ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ขรก.ไซด์ไลน์!! "รสนา" ลากไส้ “สนช.-ก.พลังงาน”ไม่รักษาผลประโยชน์ชาติ เล่นกลแก้ “กม.ภาษีปิโตรเลียม”หมกเม็ดเอื้อประโยชน์ “เอกชน” ตัดหลักประกันเยียวยาสิ่งแวดล้อม ผลักภาระให้รัฐ สุดท้าย ปชช.รับกรรม สวน“สนช.บางคน”อ้างว่ามีอยู่ใน “ระเบียบ”แล้ว ตอกขนาดบัญญัติใน “กฎหมายหลัก”ยังไม่ค่อยทำตาม พร้อมฉะ “รมต.ศิริ”พูดพล่อยๆ ประมูล “บงกช-เอราวัณ”ไม่สำเร็จ จะเรียก “รายเก่า”มาเจรจาให้ผลิตต่อ
ยังวางตาไม่ได้เลย .. ประเด็นผลประโยชน์พลังงานที่ขณะนี้เป็นช่วง “รอยต่อ”สำคัญ ทั้งการประมูลต่อสัมปทานหลายโปรเจกต์ กระทั่งเข้าโหมดเลือกตั้ง ที่อาจมี “บางคน” ลุกลี้ลุกลน หาทุนหาเสียง กระทั่งโกย “โบนัส”กลับบ้านเผื่ออำนาจหลุดมือ .. ทั้งเรื่องเดิมๆ ที่คั่งค้าง ไม่ว่าจะปมคำพิพากษาศาล “คืนท่อก๊าซ” ที่จนป่านนี้ก็ยังต้องนั่งทวงถามกันเรื่อย .. หรือกรณี “บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่”หลีกเลี่ยงภาษี แต่ “หน่วยงานไทย”บื้อใบ้ ไม่หืออือ เห็นว่า ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง จะหอบเรื่องไปให้หน่วยงานของเมืองนอก จัดการแทนซะแล้ว .. ไม่เท่านั้น จันทร์หน้า 25 ก.ย. ก็กำลัง จะมีการ “โปรเจกต์ยักษ์” อย่างการเปิดให้ยื่นข้อเสนอร่วมประมูลแหล่งพลังงาน “บงกช-เอราวัณ” ..ที่อุตส่าห์เสียเวลาไปแก้กฎหมายเป็นปีๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ ที่สุดก็ยัง “เล่นกล”ไม่ทำตาม พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2560 .. ร้อนถึง “มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค”ต้องไปพึ่งศาลปกครองอีกครั้ง ให้พิจารณาเรื่อง “คณะกรรมการปิโตรเลียม”ไม่ทำตามกฎหมาย .. ก็มีอย่างที่ไหน ในกฎหมายเปิดกว้างในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไว้ 3 ระบบ .. แต่ก็จับได้ไล่ทันว่า “คณะกรรมการปิโตรเลียม”ออกระเบียบเหมือนจงใจไม่อยากใช้ “ระบบสัญญาจ้างผลิต”ราวกับมี “ธง” อยู่แล้ว .. แม้ศาล จะยังไม่ประทับรับฟ้อง แต่ในเมื่อข้อกฎหมายยังไม่เคลียร์ “กระทรวงพลังงาน”ก็น่าจะชะลอเรื่องไว้ก่อน ..
ไม่ชะลอไม่ว่า ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวเชิง “ประชด”ว่า “หากการประมูลไม่สำเร็จ เพราะมีการต่อต้าน ก็จะเรียกรายเก่ามาเจรจา ให้ผลิตต่อเลย” .. พูดจาไม่สมกับเป็น “รัฐมนตรี” เหมือนเห็น “ประโยชน์ชาติ” เป็น “ของเล่น”ซะงั้น.. ล่าสุด รสนา โตสิตระกูล อดีต สปท.ด้านพลังงาน ออกมา “ดักคอ”ทาง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีวาระพิจารณา “ร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม” .. หลังพบว่ามีการตัด “เนื้อหาสำคัญ” บางช่วงบางตอน ที่ออกไปในแนวเอื้อเอกชน ไม่ต้องรับผิดชอบการดูแลสิ่งแวดล้อม .. ที่เดิม “ร่างกฎหมาย”กำหนดให้ “เอกชนผู้รับสัมปทาน”ต้องวางเงินเป็นหลักประกันในการรื้อถอนแท่นที่หมดสภาพการใช้งานแล้ว หลังหมดอายุสัมปทาน .. รวมทั้งต้องวางเงินหลักประกันเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม ที่อาจเกิดปัญหาจากการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมด้วย .. ทว่า “กรรมาธิการ”ของ สนช.จัดการตัดทิ้ง จน “รสนา” ตั้งข้อสังเกตว่า จะโอนภาระนั้นมาเป็น “ภาระของรัฐบาล”ซึ่งคือ “ภาษีของประชาชน” ..แล้วเห็นว่า “สนช.บางคน” อ้างว่าที่ตัด “เนื้อหาสำคัญ”ออก เพราะมีอยู่ใน “ระเบียบ” .. ฟังแล้วก็สะอึก ก็ขนาดทุกวันนี้ เขียนอะไรๆไว้ใน “พระราชบัญญติ”ยัง “เล่นกล” กันเละเทะ ไม่สนใจ ไร้ความเกรงกลัว แล้วเป็นแค่ “ระเบียบ” ใครมันจะไปทำตาม .. จน “รสนา” ต้องเปรียบแรงๆ ว่า “สนช.” ที่กินเงินเดือนประชาชน แต่กลับออกกฎหมายเอื้อบริษัทเอกชน ก็ไม่ต่างจาก “พวกข้าราชการไซด์ไลน์”ที่มุ่งแต่ใช้อำนาจ-กฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ “เอกชน”เป็นเป้าหมายหลัก.
** เจาะไข่แดงชินวัตร!! “พลังดูดสามมิตร”อาศัยอานิสงส์“อีอีซี”กระชาก 5 อดีต ส.ส.ภาคตะวันออกจาก “ค่ายประชาธิปัตย์”สำเร็จ พร้อมเตรียมเซอร์ไพร์สใหญ่ เปิดตัว 3 อดีตผู้แทนเมืองเชียงใหม่ “เมืองหลวงชินวัตร”คงไม่พ้น “บ้านบูรณุปกรณ์”ที่เพิ่ง “ซื้อใจ”คืนตำแหน่งนายกฯอบจ. ให้ “เสี่ยโต๊ะ”พี่ใหญ่ของบ้าน
ดูถูกไม่ได้ซะแล้ว .. “พลังดูดสามมิตร”ของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ - สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ช่วงหลังอาจจะดูกร่อยๆ ดูดสะเปะสะปะ เน้นประเภท “ดาวโรย - นกแล”ไปหน่อย .. ขนาดที่ “ดาวฤกษ์” ที่ “สมศักดิ์”เคยโวไว้ ยังไม่เห็นซักราย ประเภท “อดีต รมต.”ที่เคยเปิดตัวใหญ่โต อย่าง ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข แห่งเมืองเลย ก็ดูจะเอาแน่ไม่ได้ .. คิวที่ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะไปลงพื้นที่ “เมืองเลย”วันก่อน ยังหลบลี้ หนีหน้า ไม่ยอมมาต้อนรับ .. ล่าสุดข่าวหลุดจาก ภิรมย์ พลวิเศษ ผู้ประสานงานกลุ่มสามมิตร ว่า เพิ่งกระชากมาได้ 5 ราย .. พร้อมปล่อยคลิป “สุริยะ - สมศักดิ์”ไป ล้อมวงโซ้ยข้าวกับ 5 คน ที่ถือว่าพอไปวัดไปวา .. ประกอบด้วย สราวุฒิ เนื่องจำนง ลูกเจ้าของตลาดดัง อดีต ส.ส.ชลบุรี วิชัย ล้ำสุทธิ อดีต ส.ส.ระยอง .. แล้วยังมี 3 อดีตผู้แทนฯ เมืองแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ - บุญเลิศ ไพรินทร์ - ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ .. เป็นอดีต ส.ส.โซนตะวันออก ที่คงหวังมาพึ่งอานิสงส์ “โปรเจกต์อีอีซี”เหาะเข้า “สภาหินอ่อน” ..ไม่เท่านั้น “เสี่ยภิรมย์”ยังแง้มว่า กำลังจะมีเซอร์ไพร์สใหญ่ คราวนี้ “เจาะไข่แดง” จ.เชียงใหม่ ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงระบอบทักษิณ” ..
โดยคาดว่าอีกไม่กี่วันคงจะมีการเปิดตัว อดีต ส.ส.-อดีตผู้สมัคร จ.เชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย .. แม้จะยัง “อุบไต๋”ไม่บอกว่าเป็นใคร แต่เดาไม่ยากว่าเป็น “บ้านบุรณุปกรณ์”ที่เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เพิ่ง “ซื้อใจ”กันไป .. หลังจากที่ คสช.คืนตำแหน่งนายกฯอบจ.ให้ “เสี่ยโต๊ะ”บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ พี่ใหญ่ของบ้าน ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของ “เจ๊แดง”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ .. เห็นว่าได้เก้าอี้คืนไม่ถึงเดือน “เสี่ยโต๊ะ”เหมือนรู้ว่า “แบ็กหนา”ชงเรื่องเข้าสภาฯ ทุ่มขุดเจาะบ่อบาดาลพรวด 150 โครงการ 63 ล้านบาท .. แต่การได้ “บ้านบูรณุปกรณ์”มาเสริมทัพ ก็อาจจะได้เรื่องภาพที่สามารถ เจาะถิ่น “ทักษิณ”ได้เท่านั้น .. แต่ก็คงไม่ถึงขนาดการันตีที่นั่ง ส.ส.ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้วยอิทธิพล “ทักษิณ”ยังคงเข้มขลังใน “เมืองเจียงใหม่”อยู่ไม่คลาย .. เฉกเช่นเดียวกับใน “ถิ่นอีสาน” ที่แม้ “กลุ่มสามมิตร”จะแสดงความมั่นใจว่า จะได้ ส.ส.เขตรวมปาร์ตี้ลิสต์ ไม่ต่ำกว่า 50 ที่นั่ง .. ก็ฝากให้ย้อนไปดูอดีต หรือถามบทเรียนจาก “เสี่ยเป็ด” เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ดูก็ได้ว่า ชนกับ “กระแสทักษิณ”แล้วเป็นเช่นไร.
**ต้องปิดเกมเร็ว!! คสช.ขีดปฏิทินล็อกวันเลือกตั้งกันตั้งแต่ “ฤกษ์แรก”24 ก.พ.62 ไม่ให้ “ฝ่ายการเมือง - นักเลือกตั้ง”ตั้งตัวกันทัน หลังมีกระแส “ดีลผสมพันธุ์”ระหว่าง “เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์”ฝ่ายแรกตั้งเป้าคว้า ส.ส.เกิน 200 ที่นั่ง เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แล้วมอบตำแหน่ง “นายกฯ”ให้กับ “อภิสิทธิ์”หวังส่งทหารกลับกรมกอง
ปี่กลองการเมืองเริ่มเชิด .. หลังประกาศคลายล็อกพรรคการเมือง ของ คสช. เริ่มมีการตระเตรียมเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งต่อไป .. ท่ามกลางกระแสข่าว “หนาหู” ขึ้นเรื่อยๆว่า “ผู้ถืออำนาจ” อย่าง “รัฐบาล คสช.”ที่เชื่อว่าจะส่ง “พรรคทอปบูต”ลงประกวดประขันในประชาชนกาบัตรเลือกตั้งด้วย .. กำลังชั่งใจจะเปิดการ์ด “ปิดเกมเร็ว”ขีดปฏิทินล็อกวันเลือกตั้งกันตั้งแต่ “ฤกษ์แรก”ที่กฎหมายเปิดช่อง ในวันที่ 24 ก.พ.62 .. ด้วยอาศัยความเป็น “ผู้คุมกฎ”เอื้อทุกทางให้กับเครือข่ายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการ “ดูด - ล็อค” หรือการขยับ “หาเสียงฝ่ายเดียว”ไปจนถึงก่อนการเลือกตั้ง .. เช่น เดียวกับการ “ตีตรวน”ไม่ให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองผ่าน “โลกออนไลน์”ที่เป็น “แนวรบ” ที่ฝ่ายทหารดูจะด้อยที่สุดอีกด้วย .. อีกด้านก็มีข่าวเนืองๆว่า “ฝ่ายการเมือง” เองก็ “ฝันเล็กๆ - หวังลึกๆ”ว่าอาจมีหนทางในการ “พลิกเกม”และส่งทหารกลับกรมกองได้บ้าง .. ร่ำลือกันในวงแคบๆ ถึงสูตร “รัฐบาลปรองดอง” ที่อาจมี “รวมกันเฉพาะกิจ”ของพรรคใหญ่อย่าง “เพื่อไทย - ประชาธิปัตย์” โดยไม่มีส่วนผสมของ “เครือข่ายทหาร” ..
อย่างที่รู้กันว่า “พรรคเพื่อไทย”คงไม่มีปัญหาในการทำยอดผู้แทนได้ไม่น้อยกว่า 200 ที่นั่ง เป็น “พรรคเสียงข้างมาก”แต่โอกาสในการเป็น “แกนนำตั้งรัฐบาล” คงไม่ง่ายอย่างที่คิด .. ด้วยว่ามี “พรรค ส.ว.”ที่มีจำนวน 250 เสียง ที่มีสิทธิ์ร่วมโหวตเลือกนายกฯ หลังเลือกตั้งได้ เป็น “ปราการหิน” ที่ปิดตายบันใดไต่คืนสู่อำนาจของ “ระบอบทักษิณ” หรือกระทั่ง “ฝ่ายการเมือง” ก๊กอื่นๆ ที่คิดจะชิงบัลลังค์ไปจาก “ขุนทหาร” .. เพราะขอเพียง “พรรคทหาร” หรือเครือข่าย “พรรคนั่งร้านทหาร”รวมกันอีกแค่ 100 กว่าเสียง รวมเข้ากับ 250 เสียงของ “พรรค ส.ว.”ก็ทะลุเป้า 375 เสียงไม่ยาก .. ถึงขนาดมีข่าวว่า อาจเกิด “ดีลผสมพันธุ์”โดยที่พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล แล้วมอบตำแหน่งนายกฯ ให้กับ “พ่อมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ .. พลันที่มีข่าว “นักเลือกตั้ง”เริ่มหัวชนกัน ก็เป็น “ปัจจัยเร่ง” ให้ “บิ๊กทหาร”ที่เคยไม่มั่นใจ และกระเถิบโรดแมปมาหลายหน เริ่มคิดหนัก และตัดสินใจเลือกเอาวันเลือกตั้งที่เร็วที่สุด .. แทนที่จะปล่อยให้เลยเถิดไปถึง “ฤกษ์สุดท้าย” ช่วงเดือนพ.ค.62 ด้วยหวังใจไม่ให้ “ฝ่ายการเมือง - นักเลือกตั้ง” ตั้งตัวกันทัน.
ช.ชฎา
