“มาดามเดียร์” อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดยู 23 เดินทางเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมอดีต ผอ.นิด้าโพล โดยมี “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรคให้การต้อนรับ พร้อมเผยตัดสินใจเข้าสู่การเมืองเพราะต้องการลงมือสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง และผู้ใหญ่ในพรรคไม่ได้มาจากนักการเมือง แต่มีผลงานหลายๆ ด้านที่ชัดเจน
เช้าวันนี้ (16 พ.ย.) นางวทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี (แชมป์ซีเกมส์ 2017) และ ผศ.ดร.ณพงศ์ นพเกตุ อดีต ผอ.นิด้าโพล ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พปชร.ให้การต้อนรับและสวมเสื้อให้
สำหรับนางวทันยา วงษ์โอภาสี ปัจจุบันอายุ 33 ปี เคยได้ฉายานางฟ้าแห่งวงการกีฬา จากผลงานการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษและวรรณคดีภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเข้าสู่วงการโบรกเกอร์ 2 ปี ก่อนจะมีโอกาสทำงานด้านมีเดีย ผลิตรายการโทรทัศน์ที่ได้รับสัมปทานเวลาจากช่อง 5 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน)
ในปี 2559 “มาดามเดียร์” ได้รับการทาบทามจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี โดยงานหลักคือด้านการบริหาร และประสบความสำเร็จด้วยการพาทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี คว้าแชมป์ฟุตบอล 4 เส้า เนชั่นส์ คัพ ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี 2559 คว้าแชมป์ดูไบคัพ และป้องกันแชมป์ซีเกมส์ ปี 2017 ที่ประเทศมาเลเซียไว้ได้
ทั้งนี้ น.ส.วทันยา ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า เหตุผลที่ตัดสินใจร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะผู้ใหญ่หลายท่านได้ให้มุมมองว่า ที่ผ่านมาเราทำงานในฐานะสื่อเป็นแค่คนนั่งมอง เป็นฝ่ายตั้งคำถาม ทำไมไม่คิดจะลงมือด้วยตัวเอง จึงรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงจริงๆ อยู่ที่ตัวเราต้องลงมือทำด้วยตัวเอง และที่สำคัญคือผู้ใหญ่ในพรรคทั้งนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ เลขาธิการพรรค ไม่ได้มาจากนักการเมือง ซึ่งตนได้เห็นและชื่นชมผลงานหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอีอีซี ที่ถือเป็นโครงการใหญ่ของประเทศไทยในรอบ 30 ปี
ส่วนจะลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยหรือไม่นั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า ขอหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคก่อน ต้องดูว่าเราเหมาะสมที่จะช่วยงานจุดไหนได้บ้าง และเมื่อเข้ามาการเมืองแล้ว ก็ต้องทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ว่าจะลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต หรือปาร์ตี้ลิสต์ ก็ต้องลาออกและยุติจากการทำงานด้านสื่อ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทั้งบทบาททางการเมืองและบทบาทสื่อ และเชื่อว่านักข่าวทุกคน กองบรรณาธิการ มีความอิสระ เป็นมืออาชีพ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยไปแทรกแซงหรือครอบงำกองบรรณาธิการ