xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” จัดเต็มเดินหน้าเต็มตัวสลาย “ระบอบแม้ว” อีก 5 ปี !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมืองไทย 360 องศา



แค่ปี่กลองเริ่มเชิดเท่านั้นเองแต่ส่อเค้าให้เห็นแล้วว่าบรรยากาศการเมืองนับจากนี้เริ่มส่อเค้าดุเดือดเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงอาจจะเดือดพล่านต่อเนื่องไปจนมีรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งเกิดขึ้นไปแล้วอีกด้วย

เพราะเมื่อพิจารณาจากเส้นทางในอนาคตของแต่ละฝ่ายแล้ว ทำให้มีเหตุผลสนับสนุนได้ชัดเจนทันทีว่าทำไมถึงได้ส่อเค้าเดือดพล่าน เนื่องจากมี “เดิมพันสูง” นั่นเอง

นาทีนี้หากไม่ต้องอ้อมค้อมก็ต้องแยกการเมืองออกเป็น “สองฝั่ง” ใหญ่ๆ ที่ต้องตั้งประจันหน้ากันอยู่ ซึ่งเชื่อว่าสำหรับคอการเมืองย่อมรับรู้แล้วว่านั่นคือ “ฝั่งทักษิณ ชินวัตร” ที่มีพรรคเพื่อไทย รวมถึงเครือข่ายเสื้อแดงและแนวร่วมฝ่ายหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งชัดเจน ก็คือ ฝ่ายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเวลานี้กำลังอำนาจรัฐอยู่ในมือ

ส่วนพวกที่เหลือก็เห็นภาพไปแล้วว่า มีกลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ที่แยกย่อยออกเป็นกลุ่มที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหอกที่เคยระบุการเมืองแบ่งออกเป็น “สามก๊ก” นั่นแหละ โดยกลุ่มหลังสุดที่ว่ากำลังพยายามแสดงบทบาทเป็น “ตัวแปร” สร้างพลังต่อรองให้มากที่สุด

อย่างไรก็ดี หากเน้นโฟกัสไปที่สองกลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มของ ทักษิณ และกลุ่ม คสช.ก็ต้องบอกว่าเข้มข้นดุเดือดขึ้นทุกวัน เพราะเพียงแค่บรรยากาศหลังการ “คลายล็อก” ก็เริ่มเห็นสัญญาณความปั่นป่วนรออยู่ข้างหน้าแล้ว

แน่นอนว่า หากพิจารณาขุมกำลัง หรือ “พลัง” เริ่มจากฝ่ายของ ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องยอมรับว่า ยังมีพลังค่อนข้างแข็งแกร่ง ยังมีมวลชนสนับสนุนอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มแล้ว ถือว่า “เริ่มถดถอย” ลงไปไม่น้อย พิสูจน์ได้จากผลสำรวจทุกสำนักที่ระบุออกมาอย่างต่อเนื่องตรงกัน และที่สำคัญ พวกเขา “ขาดความต่อเนื่อง” มาอย่างน้อย 4-5 ปี นับว่าเป็นเวลายาวนาน และยังเป็นช่วงเวลาที่ถูก “กดหัว” เอาไว้แทบจะไม่ได้กระดิกเลย ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับพวกเครือข่ายทักษิณ แม้ว่าที่ผ่านมาพวกเขาจะพยายาม “แอบอ้างประชาธิปไตย” มาหากินอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่อาจทำลาย “เผด็จการ คสช.” ลงไปได้เลย ในทางตรงกันข้ามกลับสร้างความมั่นคงเพิ่มขึ้นอย่างน่าแปลกใจ

ส่วนอีกฟากหนึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นฝั่งรัฐบาล คสช.ที่นำโดย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่นาทีนี้แม้จะไม่ประกาศออกมาชัดเจนอย่างเป็นการทางการว่าต้องการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เพราะเพียงแค่คำพูดที่ว่า “ผมสนใจการเมือง” เพียงแค่นี้มันก็มีความหมายที่รู้กัน อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบอื่นๆ มันก็ไม่ต้องพูดกันมาก

หากพิจารณาจากเป้าหมายและความจำเป็นของทั้งสองฝ่ายแม้ในรายละเอียดข้างหน้าอาจจะต่างกัน แต่ก็ถือว่ามีเดิมพันสูงด้วยกันทั้งคู่ สำหรับฝ่ายทักษิณ ชินวัตร แน่นอนว่า คงไม่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช.อยู่ในอำนาจต่อเนื่องไปอีก 5 ปีแน่ เพราะที่ผ่านมาถือว่า “ย้อนศร” อย่างเจ็บแสบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแยกสลายมวลชน บอนไซพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงการใช้นโยบายช่วงชิงความนิยม “รากหญ้า” ออกไปได้ไม่น้อย เมื่อเป็นแบบนี้หากปล่อยเอาไว้ให้ครองอำนาจต่อไปต่อเนื่องก็สามารถหลับตานึกภาพออกว่าผลในอนาคตจะเป็นแบบไหน

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากคิดที่จะก้าวลงในวันนี้รับรองว่ายิ่งเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะหลายโครงการยักษ์ที่ลงทุนลงแรงไปมากและกำลังออกดอกออกผล ไม่ว่าจะเป็นอีอีซี รวมไปถึงแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ที่ฝ่ายตรงข้ามประกาศจ้องล้มอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงคำประกาศขู่จ้อง “เช็กบิล” ตลอดเวลา แม้ว่า “บิ๊กตู่” อยากจะลงจากหลังเสือในตอนนี้ ก็ยังเชื่อว่าทำไม่ได้ เพราะ “ในทีม” คงต้องขัดขวางอย่างแน่นอน

ที่สำคัญ เมื่อพิจารณาจากกระแสแล้ว ก็ยังถือว่า “บิ๊กตู่” ยังไปได้ กระแสยังตอบรับค่อนข้างดี ซึ่งถือว่าต่างกับเผด็จการทหารในอดีต อย่างน้อยในเรื่องเฉพาะตัวในเรื่อง “มือสะอาด” ยังสามารถนำไปโชว์เกทับฝ่ายตรงข้ามได้สบาย

ดังนั้น หากพิจารณาจากสถานการณ์เฉพาะหน้ายังสามารถฟันธงได้เลยว่า “บิ๊กตู่” ต้องจัดเต็มเดินหน้าเต็มตัว และต้องย่อยสลายระบบทักษิณให้ “ละเอียด” ลงไปให้ได้อย่างน้อยต้องต่อเนื่องไปอีก 5 ปี ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็คงไม่ยอมนิ่งเฉย แม้ว่าหลังการเลือกตั้งหลายฝ่ายมองเห็นว่าพรรคเพื่อไทยจะมีสส.มากที่สุดแต่ไม่อาจตั้งรัฐบาลได้ ทำให้น่าจับตาตามมาว่าพวกเขาจะ “ปลุกกระแส” ความชอบธรรมอ้างเสียงประชาชนออกมาป่วน ตามที่ “เสนาะ เทียนทอง” ส่งสัญญาณว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลแต่บริหารไม่ได้หรือเปล่า และนี่อาจเป็นคำตอบว่าทำไม!!


กำลังโหลดความคิดเห็น