xs
xsm
sm
md
lg

กษ.จ่อออกประกาศสำนักนายกฯ เวนคืนอสังหาฯ เดินหน้า “เขื่อนทดน้ำผาจุก” ใน 35 ตำบล 3 จังหวัด หลัง กม.เวนคืนฉบับเดิมล่าช้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กระทรวงเกษตรฯ จ่อออกประกาศสำนักนายกฯ เวนคืนอสังหาฯ เดินหน้า “เขื่อนทดน้ำผาจุก” ในท้องที่ 26 ตำบล 4 อำเภอ จ.อุตรติตถ์ พ่วง 5 ตำบล 2 อำเภอ จ.สุโขทัย และ 4 ตำบล 1 อำเภอ จ.พิษณุโลก หลังออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนแล้ว ติดปัญหาล่าช้าทางนิติกรรมสัญญาซื้อขายกับเจ้าของที่ดิน พบบางรายไม่ยอมรับราคาที่กำหนดให้ แถมติดปัญหาขั้นตอนกฎหมายที่ดินมรดก-ของผู้เยาว์-ติดจำนองกับสถาบันการเงิน แถมบางส่วนไม่สามารถติดต่อได้ กรมชลประทานยันล่าช้าทำประชาชนที่จะได้รับประโยชน์เดือดร้อน กระทบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

วันนี้ (24 ก.ย.) แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมออกประกาศประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลงิ้วงาม, ตำบลนํ้าริด, ตำบลผาจุก, ตำบลท่าเสา, ตำบลบ้านด่าน, ตำบลคุ้งตะเภา, ตำบลป่าเช่า, ตำบลท่าอิฐ, ตำบลหาดกรวด,

อำเภอเมืองอุตรติตถ์ ตำบลฝายหลวง, ตำบลชัยจุมพล, ตำบลทุ่งยั้ง, ตำบลด่านแม่คำมัน, อำเภอลับแล, ตำบลวังแดง, ตำบลข่อยสูง, ตำบลบ้านแก่ง, ตำบลนํ้าอ่าง, ตำบลหาคลองแคว,

อำเภอตรอน ตำบลท่าสัก, ตำบลนายาง, ตำบลไร่อ้อย, ตำบลคอรุม, ตำบลนาอิน, ตำบลบ้านหม้อ, ตำบลท่ามะเฟือง, ตำบลพญาแมน

อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลดงคู่,

อำเภอครีสัชนาลัย ตำบลนครเดิฐ, ตำบลนํ้าขุม, ตำบลศรีนคร, ตำบลคลองมะพลับ, อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย และตำบลตลุกเทียม, ตำบลดงประคำ, ตำบลศรีภิรมย์, ตำบลวงฆ้อง, อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน

ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ฯ พ.ศ. 2560 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานเบกษา (13 ส.ค. 2560) มีกำหนดเวลาใช้บังคับสี่ปี เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซี่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิ เข้าไปทำการสำรวจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะด้องเวนคึนที่แน่นอน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์แก่การชลประทานในการก่อสร้างเขื่อนทดน้ำและระบบส่งน้ำ พร้อมอาคารประกอบตามโครงการเขื่อนทดน้ำผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ ไว้แล้ว โดยมีวงเงินจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 10,500 ล้านบาท (รวมค่าที่ดิน) ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่่ปี 2558

สำหรับโครงการเขื่อนทดนํ้าผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์ มีพื้นที่ประมาณ 2,438 แปลง เนื้อที่ประมาณ 4,500 ไร่ โดย เจ้าหน้าที่ได้ทำการสำรวจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนแล้วเสร็จบางส่วนและจ่ายเงินคำทดแทนแล้ว จำนวน 446 แปลง หรือคิดเป็น 21.41% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจข้อเท็จจริงของอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน นำเสนอคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นของอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนและจำนวนเงิน ค่าทดแทน เพื่อดำเนินการประชุมพิจารณากำหนดราคาค่าทดแทนเบื้องต้นให้แก่เจ้าของที่ดินที่ถูกเขตเวนคืน

จากมติคณะกรรมการที่ได้ประกาศราคาค่าทดแทนเบื้องต้นที่ได้กำหนดไว้ให้กับเจ้าของที่ดินแล้วนั้น ปรากฏว่า มีเจ้าของที่ดินบางรายไม่ยอมรับราคาที่คณะกรรมการกำหนดให้ บางรายติดปัญหาเรื่องขั้นตอนของกฎหมาย เช่น ที่ดินมรดก ที่ดินเป็นของผู้เยาว์ ที่ดินติดจำนองกับสถาบันการเงินไม่สามารถตกลงกันได้ และที่ดินบางส่วนไม่สามารถติดต่อผู้มีชื่อตามหลักฐานที่ดินให้มาตำเนินการได้ตามขั้นตอนปกติ จึงเป็นปัญหาและอุปสรรคทำให้การตำเนินการเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาล่าช้าและส่งผลให้ไม่สามารถเข้าครอบครองและใช้อสังหาริมทรัพย์นั้นได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้

เนื่องจากไม่สามารถทำนิติกรรมสัญญาซื้อขายกับเจ้าของที่ดินที่มีปัญหาดังกล่าวได้ และหากการเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกาเนิ่นนานช้าไปจะส่งผลให้ราษฎรผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากระบบชลประทานดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเสียหายอันจะเป็นปัญหาและอุปสรรคอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

ดังนั้น เพื่อให้สามารถเข้าครอบครองและใช้อสังหาริมทรัพย์เพื่อก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ตามแผนงานและสามารถแก้ไขปัญหานํ้าท่วม และการขาดแคลนนํ้าฃองราษฎรในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 13 แห่งพระราชบ้ญญ้ติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 ประกาศกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ดังกล่าวเป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน

โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 13 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอลังหารีมทรัพย์ พ.ศ. 2530 ซึ่งกำหนดว่า “ถ้าเจ้าหน้าที่เห็นว่าการเวนคืนที่ได้มีการออกพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 6 แล้ว หากเนิ่นนานช้าไปจะเป็นอุปสรรคอย่างมากแก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม หรีอประโยชน์ของรัฐอันสำคัญอย่างอื่น ให้ ครม.มีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดให้การเวนคืนนั้นเป็นกรณีที่มืความจำเป็นโดยเร่งด่วนได้” และจัดให้มืการจ่าย หรือวางเงินค่าทดแทนให้แก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ยอมรับราคาค่าทดแทนดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีสิทธิอุทธรณ์ในเรื่องของค่าทดแทนและฟ้องศาลตามที่ กำหนดไว้ในมาตรา 25 และมาตรา 26 แห่งพระราขบญญ้ติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 ต่อไปได้
กำลังโหลดความคิดเห็น