“ประยุทธ์” แนะสร้างหลักคิดใหม่ให้คนไทย ยันกม.ออกมาเพื่อแก้ปัญหา ชี้หากอยากเหมือนต่างประเทศต้องสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน บอกไทยมีครบทุกรส บริหารจนสมองเสีย ลั่นไม่ใช่ ปธ.อาเซียน “เป็นใครไม่รู้ ไม่ใช่ผม”
วันนี้ (5 พ.ย.) เวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างพบปะนักวิจัยด้าน Bio - Circular - Green (BCG) Economy เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมรับมอบสมุดปกขาว BCG in Action : การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว โดยระบุว่า วันนี้ถ้าเราอยากได้อะไรจากต่างประเทศ ก็ต้องคิดใหม่ทำใหม่ อย่าลืมว่าประวัติศาสตร์คืออดีต ปัจจุบันคือวันนี้ ทุกคนจะต้องเรียนรู้ ไม่ใช่อะไรก็ไม่เอาจะทำใหม่ทั้งหมด ต้องถามว่าสิ่งที่นำมาจากต่างประเทศทำได้ทุกอย่างในประเทศไทยหรือ ประเทศไทยไม่เหมือนที่อื่น เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้อะไรบางอย่างก็ต้องเสียสละ ไม่มีใครได้อะไรทั้งหมด ต้องได้บ้างเสียบ้าง แต่ประโยชน์จะกลับมาสู่ประเทศ แต่ถ้าเห็นแก่ส่วนตัวเราจะทำอย่างไร เพราะมันทำให้เกิดความแตกแยกไปหมดถ้าความคิดต่างกัน วันนี้เราต้องสร้างหลักคิดใหม่ให้คนไทย คิดใหม่ทำใหม่ ก็หวังอย่างยิ่งว่านักวิชาการจะช่วยตน โดยเฉพาะในสถาบันการศึกษาต้องช่วยพูดกับคนรุ่นใหม่ ทำของใหม่แต่ไม่จำเป็นต้องเลิกของเก่า ในการจะทำอะไรต้องมีจุดประสงค์และเป้าหมายว่าจะทำอะไรเพื่อใคร และจะทำอย่างไรในช่วง 1 ปี ในการใช้งบประมาณต่างๆ ต้องแยกแยะเป็นกลุ่มยุทธศาสตร์ ไม่ใช่เอาเงินมาหนึ่งก้อนแล้วนายกฯ จะใช้อะไรก็ได้ มันไม่ใช่ หลายอย่างก็ถูกมองว่าถูกควบคุมมากเกินไป กฎหมายที่ออกมาก็เพื่อแก้ปัญหาเดิม ความจริงกฎหมายเดิมน่าจะเพียงพอ เพียงแค่ปรับปรุงให้ทันสมัย แต่ปัจจุบันมีการออกกฎหมายใหม่มา และตนก็กำชับว่าต้องไม่สร้างภาระให้ประชาชน ยกตัวอย่างการนั่งท้ายกระบะรถปิกอัพ กฎหมายมีออกมาแล้วหรือยัง ถ้ามีแล้วพอ ถึงการปฏิบัติก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อีก แต่เวลาตายก็ไม่มีใครมาร้องตน เพราะตายไปแล้ว แล้วก็บอกว่ารู้อย่างนี้เชื่อนายกฯ ดีกว่าไม่นั่งท้ายกระบะ นี่คือปัญหาของประเทศไทย ต่างประเทศง่ายกว่าเราเยอะ แต่ของเราอุปสรรคมีมาก การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ฝากให้ไปช่วยคิดว่าเราจะแก้ปัญหาการจราจรวันนี้ได้อย่างไร การเชื่อมต่อระบบมวลชน ไฟเขียวไฟแดงจะทำอย่างไร เมื่อตำรวจจราจรไปยืนตามจุดรถไม่ควรจะติด แต่กลายเป็นว่าวันนี้ประชาชนไม่ต้องการตำรวจจราจร เพราะยิ่งไปยืนรถยิ่งติด มีการร้องมาถึงตนว่าอย่าให้ตำรวจจราจรไปยืน อย่างน้อยเขาทนได้ถ้ารถติดตามปกติ แต่ไม่ใช่ติดนานกว่าเดิมเพราะตำรวจจราจร ต่างคนก็อยากไปส่งลูก ต้องไปช่วยกันคิดว่าไฟจรจรอัตโนมัติที่ต่างประเทศมีเขาทำอย่างไร แต่ตนก็ไม่ไหวมันแพง ถ้าเราช่วยกันคิดก็น่าจะแก้ไขได้ ตำรวจไม่ต้องไปยืนให้นั่งอยู่ในป้อมเฉยๆ เวลาเกิดรถชนแล้วค่อยออกมา ถ้าทุกคนเคารพกฎจราจรแม้รถจะติดก็ยอมรับกันได้ ไม่ใช่ขับรถป่ายซ้ายป่ายขวาขึ้นไปวิ่งบนฟุตปาธ ย้อนศรก็มี เผลอๆ ก็ชักปืนออกมายิงกัน ประเทศไทยครบทุกรส ต้องแก้ปัญหาทั้งหมด เรื่องกล้องซีซีทีวีเสีย การบริหารถนน แหล่งน้ำ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ทุกคนต้องช่วยกันในการแก้ไขปัญหา อย่างเรื่องการเสียภาษีต่างๆ ไม่ใช่พอรัฐบาลเสนอแนะอะไรออกมาก็ต่อต้าน หรือมองว่ารัฐบาลตูดขาด ยืนยันว่าไม่มีตูดขาด เงินในกองทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก เราไม่ได้นำมาใช้เลย มีมูลค่ามากกว่าหนี้สาธารณะระยะสั้น 3.5 เท่า เรียกว่ามีฐานะมั่นคงแข็งแกร่ง คนที่ออกมาพูดว่าเรามีคนจนมากขึ้นทุกปีนั้นโกหกทั้งสิ้น ยืนยันว่าคนจนไม่ได้มากขึ้น แต่สาเหตุมาจากปีแรกให้ขึ้นทะเบียนคนจนก็ไม่ยอมขึ้น เนื่องจากต้องการรักษาความลับส่วนตัว กลัวถูกหาว่าจน แต่พอมีเรื่องเงินเข้ามาก็เพิ่มขึ้นทุกปี จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ถ้ารัฐบาลเปิดโครงการอีกก็มีเข้ามาอีกก็ต้องตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ เช่นเดียวกับเอสเอ็มอีก็ไม่ยอมขึ้นทะเบียนเพราะกลัวเสียภาษี แล้วอยากเป็นอย่างต่างประเทศ ขอให้ไปช่วยกันวิจัยด้วย และขอให้กระทรวงสาธารณสุขไปวิจัยกระบวนการเคมีทางสมอง แก้ให้ตนด้วยสมองตนก็เสีย สับสนอลหม่านไปหมด และขอให้ช่วยไปวิจัยเรื่องยาสูบด้วย ซึ่งในส่วนของกัญชานั้นตนกำลังให้ดำเนินการปลดล็อกใน 3-4 อย่างที่ให้ทำได้ในระยะแรก แต่ไม่เอา บอกว่าไม่ได้ปลดล็อกจริงๆ มันต้องมากกว่านี้ มันต้องเป็นแบบแคนาดาใช้สันทนาการได้ ทำไมไม่ไปทีละขั้นแล้วจะควบคุมได้อย่างไร นี่คืออันตรายของยาเสพติด ขณะที่การปลูกปาล์มน้ำมันก็มีปัญหามีการบุกรุก แม้กระทั่งการนำไปใช้ด้านพลังงาน กลุ่มผู้นำโลกรวมตัวกันเข้มแข็ง ทั้งนี้ในการประชุมอาเซียนปีหน้าไม่ใช่ตนเป็นใครก็ไม่รู้ ตนก็บอกว่าประธานอาเซียนมันต้องแข็งแรงไหม ไม่ใช่ประเทศใครประเทศมัน ทวิภาคีกันอยู่นี่ อะไรที่เจรจากับกลุ่มอาเซียนทั้งหมดได้ไหม เพื่อใช้สิทธิในการแก้ไขปัญหาจีเอสพีที่มีปัญหาร่วมกัน