ข่าวปนคน คนปนข่าว
**สมาร์ทแอนด์สตรอง!! สุ้มเสียง “บิ๊กแดง”ที่ “นักการเมือง-นักเลือกตั้ง”ฟังแล้วต้องสะพรึง กับจุดยืนกองทัพวางตัวเป็นกลาง ทำงานเกินร้อยไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล เทิดทูน “ในหลวง ร.๑๐”คือ “องค์จอมทัพไทย”พร้อมจะปกป้องพิทักษ์ “สถาบัน”ด้วยทุกสิ่ง ย้ำทหารไม่อยากทำรัฐประหาร เตือนสติ “การเมือง”อย่าเป็นสาเหตุความขัดแย้ง-ต้นเหตุการจลาจลอีก
ไม่ต้องตีความอะไรมาก .. กับจุดยืนที่ “เข้มแข็ง-หนักแน่น”ของ “บิ๊กแดง”พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ที่แถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะ “ผู้บัญชาการทหารบก” ..ทั้งการให้นโยบายต่อ “กำลังพล”ที่ต้องแยกแยะให้ออก ระหว่าง“ทหาร-การเมือง”ด้วยรู้ว่าต้องถูกจับจ้องมองไม่วางตา .. รวมไปถึงบทบาทของกองทัพในการปกป้องประเทศ-เคียงข้างประชาชน โดยต้องพิสูจน์ด้วยว่า เป็นการช่วยด้วยใจ ไม่ใช่หาเสียง อย่างที่บางฝ่ายกระแนะกระแหนมาตลอด .. ไฮไลต์สำคัญของการแถลงข่าวครั้งนี้อยู่ที่ 2 เรื่อง หนึ่งคือ จุดยืนการปกป้องสถาบัน .. ที่ “ผบ.แดง”พูดเสียงดังฟังชัด “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์จอมทัพไทย กองทัพบกถือเป็นข้ารองบาท มีหน้าที่และหัวใจปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง และเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยกองทัพบกจะใช้ศักยภาพและขีดความสามารถทุกอย่างในการปกป้องสถาบัน”..
รวมไปถึงวรรคทองที่เสมือนพูดแทนใจไทยทั้งชาติที่ว่า“องค์พระมหากษัตริย์ ต้องอยู่คู่ฟ้าคู่แผ่นดินไทยไปตลอด”..พร้อมฝากไปถึง “แก๊งหมิ่นสถาบัน”ด้วยว่า ส่วนใหญ่จิตไม่ปกติ ก็อยู่ในประเทศไม่ได้ .. ส่วนอีกไฮไลต์ อยู่ที่เรื่อง “ปฏิวัติรัฐประหาร”ที่ได้ย้อนถึงเหตุการณ์รัฐประหาร 2557 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจ .. ประมาณว่า ทหารไม่เคยคิดที่จะรัฐประหาร แต่สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต “ถ้าวันนั้นพล.อ.ประยุทธ์ไม่ตัดสินใจ บ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้น” ..ส่วนอนาคตหากเกิดวิกฤตอีก กองทัพจะรัฐประหารอีกหรือไม่นั้น “บิ๊กแดง”บอกแค่ว่า “ผมหวังใจอย่างยิ่งว่าการเมือง อย่าเป็นสาเหตุ ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติอีก .. ถ้าการเมือง ไม่เป็นต้นเหตุการจลาจล ถ้ามันไม่เกิด มันก็ไม่มีอะไร” ..ถือเป็นสุ้มเสียงที่ “นักการเมือง-นักเลือกตั้ง”ฟังแล้วต้องสะพรึง
**เสียงดังพอไหม!! มติเอกฉันท์ 12 องค์กรวิชาชีพค้าน“ทอท.”แก้มาสเตอร์แพลน “สุวรรณภูมิ”ที่ “ICAO”ไม่เคยรับรอง เตรียมยื่นครม.ออกมาตรการเร่งด่วน หรือ งัด “ม.44”แก้ปัญหา แต่ “เสี่ยด้วง”ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม จดจ่ออยู่กับ “ค่าแบบ 330 ล้าน”หวังเซ็นสัญญาเร็วๆ แทงสวนเพื่อนร่วมวงการ อวยทอท.โปร่งใส-ชัดเจน แก้แผนแม่บท
มีปัญหาต้องคุยกัน .. “เวทีสาธารณะ”ในหัวข้อ "กะเทาะเปลือกสนามบินสุวรรณภูมิ" ที่ “สมาคมสถาปนิกสยามฯ”จัดขึ้น .. เพื่อคลี่คลายปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงผังแม่บทสนามบินสุวรรณภูมิ ของ“ทอท.”บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) .. เท่าที่ติดตามข่าวรู้สึกได้ว่า มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่อนข้างสร้างสรรค์ ทั้งในส่วนของ“ฝ่ายคัดค้าน” ..อันประกอบด้วย 12 องค์กร ที่มาจากแวดวงวิชาชีพที่เกี่ยวข้องและสถาบันการศึกษา .. อาทิ สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย-สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย-สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย-สมาคมนักผังเมืองไทย-องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน-สภาวิศวกร เป็นต้น .. มีการเปิดโอกาสให้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการก่อสร้างเทอร์มินอล 2 ว่าคุ้มค่า-เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ จริงหรือไม่ ในแง่มุมต่างๆ อย่างกว้างขวาง .. ขณะที่ “เจ้าของเรื่อง”อย่าง ทอท. ส่งมวยหลักอย่าง เอนก ธีระวิวัฒน์ชัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง มาเป็นผู้ชี้แจง .. ตลอดการอภิปรายที่ใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมงเต็มนั้น “รองฯเอนก”ตอบข้อซักถามที่ส่วนใหญ่เป็น “เรื่องทางเทคนิค”ได้พอสมควร .. แต่ก็ได้เพียง “ครึ่งเดียว”ที่เหลือขอรับเอาข้อสังเกต กลับไปเป็น“การบ้าน”และจะชี้แจงในโอกาสต่อไป ..
ภายหลังการรับฟังข้อมูล ตัวแทน 12 องค์กรวิชาชีพ ได้ประชุมลงมติร่วมกัน โดยมี “มติเป็นเอกฉันท์”ว่า “ไม่เห็นด้วย”ที่ ทอท.จะเดินหน้าก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ .. เหตุผลก็มาจาก มองว่าทอท.คิดเอง เออเอง ไม่ได้ผ่านการรับรองจาก องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)ตามที่กล่าวอ้าง .. พร้อมย้ำจุดยืนถึง “มาสเตอร์แพลนเดิม”ว่าเหมาะสมอยู่แล้ว อีกทั้งไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องลงทุนเพิ่มเพื่อให้รองรับผู้โดยสารสูงสุดให้ได้ถึง 150 ล้านคน ตามเป้าหมาย แต่สามารถใช้ศักยภาพของ “ดอนเมือง - อู่ตะเภา”ช่วยรองรับได้ .. และหาก ทอท.จะใช้ “งบประมาณประเทศ”ลงทุน ก็ควรต่อขยายอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 ทางด้านฝั่งตะวันตก และตะวันออก ตาม“แผนเดิม”..อันเป็นแผนที่ “คุ้มค่า-รวดเร็ว” กว่า และได้ผลใน “เชิงคุณภาพ”มากกว่า ..
ขั้นต่อไป “12 องค์กรวิชาชีพ”ก็จะนำมติเสนอต่อที่ประชุม ครม. พิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน หรือหากยุ่งยากก็เห็นควรใช้“มาตรา 44” เพื่อแก้ปัญหา .. ในการเสวนา มี “แขกคนสำคัญ”อย่าง “เสี่ยด้วง”ดวงฤทธิ์ บุนนาค ผู้ชนะการออกแบบอาคารผู้โดยสารที่ 2 สนามบินสุวรรณภูมิ มาร่วมงานด้วย .. แต่ก็ดูเหมือนสถาปนิกใหญ่อย่าง “เสี่ยด้วง”จะไม่ได้สนใจสาระการอภิปราย หรือความเห็นของ“เพื่อนร่วมวิชาชีพ”แม้แต่น้อย ..ตามข่าวบอกว่า “เสี่ยด้วง”แทงสวนเพื่อนๆ อวย “ทอท.”ว่ามีความโปร่งใส แม่นยำ ชัดเจน ในเรื่องแผนแม่บท .. "อยากให้การก่อสร้างเดินหน้า เพราะทุกวินาทีที่โครงการล่าช้ายิ่งทำให้ประชาชน และประเทศชาติเสียประโยชน์”คือความเห็นของ “เสี่ยด้วง”ที่กำลังรอเซ็นสัญญากับ ทอท.อยู่ .. เป็นความเห็นของผู้ชนะโครงการออกแบบ มูลค่า 330 ล้านบาท ที่ยอมเป็น “แกะดำ”ด้วยใจจดจ่ออยู่กับ “ค่าแบบ”มากกว่าความเห็นของเพื่อนร่วมวงการ ที่ยึดผลประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง
**มือไม่ถึง-ดูดไม่ขึ้น!! "ก๊วน 3 ลูกกรอก กปปส." โชว์ออฟเต็มที่ วางเป้างวดหน้าต้องได้มากกว่า“รองผู้ว่าฯ-รองเลขาฯนายกฯ”ตั้งตัวเป็น "กุนซือใหญ่ประชารัฐ" หวังชิงการนำใน พปชร. จนยุทธศาสตร์มั่วไปหมด คนการเมืองมองออกว่า“มือไม่ถึง”จู่ๆ จะถีบตัวเป็น“แกนนำพรรค”ก็เลยดูดใครไม่ค่อยได้ ขนาด“เจ้าหน้าที่ ปชป.”ยังไม่มา
โชว์ออฟไม่หยุด .. "ก๊วน 3 ลูกกรอก กปปส." อันได้แก่ "เสี่ยตั้น" ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ผอ.พรรคประชาธิปัตย์ "เสี่ยบี" พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เลขาฯ นายกฯ "เสี่ยจั้ม" สกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ที่ได้ตำแหน่งใหญ่ในรัฐบาลนี้ .. มาถึงก็ตั้งตัวเป็น "กุนซือใหญ่ประชารัฐ" เบ่งกล้าม แสดงพาวเวอร์ หวังใจให้ผลงานเข้าตา “บิ๊กประชารัฐ”ชิงการนำใน“พรรคทหาร” .. หมายใจว่างวดหน้า ต้องได้มากกว่าแค่เก้าอี้รองผู้ว่าฯ-รองเลขาฯ นายกฯ .. สบช่องที่ “4 รัฐมนตรีประชารัฐ”ทั้ง อุตตม สาวนายน ว่าที่หัวหน้าพรรค สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ว่าที่เลขาฯพรรค สุวิทย์ เมษินทรีย์ ว่าที่รองหัวหน้าฯ และ กอบศักดิ์ ภูตระกูล ว่าที่โฆษกฯ ยัง “ใหม่”ในทางการเมือง .. เข้าทาง“เสี่ยตั๊น-เสี่ยบี-เสี่ยจั้ม”ที่ผ่านเวทีการเมือง “มาบ้าง”แอ๊คท่า วางมาดเป็น“กูรู” ให้คำปรึกษาด้านการเมือง .. ท่าดี สงสัยจะทีเหลว จนถึงวันนี้ ยุทธศาสตร์-ทิศทาง“พลังประชารัฐ”ออกแนวมั่วซั่ว กระทั่งคณะทำงานด้านต่างๆ ก็ยังไม่มี ทำเอา “คนในพรรค”บ่นกันพึม .. ไม่ต้องอะไรมาก “อีเวนต์” ที่ผุดขึ้นมาช่วงนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ “ตัดแปะ”เอาชาวบ้าน-พรรคคู่แข่งมาล้วนๆ .. อย่างเวิร์กชอป ระดมสมองคนรุ่นใหม่ ที่จัดใน “โรงแรมหรู”เครือข่าย “หลังบ้านเสี่ยตั๊น”เมื่อสัปดาห์ก่อน ก็ป่วนจนนาทีสุดท้าย .. ก่อนจัด ก็ออกตัวขอเป็น “แม่งาน”ไปพรีเซนต์ให้ “ผู้ใหญ่”ฟังเป็นคุ้งเป็นแคว .. ถึงเวลาจริงโยนให้ “คนอื่น”หากิจกรรมก่อนเปิดงานแค่ไม่ถึงชั่วโมง ที่จับผู้บริหารพรรค มาทำท่ายอดมนุษย์นั่นแหละ
.. แว่วว่ามีเสนอ“กิจกรรมละลายพฤติกรรม”ให้ผู้บริหาร-ผู้สมัคร เข้าร่วม “ทุกวันเสาร์”อีก .. จนโดนท้วง ตอนนี้ “4 รัฐมนตรีประชารัฐ” ก็ติดภาระงานหลวง ไปไหนมาไหนไม่สะดวก จะจัด “อีเวนต์ภายใน”ทุกวันเสาร์อีก แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปลงพื้นที่ .. หรืออย่างคิวที่ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แปลงร่างเป็น “ตู่ดิจิทัล”โดดลงสมรภูมิโซเชียล เปิดแอคเคาน์ ทุกแพลตฟอร์ม .. ก็ว่ากันว่า “ท่านรองฯบี”อยู่เบื้องหลัง “ยุ”จน“นายกฯตู่” ใจอ่อน ผลลัพธ์ออกมา ดูไม่จืด โดนล้อกระจายอยู่ในตอนนี้ .. นอกจากนั้น การวางตัวผู้สมัครส.ส. ที่ “ผู้ใหญ่”มอบหมายให้ “นักเลือกตั้งอาชีพ”เดินงานไว้ ล่วงหน้า“สามกุมาร”ก็ยังพยายามมาแย่งซีนจนเละ .. เน้น “ราคาคุย”ขอโชว์ฝีมือดูด ตามสูตร "ตกปลาในบ่อเพื่อน" ล็อกเป้าอดีตเพื่อนร่วมชายคาเดียวกัน อย่าง “ค่ายประชาธิปัตย์”.. คุยโขมง “ส.ส.กทม.”มาแน่-มาเยอะ สรุปหน้าแหก ดูดไม่ขึ้น ได้แค่ 3 อดีต ส.ก.มาแก้เขิน .. ขนาด“ตระกูลม่วงศิริ”อย่าง “สากล - สามารถ”ฐานเสียงแน่น โซนบางบอน แบบใส่เสื้อพรรคไหนก็ได้ ยังไม่เอาด้วย .. แล้วยังมีออฟเฟอร์ “50กิโลฯ”พ่วงเก้าอี้ รมต. ล่อใจรุ่นใหญ่อย่าง วิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. ก็โดนบอกปัดไม่ใยดี .. ดูดผู้แทนไม่ได้ ยังลามไปดูด“เจ้าหน้าที่พรรคประชาธิปัตย์”ให้ย้ายค่าย มาทำงานให้ด้วย ก็ไม่เป็นผล .. ย้ำอีกรอบ เครดิต“สามพระหน่อ”ยังไม่เข้าขั้น ประสบการณ์การเมือง ก็แค่“อนุบาล”พื้นที่ตัวเองยังเอาตัวแทบไม่รอด งวดนี้ให้ลงส.ส.เขต ยังไม่เอากันเลยมั้ง .. คนการเมืองมองกันเอง ดูออกว่า “มือไม่ถึง”จู่ๆ จะถีบตัวยกระดับมาเป็น“แกนนำพรรค”ก็ยังไงอยู่ แบบนี้ก็เลยจีบใครไม่ติด ระดับเจ้าหน้าที่พรรค ยังไม่เอาด้วยเลย
ช.ชฎา