xs
xsm
sm
md
lg

ลืมอะไรไปรึเปล่า!! “ทักษิณ”ครวญ “12ปี 19 ก.ย.”วันอำนาจหลุดมือ สับรัฐประหาร 2 หน ทำประเทศถดถอย **“อะไร”ทำได้ “ใคร”ทำไม่ได้!! “นักเลือกตั้ง”บ่นระงมคำสั่งคลายล็อก **โยนหินถามทาง!! โผโยกย้าย “บิ๊กพลังงาน”หลุด “ทวารัฐ”พ้น สนพ.

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว



** ลืมอะไรไปรึเปล่า!! “ทักษิณ”ครวญจากแดนไกล “12ปี 19 ก.ย.”วันอำนาจหลุดมือ สับรัฐประหาร 2 หน ทำประเทศถดถอยเป็น“กบน้อยในกะลา”โอดตัวเองต้องพลัดพรากจากครอบครัวที่รัก ไม่ยักจะพูดถึง“ต้นเหตุ”ที่ตัวเองเปิดประตูให้ทหารยึดอำนาจ และยังปลุกปั่น จัดตั้งกองกำลังจนเกิดความสูญเสีย-ประเทศชาติเสียหาย มิใช่หรือ
 ทักษิณ ชินวัตร
เห็นโพสต์อวดใช้ชีวิตดีดี๊ย์ อยู่หลัดๆ .. “นช.แม้ว”ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯก็ไม่ลืม “วาระสำคัญ”แวะมาโพสต์ข้อความเรียกกระแส ซะหน่อย .. หวนระลึกถึงวันสิ้นอำนาจ ถูก คมช. ครบ 1 รอบ 12 ปีเต็ม พรั่งพรูระบายความในใจ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ล่วงหน้า 1 วัน .. ใจความ วนเวียนอยู่กับเรื่องเก่าๆ เปิดหัวให้ทุกคนลบอคติ วางใจให้เป็นกลาง .. ก่อนชี้ให้เห็น “ผลพวง”จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง ในรอบ 12 ปี ว่ามีแต่ “เสียกับเสีย”ทำประเทศถดถอยในทุกด้าน จนเป็น“กบน้อยในกะลา” ..ไม่ลืมอวดตัวด้วยว่า ตัวเองเป็น“นายกฯ ที่เป็นพี่น้องกัน และได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย” ..แต่ก็ยังแวะพูดถึง “ลิ่วล้อ”ด้วยว่า “บางคนต้องถึงกับชีวิต บางคนเจ็บป่วย บางคนติดคุก บางคนถูกกลั่นแกล้งทางธุรกิจ” .. บางช่วงพูดถึงความสูญเสียของตัวเอง ที่ต้องสูญเสียความสุข ความอบอุ่นในครอบครัว ถูกพรากจากกัน .. พร้อมลงท้ายเหมือนคนคิดได้ “ขออโหสิกรรมให้กับทุกคน ที่ให้ร้ายกลั่นแกล้งผมมา ณ ที่นี้ด้วย” ..

อ่านผ่านๆ ก็เกือบจะซาบซึ้งไปกับความในใจของ“อดีตนายกฯหนีคุก”อยู่แล้วเชียว .. แต่พอพิเคราะห์ลึกๆ แล้ว ก็เห็นว่ายังมีประเด็น “ระหว่างบรรทัด”ที่นำพาประเทศมาถึงจุดนี้ วนเวียนอยู่ใน “วงจรอุบาทว์”ไม่รู้จบสิ้น .. ความ“ระหว่างบรรทัด” ที่ว่าก็คือพฤติการณ์ของตัว“ทักษิณ” หรือที่ถูกขนานภายหลังว่า “ระบอบทักษิณ”เอง .. ที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทุจริต คอร์รัปชัน จาบจ้วงสถาบันฯ เมื่อถูกคัดค้าน ต่อต้าน ก็ยัง “ยอมไม่เป็น” จัดตั้ง “กองกำลัง”ปลุกมวลชนฝ่ายตัวเอง มาปะทะกับ “ผู้ชุมนุมฝ่ายตรงข้าม”จนส่อว่าจะเกิด“มิคสัญญี”จนทหารใช้เป็น “ข้ออ้าง”ในการออกมา .. จนอาจพูดได้ว่า “ทักษิณ”เปิดประตูต้อนรับ “คณะรัฐประหาร”และทำให้อำนาจหลุดมือด้วยตัวเอง ไม่สมควรจะโทษใคร หรือโอดโอยว่า ถูกกลั่นแกล้ง กระทั่งอยู่ในสถานะที่จะไปอโหสิให้ใคร .. เช่นเดียวกับบางช่วงบางตอน ที่อุตส่าห์เอ่ยถึงความสูญเสียของ“ลิ่วล้อ”ก็หลงลืมไปว่า “ปัจจัยหลัก”มาจากการปลุกระดมของตัวเอง .. คนไทยจำกันขึ้นใจ กับคำประกาศ “ถ้าเมื่อไหร่ เสียงปืนแตก ทหารยิงประชาชน ผมจะเข้าไปนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพฯทันที " ก่อนเกิดความสูญเสีย เมื่อปี 52-53 .. พลันมาถึงยุค “นอมินีน้องสาว”รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เป็นเพราะ “ความผยอง”ในอำนาจอีกครั้ง เป็นที่มาของ “นิรโทษกรรมล้างผิดสุดซอย” ..จนประชาชนลุกฮือทั้งประเทศ รับกับสภาพการฉ้อฉลของนักการเมืองที่แปรสภาพเป็น “สภาเผด็จการ”แล้วก็ “ซ้ำรอยเดิม”เมื่อถูกต่อต้าน ก็ให้ท้ายฝ่ายตัวเอง จัดตั้ง “กองกำลังติดอาวุธ”มายิงถล่ม จนเกิดความสูญเสีย และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทหาร ออกมาอีกครั้ง .. ถ้าเติม “ระหว่างบรรทัด”เหล่านี้เข้าไป ข้อความซาบซึ้งของ “ทักษิณ”คงจะสมบูรณ์ขึ้น

**“อะไร”ทำได้ “ใคร”ทำไม่ได้!! “นักเลือกตั้ง”บ่นระงมคำสั่งคลายล็อก แต่ “พรรคสุเทพ”ไม่สน เดินสายหาเสียงต่อเนื่อง ปลายสัปดาห์ก่อนขนทัพใหญ่ “ดร.ซินตึ๊ง-ดร.ยะใส-ดร. 5 ใบ”ลงพื้นที่บางแค อ้างชาวบ้านเชิญเอง ล่าสุดเจอ “บก.ลายจุด”แฉระดม “รถแห่”ป่าวประกาศไปทั่วตัวเมือง ชวนร่วมอีเวนต์ ทำนโยบายพรรคกับ“สุเทพ เทือกสุบรรณ”แบบนี้เข้าข่าย “หาเสียง”หรือไม่ ประการใด “คสช.-กกต.”ควรตีกรอบให้ชัด
 สุเทพ เทือกสุบรรณ
เรียงหน้ากันออกมา .. ฟีดแบ็ก “ฝ่ายการเมือง”ที่ดูเหมือนจะไม่ปลื้มกับคำสั่ง “คลายล็อกการเมือง”ของ คสช.เท่าไร .. แม้จะ“ปลดพันธนาการ”ให้หลายเรื่อง เช่น การประชุมพรรค แก้ไขขัอบังคับพรรค เลือกหัวหน้าพรรค-กรรมการบริหารพรรคใหม่ ตลอดจนการดำเนินการหาสมาชิกเพิ่มเติม .. แต่ก็ยัง “ล่ามโซ่”ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคำว่า“หาเสียง” โดยเฉพาะการขยับเคลื่อนไหวในโซเชียลฯ ที่ห้ามเด็ดขาด .. กับโค้ดในคำสั่งที่ว่า “เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองติดต่อสื่อสารกับสมาชิกพรรคผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ต้องไม่ใช่ลักษณะการหาเสียง แต่ กกต.และ คสช. สามารถกำหนดลักษณะต้องห้ามการประชาสัมพันธ์ที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย และสั่งให้มีการระงับได้” ..จึงได้เห็น “ฝ่ายการเมือง - นักเลือกตั้ง”ดาหน้ากันออกมาสาปส่ง “คำสั่งคลายล็อก”ไม่เว้นแต่ละวัน .. ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหญ่ “เพื่อไทย - ประชาธิปัตย์”หรือพรรคเอสเอ็มอี อย่าง “ชาติไทยพัฒนา-ชาติพัฒนา”ก็โวยวายไม่แพ้กัน .. จะมีก็แต่ฝักฝ่ายที่อิงกับ “พรรคทหาร - พรรคคสช.”แน่นอนแล้ว อย่าง “กลุ่มสามมิตร - พรรคพลังชล”ที่ชมไม่ขาดปาก ที่ คสช. เปิดโอกาสให้นักการเมืองขยับตัวได้มากขึ้น .. จะมีที่ไม่หือ ไม่อือ ทำมึนๆไปอย่าง พรรครวมพลังประชาชาติไทย ภายใต้การนำของ “กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรค ..
สุริยะใส กตะศิลา  และ  สมบัติ บุญงามอนงค์
ก็ในช่วงที่คำสั่งคลายล็อกกำลังออก “สุเทพ”ก็ชิงจังหวะเปิด "โรงเรียนการเมืองรวมพลังประชาชาติไทย" ที่ดูจะหมิ่นเหม่ ขัดคำสั่ง คสช. อยู่ไม่น้อย .. ไม่เท่านั้นหลัง “คลายล็อก”แล้ว “พ่อกำนัน”ก็ยังยกทัพใหญ่ ทั้ง ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ว่าที่ เลขาธิการพรรค รปช. “ดร.ซินตึ๊ง”เอนก เหล่าธรรมทัศน์ “ดร.ยะใส”สุริยะใส กตะศิลา “ดร. 5 ใบ”จักษ์ พันธ์ชูเพชร ไปลงพื้นที่แถวฝั่งธนฯ กทม. .. เห็นไปปักหลักกันที่ ร้านส้มตำย่านบางแค อ้างว่าเป็นการ “รับฟังปัญหาของพี่น้องชาวฝั่งธนบุรี”ตาม “คำเชิญ”ของแกนนำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ .. เป็น “ข้ออ้าง”ที่หากไม่ “ไร้เดียงสา”มากเกินไป ก็ดูรู้ว่า ใครเชิญใคร หรือใครไปหาใคร .. เป็นความเคลื่อนไหวที่ดูจะไม่ฟังอีร้า ค่าอีรม และนึกไปว่าถวายตัวเป็น “นั่งร้าน คสช.”แล้วจะทำอะไรก็ได้ .. ล่าสุดยังโดน “บก.ลายจุด”สมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ก่อตั้งพรรคเกรียน โพสต์ภาพผ่านทวิตเตอร์ ถึง “อภิสิทธิ์พิเศษ”ของ “พรรคสุเทพ” ..เมื่อปรากฏว่า ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ขณะนี้มีการรดม “รถแห่”หลายสิบคัน ติดป้ายพร้อมป่าวประกาศ เชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมอีเวนต์ ราวกับมีคอนเสิร์ตใหญ่ ของนักร้องดัง .. โดยมีข้อความระบุว่า “กลุ่มประชาภิวัฒน์ และชาวพิษณุโลก ขอเชิญทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็น ในการจัดทำนโยบายพรรค” .. ถัดมาด้านล่างเป็น “พาดหัวไม้”ใหญ่โตว่า “พบกับ ท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ” ณ โรงแรมเทพนคร 20 ก.ย.นี้ เวลา 13.00 น. .. น่าสังเกตว่า ข้อความบน “รถแห่”ไม่ปรากฏชื่อ “พรรครวมพลังประชาชาติไทย”ที่น่าจะเป็น “เทคนิก”เลี่ยงถูกตีความว่า ขัดคำสั่ง คสช. หรือประกาศ กกต. .. หากแต่ก็ยังมีหลุดคำว่า “นโยบายพรรค”ออกมา อีกทั้งรับรู้สถานะกันดีว่า “กำนันเทือก”แม้ไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีความสำคัญเหนือ พรรครปช. เสียอีก .. แบบนี้ผิดถูกอย่างไร ต้องวาน “บิ๊ก คสช.”หรือ กกต.ชี้แนะ เผื่อพรรคการเมือง เขาจะได้ทำบ้าง .. อย่าปล่อยให้มีมาตรฐานแบบ “อะไร”ทำได้ “ใคร” ทำไม่ได้ เลยนะท่านนะ

**โยนหินถามทาง!! โผโยกย้าย “บิ๊กพลังงาน”หลุด “ทวารัฐ”พ้น สนพ. เข้ากรุผู้ตรวจฯ หลังกลายเป็น “บ่อน้ำมัน”โดนกระหน่ำ ขุดเจาะปมไม่ชอบมาพากลในกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เสียดายสรุปผลสอบ 21 เม.ย. ตีกรอบแค่โครงการปี 62 ถ้าคุ้ยย้อนไป 4-5 ปีก่อน ที่หากินเป็นล่ำเป็นสัน จนสังคมเขารู้กันทั่วว่า “เงินทอน-ใต้โต๊ะ”ว่อนไปทั่ว งานนี้เก้าอี้ “บางคน”คงไม่หลุดอย่างเดียว
ทวารัฐ สูตะบุตร
ฮือฮากันแต่เช้าตรู่ .. กับข่าววาระโยกย้าย ข้าราชการระดับสูงของ “กระทรวงพลังงาน”ที่เตรียมเสนอเป็น “วาระจร”เข้าที่ประชุม ครม.สัญจร ที่ “เมืองมะขามหวาน”จ.เพชรบูรณ์ .. มีโผแนบเสร็จสรรพว่า "ทวารัฐ สูตะบุตร" ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และ ประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ไปเป็น ผู้ตรวจราชการ กระทรวงพลังงาน .. โดยมี ยงยุทธ จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดี พพ. และ เปรมฤทัย วินัยแพทย์ ผู้ตรวจราชการ ไปเป็นอธิบดีกรมเชื้อเพลิง .. ขณะที่เก้าอี้ ผอ.สนพ. จะเป็นของ ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ผู้ตรวจราชการ ส่วน สราวุธ แก้วตาทิพย์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงฯ ได้ขึ้นเป็นอธิบดีกรมเชื้อเพลิงฯ .. แต่พอถึงเวลาจริง ปรากฏว่าเป็น “ข่าวปล่อย”หลัง ธรรมยศ ศรีช่วย ปลัดกระทรวงพลังงาน คนปัจจุบัน บอกสั้นๆ ว่า “ผมยังไม่เคยเห็นเรื่อง”และมีการคาดการณ์กันว่า จะมีการเสนอเป็น “วาระปกติ”เข้าสู่ที่ประชุมสัปดาห์หน้า .. “โผหลุด”ที่แม้จะยังไม่เป็นทางการ ก็ว่ากันว่า เป็นไป “ตามโผ”โดยทุกสาย โฟกัสไปที่ชื่อ “ดร.โจ๊ะ”ทวารัฐ สูตะบุตร ผอ.สนพ. .. ที่ช่วงหลังขาเก้าอี้ไม่แข็งแรง กลายเป็น “บ่อน้ำมัน”โดนกระหน่ำขุดเจาะ จากปมความไม่ชอบมาพากล การอนุมัติโครงการในกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน .. ที่ขณะนี้ คณะกรรมการชุดที่ “บิ๊กจิน”พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ ในฐานะประธานบอร์ดกองทุนอนุรักษ์พลังานฯ ตั้งขึ้น กำลังทำงานหนัก และนัดสรุปผลในวันที่ 21 ก.ย.นี้ ..
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง  และ  ธรรมยศ ศรีช่วย
ดีนะที่ “เงื่อนไข”ของคณะกรรมการชุดนี้ ตีกรอบไว้แค่ “พิรุธ”ของการคัดเลือกคุณสมบัติ ของโครงการที่ยื่นขอใช้งบ ปี 62 ที่ความผิดอาจจะยังไม่สำเร็จ เพราะการใช้งบ ยังไม่เกิดขึ้นจริงๆ .. ถ้าจะให้ “รู้เช่นเห็นชาติ”ต้องย้อนไปดูเลย ว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา สังคมเขารับรู้กันว่า “เงินทอน-ใต้โต๊ะ”ที่ต้องจ่ายกันถึง 20-30% ใช้ลูกไม้ตื้นๆ ในการใช้ “สถาบันการศึกษา”เป็นตัวออกหน้า แล้วไปจ่ายเงินกัน“หลังฉาก” .. ตามข้อมูลที่ “สื่อหลายสำนัก”เปิดโปงออกมา ทำกัน “เป็นล่ำเป็นสัน”เป็นขบวนการมาตั้ง 4-5 ปี ที่ผ่านมา จนน่าแปลกใจไม่น้อยว่า “รัฐบาลคสช.” ที่ชู “วาระปราบโกง”ใหญ่โต ทำไม ไม่สั่งให้สอบตลอดเส้นทาง ของกองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ ให้ครบวงจรไปเลย .. ก็หลักฐาน ทนโท่ ทั้งรูปถ่าย คนระดับรองอธิบดี” อยู่กับ “กองเงิน”ต่อหน้าต่อตา รวมทั้งพฤติกรรม “เวียนเทียน”หารับประทาน “งบประชาสัมพันธ์”ที่จ่ายกันปีละหลายร้อยล้าน ในกลุ่มบริษัทเอามาจ้างกันเองแล้ว แล้วใช้ “สังคมโซเชียล”ไปปั้นเพจเฟซบุ๊ก สารพัดชื่อไว้เป็น “องครักษ์”คอยมากระแนะ กระแหน ปกป้อง “คนผิด”กลับไม่มีการตรวจสอบ .. ที่ว่ามาก็เพราะหวังดี ไม่อยากให้ “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดนเหมารวม ว่ารู้เห็น จนปล่อยให้มีรายการ “มวยล้มต้มคนดู”..ยิ่งมี “ข่าวปล่อย”เรื่องการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงพลังงานด้วย เหมือนกับเป็นการ “โยนหินถามทาง” ว่า จะโดนโยกย้าย ไม่อยากทำให้ “คนผิด”เป็น “คนถูก”และไปรังแก “คนถูก”เป็น "คนผิด"



ช.ชฎา


กำลังโหลดความคิดเห็น