้องถ่ายรูปผู้ใช้สิทธิถือบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน แต่กลับพบว่ามีการถ่ายรูปจาน ชาม ครัว สวน มะนาว เป็นต้น จึงต้องตัดออกโดยทุกอย่างเป็นข้อตกลงของผู้สมัครล่วงหน้า
