ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เคลียร์คัตชัดเจน!! “บิ๊กตู่”ประกาศโครม “สนใจงานการเมือง”ลั่นไม่ลาออก “หัวหน้า คสช.”รับแกรนด์โอเพ่นนิ่ง“พรรคพลังประชารัฐ” พร้อมเตรียมเปิดตัว “4รัฐมนตรี คสช.”ร่วมเป็น “คีย์แมน”หนีไม่พ้น “นักเลือกตั้ง”กดดันให้ลาออกจากครม. ดีที่กฎหมายไม่บังคับ แต่หากคิดจะควบ 2 ขา ก็ต้องใช้อำนาจ-หน้าที่ “ปล่อยของ”ให้คนไทยร้อง“ว้าว!”ตุนแต้มลุยเลือกตั้ง
ยึกยักพอเป็นพิธี .. ที่สุด “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็พูดถึง “อนาคตทางการเมือง”ที่เคยนัดไว้ว่าจะบอกความชัดเจนภายในเดือนก.ย. .. น่าสนใจตรงที่การประกาศ “สนใจทำงานการเมือง”ครั้งนี้ เป็นการเอ่ยปากด้วยตัวเอง โดยที่ผู้สื่อข่าวยังไม่ทันได้ง้างปากถามซะด้วย .. จู่ๆ ก็ประกาศออกมา คล้ายกับล็อก“ฤกษ์ธงชัย”เซตไว้ว่า จะแจ้งความชัดเจนต่อสาธารณะ .. เหตุผลไม่มีอะไรมาก “ผมรักประเทศของผม”รวมทั้งการติดตามงานที่ คสช.วางไว้ .. เสียดายอยู่นิดที่ลงสมัครส.ส.ไม่ได้นี่สิ ด้วยไม่ได้ลาออกจากตำแหน่ง“หัวหน้า คสช.”ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ถึงกระนั้น ประตู “ นายกฯหลังเลือกตั้ง”ก็ยังเปิดกว้าง .. เป็นไทม์มิ่งที่สอดรับการกำหนดการ “แกร์นด์โอเพ่นนิ่ง”ประชุมใหญ่ของ “พรรคพลังประชารัฐ”ที่จะจัดขึ้น 29 ก.ย. สุดสัปดาห์นี้ .. แต่ก็ยัง “กั๊ก”อยู่เล็กน้อย กับประโยคที่ว่า “สนใจงานการเมือง แต่จะตัดสินใจอย่างไร จะสนับสนุนใคร จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง” .. นัยว่า ยังไม่ลงหลักปักฐานกับ“พรรคพลังประชารัฐ”ที่วางโครงเป็น “นั่งร้าน”ไว้ให้ .. คำถามหนึ่งที่ถูกยิงตรงไปถึง “นายกฯตู่”ทันที ก็คือกระแสกดดันให้ลาออกจาก “หัวหน้าคสช.”เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในช่วงการเลือกตั้ง ก็ได้รับคำตอบกลับทันควันว่า "ไม่ออก" ..
พลันที่ “นายกฯลุงตู่”ประกาศตัว ก็ทำเอา “ทีมงานประชารัฐ”ก็จ้าละหวั่นขึ้นมาทันที โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มีการคาดหมายก่อนหน้านี้ว่าจะขยับไปเป็น “คีย์แมนพลังประชารัฐ” ..ไม่ว่าจะเป็น อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ที่คาดว่าจะเป็น “หัวหน้าพรรค”หรือ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ที่คาดว่าจะเป็น“เลขาธิการพรรค” ..รวมไปถึง สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ที่ข่าวว่าวางตัวเป็น “กรรมการบริหารพรรค”และ กอบศักดิ์ ภูตระกูล รมว.สำนักนายกฯ ที่เหมือนรับแล้วว่าจะไปเป็น “โฆษกพรรค”ให้กับพรรคน้องใหม่ .. แม้ทั้งหมดจะยังไม่ยอมรับเต็มปาก แต่ก็เชื่อว่า 29 ก.ย.นี้ จะไปร่วมเปิดตัวกับ “พรรคพลังประชารัฐ”และรับตำแหน่งที่คาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน .. และก็คาดอีกว่าจะมีกระแสกดดันให้ 4 รัฐมนตรีลาออกจาก ครม.เช่นเดียวกับที่กดดัน “นายกฯประยุทธ์”ซึ่งก็เชื่อว่าคำตอบก็คงไม่ต่างกัน .. ตามที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ได้ปูทางไว้ให้ล่วงหน้าว่า รัฐมนตรีไปเป็นผู้บริหารพรรคการเมืองได้ กฎหมายไม่ได้ห้าม ..
ในมุม“กฎหมาย”ก็อาจใช่ แต่ในมุม “มารยาท”ก็อีกเรื่อง ไม่พ้นถูก “คู่แข่ง”ตั้งแง่ว่าเอาเปรียบกันทางการเมือง .. และไม่เพียงแต่ “นักเลือกตั้ง”จะตาขวาง เพราะการที่ “รัฐมนตรี คสช.”จะเล่น 2 บทบาทในเวลาเดียวกัน ก็ย่อมทำให้ “สังคม-ประชาชน”ตั้งแง่ มี “ข้อครหา”ไม่ต่างกัน .. ดังนั้นไม่ว่า “ลุงตู่”หรือ “4 รัฐมนตรี”หากเลือกที่จะ “เหยียบเรือสองแคม”อยู่เช่นนี้ ก็ต้องมี “อะไรๆ”ให้กับสังคม .. เป็น “อะไรๆ”ที่ออกมาแล้ว “สังคมส่วนรวม” ต้องร้อง“ว้าว!!”ด้วยต้องยอมรับว่า คะแนนความนิยมของ “รัฐบาล คสช.”แม้จะนำอยู่ แต่ก็ไม่สู้ดีนัก .. หากจะกอบกู้คะแนนนิยม เพื่อชนะในสนามเลือกตั้งให้ “สมราคา”ก็มี “การบ้าน”ที่ต้องทำในช่วง “โค้งสุดท้าย” ..ในมุมของ “ลุงตู่”ยังคงติดกับ “รอยด่าง”ใน 2 ประเด็นหลัก หนึ่งการปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชัน โดยเฉพาะกับ “คนรอบข้าง” .. และสอง แนวทางการปฏิรูปประเทศที่แม้จะมีคณะกรรมการยุ่บยั่บไปหมด แต่ดู 4 ปีมานี้จะไม่คืบหน้าไปไหนเลย .. เช่นเดียวกับ “ทีมประชารัฐ”เอง แม้ที่ผ่านมาจะถือว่า “สอบผ่าน”แต่หากคิดจะลงสนามการเมือง คงต้องเร่ง “ปล่อยของ”มากขึ้น ในช่วงโค้งสุดท้ายด้วย
**เกียรติภูมิราคา 10 ล้าน!! “เครือผู้จัดการ”งานเข้า “ท่านนายพลไก่อู”ร้องสอด ขอเรียก “ค่าเสียหาย”10 ล้านบาท กรณีถูกฟ้องหมิ่นประมาท คำร้องขอเรียกสินไหมทดแทน บรรยาย“ชื่อเสียง-เกียรติคุณ”ของ “ท่านไก่อู”ยาวเหยียด เน้น “ราคาไม่สูงเกินจริง”เหตุปัจจุบันเป็นทั้ง นายพลโทแห่งกองทัพบก - ผู้ชำนาญการกองทัพบก - โฆษกรัฐบาล - อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
งานเข้าอีกแล้ว .. ก็เผอิญว่า“ข่าวปนคน คนปนข่าว”ดันไปสร้างงานให้กับ “เครือผู้จัดการ”หลังไปเขียน“วิพากษ์วิจารณ์”ในฐานะ “สื่อมวลชน”..ที่ดันไปกระทบ“ความรู้สึก”ของ “ผู้มีอำนาจ”จนเกิดเรื่อง .. เมื่อถูก “ท่านนายพลไก่อู”พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ฟ้องร้องเป็นคดี ทำให้ “หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360”ได้รับเกียรติเป็น “จำเลย”ในข้อหา “หมิ่นประมาท” ..เห็นว่ามีการแจ้งความ-ออกหมายมานานหลายเดือนแล้ว และเพิ่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ไปเมื่อช่วงต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมานี่เอง .. ล่าสุดเพิ่งได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่คดียังไม่ถึงที่สุด ใครผิด ถูก ยังไม่แน่ชัด ก็ได้ “คำร้องเพิ่มเติม”จากคดีเดิม .. เป็น “คำร้องขอเรียกสินไหมทดแทน”หรือเรียกตามประสาชาวบ้านก็ประมาณ“ค่าทำขวัญ”นั่นแหละ .. กรณีนี้เป็น “ค่าทำขวัญ”ที่ทำให้เกิดความเสียหาย “ทางใจ”ตามคำบรรยายในคำร้อง .. ที่เนื้อหาส่วนใหญ่ เน้นย้ำว่า “ผู้ร้อง”ในที่นี้ ก็คือ “ท่านไก่อู”ได้รับความเสียหายจากการหมิ่นประมาทของ “จำเลย”กรณีนี้ คือ “นสพ.ผู้จัดการ” ..
ด้วยไปกระทบ “ชื่อเสียง-เกียรติคุณ” ที่สั่งสมมาของ “ท่านไก่อู”ที่ระบุว่า ตัวเองประกอบอาชีพรับราชการทหาร มาตั้งแต่ปี 2530 จนปัจจุบัน เป็นนายทหารยศ “พลโท”พร้อมทั้งร่ายเกียรติประวัติส่วนตัวมา ยืดยาว .. ด้วยเหตุที่ “จำเลย”ทำให้ผู้ร้องต้องถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ จึงต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท .. ถัดมาอีกหัวข้อ ก็มีการ “ดีเฟนด์ ”ราคาค่าเสียหาย 10 ล้านบาท ที่เรียกร้องไว้ว่า “ไม่สูงเกินสมควร” ..เมื่อเทียบกับตำแหน่งหน้าที่ การงาน คุณงามความดี ของ“ท่านนายพลไก่อู”ที่ในเวลานี้ มียศ“พลโท” .. ไม่เท่านั้น ในยุค คสช. ยังมีความสามารถโดดเด่น ดำรงตำแหน่งสำคัญๆพร้อมกันถึง 3 ตำแหน่ง .. ทั้งผู้ชำนาญการกองทัพบก โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ .. เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้ มีความคืบหน้าอย่างไร จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
**คราวซวย กสทช.!! “นายกฯตู่”ฉุน กสทช. ทำ “โปรเจกต์เน็ตประชารัฐ”ไม่ฉิว แถมมีเรื่องร้องเรียนกองบนโต๊ะทำงานอื้อ เรื่องใหญ่โดน“เอกชน” อ้างชื่อจนได้งานในโครงการ สืบไปสืบมา ที่แท้ “นาย บ.บ.”คนดัง ผู้อิงกับ “อาณาจักรคลองหลอด”คราวซวยตกมาที่ กสทช. ที่ดื้อดึง ขอเป็น“เจ้าภาพ” โครงการเน็ตประชารัฐ จนอาจโดน ม.44 ปลดระวางยกชุดเร็วๆ นี้
เม้าต์สนั่นซอยสายลม .. ที่ทำการใหญ่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) .. ที่เพิ่งหอบผลงานไปโชว์ในงาน “ดิจิทัล ไทยแลนด์บิ๊กแบง 2018” มหกรรมโชว์ดิจิทัลเทคโนโลยีระดับนานาชาติ จัดที่อิมแพ็ค เมืองทอง .. วันเปิดงานมี “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปเป็นประธาน หลังกล่าวปาฐกถาเสร็จ ก็ได้เดินเยี่ยมชมบูธต่างๆ ตามสเต็ป .. ทว่าเมื่อคณะของ “นายกฯตู่” เดินผ่าน “บูธ กสทช.” ที่ว่ากันว่า “ใหญ่ที่สุด”ในงาน กลับเดินผ่านไปราวกับมองไม่เห็น .. จนทำให้ “ประธานอ้อ”พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช.รักษาการ พร้อมบอร์ดชุดใหญ่ ที่ชักแถวรอต้อนรับ หน้าเสียเป็นแถบ .. ร้อนถึง “บิ๊กน้อย”ฐากร ตัณฑสิทธิ์ ที่ต้องประสานงานผ่าน พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดีอี พา “นายกฯตู่”วกกลับมาที่ “บูธ กสทช.”เพื่อรักษาหน้าองค์กรใหญ่ของประเทศ .. เมื่อ “ท่านนายกฯ”มาถึง “ประธานอ้อ”ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มพรีเซนต์ผลงานเรือธง “เน็ตประชารัฐ”ตามสคริปต์ ที่ท่องมาทันที .. แต่ฟังได้พักเดียว“นายกฯตู่”ที่กำลังบูดบึ้งเป็นทุน ก็โพล่งขึ้นมา กลางคันว่า โครงการนี้ใช้ไม่ได้ .. ระบุว่าได้รับฟีดแบ็กรับฟังมาจากการลงพื้นที่ทั่วประเทศ ทำเอาบอร์ด กสทช. หน้าเสียไปตามๆ กัน ..
ตามคิวที่เมื่อปลายเดือนส.ค. “นายกฯตู่”เพิ่งเซ็นหนังสือตามงาน ถามตรงๆ ว่า “เน็ตประชารัฐใช้งานได้จริงไหม” ..แต่ที่หนักกว่านั้น “ท่านนายกฯ”บอกด้วยว่า มีเรื่องร้องเรียนมากองอยู่บนโต๊ะทำงานเป็นกระตั้กๆ .. ข่าวว่าข้อร้องเรียนเรื่องการใช้งานที่ตะกุกตะกักไปตามประสา “ของใหม่”ที่ยังไม่เคยทำมาก่อน อันนั้นไม่เท่าไร .. ยังมีเรื่อง “เอกชนรายหนึ่ง”ไปแอบอ้างชื่อ “นายกฯตู่”จนได้รับงานบางส่วนในโครงการเน็ตประชารัฐ .. อีกทั้งยังแอบอ้างถึงขนาดไปขอ “แก้สเปก”ภายหลังได้รับงาน จนเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ประสิทธิภาพของโครงการ หลายพื้นที่ถึงขั้นใช้การไม่ได้ .. ข่าวว่า เช็กไปเช็กมา “เอกชนขาใหญ่”รายนั้นไม่ได้ขึ้นตรงกับ “ตีกไทยคู่ฟ้า”หากแต่เป็น “อาณาจักรคลองหลอด”ส่งเข้าประกวด โดยมีคีย์แมนชื่อดัง อย่าง “นาย บ.บ.” .. คล้ายกับหลายๆ โปรเจกต์ ของกองทัพบก หรือในยุครัฐบาล คสช. ที่มีชื่อ “นาย บ.บ.”เข้าไปพัวพัน จนวายวอด และหลายโปรเจกต์ “ย้อนศร”มาถึง “บิ๊กคสช.” เสียด้วย .. ยิ่งมา “หารับประทาน”กับ “โครงการเรือธง”ที่หมายมั่นว่าจะเป็นจะเรียกแต้ม-กู้ศรัทธาให้รัฐบาล คสช. แบบนี้ ก็
เป็นเรื่อง .. คราวซวยมาตกที่ กสทช. ที่ดื้อดึงขอเป็น “เจ้าภาพ”โครงการเน็ตประชารัฐ แต่ปล่อยปละ จนเละเทะ .. แว่วว่า “นายกฯตู่”ชักจะ “ทนไม่ไหว” กับ “กสทช.ชุดรักษาการ”ซะแล้ว แถมมีแรงยุจาก “บิ๊ก กสทช.บางราย”ชงให้ใช้ “มาตรา 44” อีกครั้ง .. หมายให้ปลดระวาง “ชุดรักษาการ”แล้วตั้งชุดใหม่มาเสียบ เหมือนกับโมเดลที่ปลดแล้วตั้ง กกพ. เมื่อไม่นานมานี้ .. เห็นว่าเริ่มวางตัว “ว่าที่ กสทช.ชุดใหม่”กันแล้ว ส่วนจะเป็นใครมั่ง นั้น เร็วๆ นี้จะมาอัพเดตอีกหน.
ช.ชฎา
