“มาร์ค” คุม ปชป.เบ็ดเสร็จ “วรงค์” ขอโทษหากล้ำเส้น ขอให้ฟังเสียงอยากเปลี่ยนแปลง

“อภิสิทธิ์” นั่ง หน.ปชป.อีกสมัย รวบยึดรองฯยกแผง “วรงค์” ถอนตัวขอโทษหากล้ำเส้น ชู ปชป.ดีที่สุด เชื่อชนะเลือกตั้ง แต่ต้องฟังสมาชิกอยากเปลี่ยนแปลง “อลงกรณ์” ยันอยู่ ปชป.จนตาย “ไตรรงค์” ชี้ ผลหยั่งเสียงสะท้อน ปชป.ชนะด้วย ย้ำกอดกันเป็นหนึ่งเดียว

วันนี้ (11 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ได้มีการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2561 เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ จำนวน 41 คน ตามข้อบังคับพรรคใหม่ พร้อมกับเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 11 คน โดยมีองค์ประชุมจำนวน 304 คน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก รวมถึง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค หมายเลข 2 พร้อมด้วย อดีต ส.ส.ในทีมเพื่อนหมอวรงค์ และ นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค หมายเลข 3 มาร่วมประชุมด้วยเช่นกัน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค เป็นประธานที่ประชุมได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบผลการหยั่งเสียงลงคะแนนเลือกตั้งหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคหมายเลข 1 เป็นผู้ได้รับคะแนนสูงสุด และได้ตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งของพรรค 5 คน มาดูแลการเลือกตั้งในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่การลงคะแนนเลือกตั้งในแต่ละตำแหน่งนั้น ปชป.ได้นำเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาใช้ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พรรคใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาดำเนินการ

เมื่อเริ่มลงคะแนนตำแหน่งหัวหน้าพรรค นายอลงกรณ์ ได้เสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ ขณะที่ นายสงกรานต์ ตั้งจิตติสุทธิภากร อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรค ปชป. เสนอชื่อ นพ.วรงค์ แต่ นพ.วรงค์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า วันนี้ตนใส่เสื้อที่ไม่เหมือนใคร แต่ที่หน้าอกเสื้อของตนมีลายเซ็นของคนที่ชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เพื่อมาแสดงความยินดีกับนายอภิสิทธิ์ และคะแนน 67,505 คะแนน ที่สมาชิกเลือกมา จะถูกบันทึกว่านายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรค ปชป.คนแรกที่มาจากประชาชน ตนเชื่อว่า หัวหน้าพรรคจะนำพรรคของเราไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้ พร้อมขอขอบคุณจากหัวใจที่มาสมาชิกเลือกตน 57,689 คะแนน แม้จะไม่สูงเพียงพอ แต่มีน้ำหนักพอที่หัวหน้าพรรคใหม่จะพิจารณา เพราะนั่นคือเสียงของสมาชิกอีกส่วนหนึ่งที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของพรรค

นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า ในช่วงการหาเสียง 1 เดือนที่ผ่านมา พวกเราต่อสู้กันอย่างเต็มที่ บางอย่างที่ตนทำไปอาจทำให้ไม่สบายใจหรือล้ำเส้นไปบ้าง ต้องขอโทษจากใจ รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่บางท่านที่ตนแข่งขันกับท่าน ก็ต้องขอโทษอีกครั้ง และตลอดเวลา 1 เดือนเศษนี้ ได้พิสูจน์หัวใจของทุกคน ซึ่งหลายคนขึ้นมาบนขบวนรถไฟแล้วคิดจะลงกลางทาง แต่เขาก็ไม่ลง ยังอยู่ร่วมขบวนด้วยกันมาตลอด ดังนั้นตนขอฝากหัวหน้าพรรคคนใหม่ด้วย เพราะทุกคนมีพละกำลัง

“พรรค ปชป.คือ บ้านของพวกเรา มีประตูบานใหญ่ 4 บาน ผมอยากพูดกับพวกเราทุกคนว่าวันนี้ภูมิใจในพรรค ถือว่าพรรค ปชป.เป็นพรรคที่ดีที่สุดในประเทศนี้ คนที่ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนทั่วประเทศ พวกเราต้องเคารพมติมหาชน ผมเคารพ และต้องเป็นบรรทัดฐานอย่างนี้ต่อไปในอนาคต ผมจึงขอถอนตัวจากการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค” นพ.วรงค์ กล่าว

ต่อมา นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองหัวหน้าพรรค ในฐานะ กกต.พรรค กล่าวว่า เราจะเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการสร้างมาตรฐานของการเมืองไทย และพรรคจะต้องเป็นอย่างนี้ไปตลอด เราต้องรักษาความเป็นปชป. ไม่ใช่ทำตามวิธีของพรรคอื่น ไม่ใช่พรรคอื่นทำมิชอบ โกงคะแนนบ้าง ซื้อสิทธิขายเสียงบ้าง แล้วเราต้องทำตามเขา แต่พรรค ปชป.ต้องเป็นมาตรฐาน มิฉะนั้น ถ้าไปทำตามเขา ก็ไม่ต้องมีพรรคประชาธิปัตย์อีกต่อไป การหยั่งเสียงเมื่อจบแล้ว เราต้องรักกันกอดกันรวมเป็นหนึ่งเดียว อย่างนี้ถือว่าพรรค ปชป.ชนะ ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ชนะเท่านั้น

ขณะที่ นายชาลี เจริญสุข สมาชิกพรรค เสนอชื่อ นายอลงกรณ์ แต่นายอลงกรณ์แจ้งขอถอนตัวเช่นกัน พร้อมกล่าวว่า ตนจากพรรค ปชป.ไป 4 ปี การกลับมาครั้งนี้ มีวิบากกรรมมากจริงๆ ตนเคยประกาศที่จ.เพชรบุรี ว่า ตนเกิดที่พรรคนี้ ตายที่พรรคนี้ เพราะกว่าจะได้เป็น ส.ส.เพชรบุรี ก็มีวิบากกรรมเยอะ แต่ในที่สุดก็ปักธงได้ สามารถครองที่นั่งได้ทุกที่นั่งในเพชรบุรี แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์และกรรมการบริหารพรรค ริเริ่มระบบไพรมารีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการเมือง และ 72 ปีของพรรค ตนจึงกลับมาเพื่อสนับสนุนจุดเปลี่ยนแปลงของพรรค เพราะตนเชื่อว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศ เพราะมีแต่พรรค ปชป.เท่านั้นที่จะสร้างประชาธิปไตยได้อย่างแท้จริง

ต่อมาที่ประชุมให้สมาชิกเข้าคูหาเพื่อลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรค โดยมีผู้ใช้สิทธิ 259 คน นายอภิสิทธิ์ได้รับเสียงสนับสนุน 96.77 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ประกอบด้วย รองหัวหน้าพรรค ภาคเหนือ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคภาคกลาง นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค กทม. นายสรรเสริญ สมะลาภา

ส่วนรองหัวหน้าพรรคอีก 8 คน ตามภารกิจพรรค ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, นายนิพนธ์ บุญญามณี, นายอิสสระ สมชัย, นายกรณ์ จาติกวณิช, นายชินวรณ์ บุญเกียรติ, นายพนิช วิกิตเศรษฐ์, นายอลงกรณ์ พลบุตร และ นายอัศวิน วิภูศิริ ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรค คือ นายจุติ ไกรฤกษ์