“ไทยศรีวิไลย์” ยื่นหนังสือต่อ กกต.ตรวจสอบการจดแจ้งชื่อพรรคพลังประชารัฐ ระบุชื่อเหมือนโครงการรัฐบาลประยุทธ์ หวั่นได้เปรียบพรรคอื่น-ประชาชนสำคัญผิด
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมคณะฯ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้ตรวจสอบการจดแจ้งชื่อพรรคพลังประชารัฐ ว่าสามารถจดได้หรือไม่ ถูกต้องตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ โดยมีนายสมเกียรติ คงดี ผอ.สำนักกิจการ กกต.เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว
นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ตามที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กับพวกมายื่นจดแจ้งชื่อพรรคพลังประชารัฐนั้น ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) ได้รับร้องเรียนจากพรรคการเมืองต่างๆ ประชาชนนั้น ซึ่ง ภตช.เป็นองค์กรภาคประชาชน มีนโยบายปราบโกงหรือปราบทุจริตทุกรูปแบบ และสร้างความเป็นธรรมให้แก่สังคม พรรคการเมือง ประชาชน ประเทศชาติ อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายปราบปรามการทุจริตอย่างถึงที่สุด ชัดเจนกรณีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันจำนวน 4 คน ประกอบไปด้วย นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ไปขอจดแจ้งจัดตั้งพรรคการเมืองชื่อ “พรรคพลังประชารัฐ” ว่าสามารถจดแจ้งเป็นชื่อพรรคการเมืองได้ตามกฎหมายและประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้หรือไม่ เพราะคำว่า “ประชารัฐ” เป็นนโยบายและชื่อโครงการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีทั้ง 4 คน ดำรงตำแหน่งอยู่ ณ ปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณแผ่นดิน ในปี 2559-2562 ไปยังกระทรวง กรมต่างๆ ใช้ชื่อประชารัฐแนบท้ายโครงการ เช่น ธงฟ้าประชารัฐ,โครงการบ้านประชารัฐ, โรงเรียนประชารัฐ, เน็ตประชารัฐฯลฯ
นายมงคลกิตติ์กล่าวต่อว่า หากคณะกรรมการการเลือกตั้งอนุมัติให้จดแจ้งชื่อพรรคพลังประชารัฐ อาจจะก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบต่อพรรคการเมืองอื่นๆ หรือต่อประชาชนที่สำคัญผิด หลงผิด ในผลงานของพรรคการเมืองนั้น และจะทำให้การเลือกตั้งดำเนินไปสมเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ อาจจะขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 10 (3) วรรค 1 ต้องไม่มีลักษณะตามมาตรา 14 (2), (3), (4) หรือไม่
“ภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) ทราบว่า กกต.ชุดนี้ยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มาตรา 23, 41, 69 จึงเรียนมาเพื่อขอให้ตรวจสอบการจดแจ้งชื่อพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากอาจจะไปซ้ำซ้อนกับชื่อโครงการและนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าสามารถจดชื่อพรรคดังกล่าวได้หรือไม่ จะเป็นธรรมต่อประชาชนหรือไม่ เพราะจะทำให้ประชาชนสำคัญผิดหรือไม่” นายมงคลกิตติ์กล่าว