“ประวิตร” เปิดการศึกษาหลักสูตร วปอ.รุ่น 61 ระดับบิ๊กทหารพลเรือนพรึบ พร้อมฝากช่วยงานรัฐบาลโดยเฉพาะดูแลค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อย ได้ยินเสียงบ่นเศรษฐกิจไม่ดี “เสี่ยหนู” ภูมิใจไทยก็มาร่วมเปิดเทอมแต่นั่งหลังห้อง “ก๊วนนกหัวขวาน”
วันนี้ (8 พ.ย.) ที่วิทยาลัยป้องกันราอาณาจักร (วปอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 26 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ โดยมีนายทหารและนักการเมืองที่เข้ารับการศึกษาหลักสูตรดังกล่าว เช่น พล.ต.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ปิยพงษ์ กลิ่นพันธ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ร.2 รอ.) และทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกรรมการบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด
โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวเปิดหลักสูตรตอนหนึ่งว่า นับเป็นความภาคภูมิใจและได้รับเกียรติอย่างสูงสุดที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาศึกษา โดยทำการคัดเลือกผู้บริหารระดับสูงที่มีความเหมาะสม มีวุฒิภาวะ ตั้งแต่ข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหารพนักงานองค์กรรัฐ รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งนักการเมืองที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์มาศึกษาร่วมกันเพื่อความมั่นคงของประเทศในอนาคต เมื่อเข้ามาแล้วก็ขอให้ตั้งใจรับการศึกษาทั้งในห้องเรียน และการดูงานในต่างประเทศต้องสรุปรายงานผลให้ทราบ รวมถึงการทำเอกสารวิจัยของบุคคลว่าจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่จะนำไปต่อยอดในการแก้ไขปัญหา การพัฒนาประเทศต่อไปเมื่อสำเร็จการศึกษาขอให้ทุกท่านได้ใช้เครือข่ายในการรักษาความมั่นคงร่วมกันสร้างระบบสถาบันให้แข็งแกร่ง ทั้งภาครัฐภาคเอกชนให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างมั่น คุณและเศรษฐกิจมั่นคงประชาชนมีความสุขโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติมากกว่าส่วนตน
พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า การเข้ารับการศึกษาหลักสูตรนี้เป็นความสมัครใจ มีทั้งส่งมาจากหน่วยงาน นอกนั้นก็วิ่งเต้นด้วยกันทั้งนั้นเพราะอยากเข้ามา เมื่อเข้ามาได้ก็ต้องเข้าห้องเรียนด้วย ไม่ใช่เป็นนักศึกษานอกห้อง เมื่อไปฝึกอบรมกันมาแล้วก็ต้องรู้จักและเข้าใจกันดีขึ้น ดังนั้นต้องตั้งใจศึกษา โดยหลักสูตรนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการรายงานและการดูงานของแต่ละบุคคล เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองไปดูได้ประโยชน์อะไรจากประเทศ และเรามีความคิดเห็นอย่างไรที่จะเสนอแนะให้องค์กรหน่วยงานของเราเพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์ต่อไป ดังนั้นไปดูงานก็ขอให้ไปดูงานจริงๆ ไม่ใช่ไปเที่ยว ไปแล้วสังเกตดูว่ามีอะไรที่จะทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าเนื่องจากทุกคนมีประสบการณ์ มีความสามารถ และประสิทธิภาพในการทำงานจากอดีตมากมาย อยากให้ใช้ตรงนี้ได้ช่วยให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า ความต้องการของนายกรัฐมนตรีคือต้องการให้ประเทศไทยเป็น 4.0 ดังนั้นเรามีความคิดเห็นอย่างไรที่จะนำไปสู่ประเทศไทยเป็น 4.0 ให้ได้
“เมื่อเวลาไปดูงานแล้วก็ตั้งใจดูงาน จะเที่ยวได้บ้าง แต่ต้องดูว่าเราได้ประโยชน์อะไรจากการไปดูงาน ทั้งเรื่องลอจิสติกส์ ความมั่นคง โครงสร้างพื้นฐาน รถไฟ ไปดูว่าความเปลี่ยนแปลงของต่างประเทศมีความเจริญก้าวหน้าไป และที่เราดำเนินการอยู่ขณะนี้ถูกต้องหรือไม่ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของนายกรัฐมนตรี มีอะไรที่จะต้องพัฒนาให้ดีขึ้นหรือปรับปรุงยุทธศาสตร์นี้อย่างไร ยืนยันว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แก้ไขได้แม้จะมีการออกเป็นกฎหมาย เมื่อเราใช้ไป 5 ปีแล้ว เราก็สามารถแก้ไขได้เพื่อให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้า ให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยอยู่ได้” พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่าขณะนี้รัฐบาลก็พยายามดูแลผู้มีรายได้น้อย ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณให้แก่ผู้ที่มีรายได้น้อยในทุกสาขาอาชีพ ทั้งบัตรผู้มีรายได้น้อยหรือบัตรสวัสดิการภาครัฐ จำนวน 10 กว่าล้านคน เกษตรกรก็มีในเรื่องค่าเกี่ยวข้าวและเก็บรักษาข้าว รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เราก็พยายามทำให้เขามีรายได้อยู่ได้ เพิ่มเงินให้จาก 600 บาท เป็น 1,000 บาท เพื่อช่วยเหลือคนยากจนต่อไปได้ รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่มีรายได้น้อยมีรายได้ที่พอกิน อยู่ได้อย่างมีความสุข อยากจะฝากนักศึกษาด้านความมั่นคงได้ช่วยหาอะไรที่รัฐบาลต้องทำให้เกิดความมั่นคงของรัฐ
“เนื่องจากรัฐบาลอยู่มา 4 ปีกว่าก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนมีรายได้ที่สามารถอยู่ได้ แต่ก็ได้ถูกบ่นตลอดเวลาว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ในขณะที่ตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจขยับขึ้นต่อเนื่อง จึงไม่รู้ว่าทำไมสวนทางกันอย่างไร ดังนั้นต้องไปดูที่ว่ามีรายได้น้อยไม่พอกินเกิดจากอะไร เกิดจากการทำงานของรัฐบาลที่ไม่ถูกต้องหรือเปล่า อยากจะฝากไว้ให้ทุกท่านได้ดูว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความมั่นคงตรงนี้ ไม่ใช่มาแค่เข้ามารู้จักแล้วก็แยกกันไป หลักสูตรนี้ช่วยรัฐโดยตรงในทุกๆ เรื่อง” พล.อ.ประวิตรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายอนุทินได้เดินทางมาร่วมพิธีเปิดหลักสูตรในวันนี้ด้วยโดยนั่งอยู่ที่นั่งแถวหลังห้องประชุม และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ บอกเพียงว่าเข้ารับการศึกษามาประมาณ 1 เดือนแล้ว อยู่กลุ่มทำกิจกรรมชื่อว่ากลุ่มนกหัวขวาน ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นยืนยันว่านายอนุทินเข้าเรียนตามตารางเวลาไม่ได้โดดเรียนอย่างที่มีการกล่าวโจมตี มีบางครั้งที่ติดธุระก็จะมีการลาตามขั้นตอน