รบ.ลุยพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังควบคู่ท่าเรือบก มุ่งเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ภูมิภาค

“พุทธิพงษ์” เผย รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังควบคู่ท่าเรือบก ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค นายกฯชูเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ ส่งผลให้ ปชช.อยู่ดีกินดี

วันนี้ (11พ.ย.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 เพื่อให้สามารถรองรับตู้สินค้าจากเดิม 7.67 ล้านตู้/ปี เป็น 18 ล้านตู้/ปี พร้อมกับพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เพื่อลดปัญหาการจราจรโดยรอบ และเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางเข้าสู่ท่าเรือจากปัจจุบันร้อยละ 5.5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30

สำหรับการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังมีเป้าหมายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค หรือกลุ่มประเทศ CLMV ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และกำหนดแนวทางการพัฒนาพื้นที่ที่เหมาะสมเป็นท่าเรือบก โดยใช้ระบบขนส่งทางรางเป็นโครงข่ายหลักในการขนส่ง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลของกระทรวงคมนาคม และการรับฟังความคิดเห็นของภาคส่วนต่างๆ พบว่า พื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการพัฒนาเป็นท่าเรือบก คือ จ.ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา ขอนแก่น และ นครสวรรค์ รวมทั้งพื้นที่ชายแดนที่ควรพัฒนาเป็นจุดรวบรวมและกระจายสินค้า คือ จ.หนองคาย มุกดาหาร เชียงราย ตาก สระแก้ว และ สงขลา โดยเชื่อมโยงกันด้วยระบบโครงข่ายคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าและทันสมัย ทั้งการขนส่งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ เกิดความสะดวกและรวดเร็ว ช่วยดึงดูดความสนใจของนักลงทุน ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดีมากขึ้นต่อไป