“ทรงกลด” ส่งคนเปลี่ยนชื่อ 8 กก.บห.ที่ลาออก เชื่อทำได้ ไม่ส่งผลจดจัดตั้งพรรคพลังชาติไทย และจำนวน กก.บห.ที่เหลือเป็นไปตามข้อบังคับพรรค “กองหนุน 8” แจงลาออกไม่ใช่ถูกดูด อ้างทำงานไม่ราบรื่น อุดมการณ์ไม่ตรงกัน แย้มคุยพลังประชารัฐ
วันนี้ (17 ก.ย.) นายโชติวุฒิ เขียนนิลศิริ เลขาธิการพรรคพลังชาติไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือในนามของ พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรค เพื่อขอถอนรายชื่อ 8 กรรมการบริหารพรรคที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยระบุว่า การลาออกของทั้ง 8 คน ไม่ส่งผลกระทบต่อการขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรค เพราะได้แจ้งให้นายทะเบียนทราบ และเห็นว่า ทั้ง 8 คน ไม่ใช่ตำแหน่งหลัก เมื่อลาออกก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ประกอบกับข้อบังคับพรรคกำหนดว่ามีการกรรมการบริหารพรรคไม่เกิน 30 คน การเลือกมา 28 คน แล้วลาออก 8 คน ก็ยังถือว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ ไม่น้อยกว่า 15 คน
นายโชติวุฒิ กล่าวอีกว่า เมื่อทั้ง 8 คน มีอุดมการณ์และแนวคิดไม่ตรงกันทางพรรคก็พร้อมให้ถอนชื่อออก โดยหลังจากที่เป็นข่าวออกไปก็ได้มีพี่น้องประชาชน โทรศัพท์มาให้กำลังใจ ซึ่ง พล.ต.ทรงกลด ก็ยืนยันที่จะเดินหน้าสร้างพรรคพลังชาติไทย เพื่อทำงานให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน กรรมการบริหารพรรค จำนวน 8 คน ที่ลาออก ประกอบด้วย นายสุรพัฒน์ หมื่นศรีรัชต์ นายมนตรี เฉียบแหลม นายตรีเพชร ศรีกระภา นายพีระ ศรีศศิวงศ์ นายกวีวัฒน์ คงพงศา นายธีรทัต สรรเสริญ นางประภาพรรณ ฝีมือสาร และ นายพศิน เจือจันทร์พิพัฒน์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือ จำนวน 6 คน นายสุรพัฒน์ กล่าวว่า ทั้ง 8 คน ถอนรายชื่อออกจากพรรค เนื่องจากการทำงานไม่ราบรื่น ล้ำเส้น ซ้ำซ้อน พวกเราทำงานได้ยาก ขณะที่จัดประชุมพรรคดำเนินการมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการจดแจ้งจัดตั้งเป็นพรรคการเมือง จึงเป็น 2 เหตุผลหลักที่พวกเรา 8 คน ในนาม “กองหนุน 8” มายื่นขอถอนชื่อ ซึ่งไม่ทำให้พรรคเสียหาย เพราะขณะนี้ยังไม่ได้รับจดแจ้ง กรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้ถูกรับรอง ผู้ถอนชื่อสามารถใช้สิทธิส่วนบุคคลได้ ก่อนที่พรรคการเมืองจะได้รับการจดแจ้ง
นายสุรพัฒน์ กล่าวว่า พวกตนทั้ง 8 คน เคียงบ่าเคียงไหล่ ในการทำงาน ประสานงาน หาสมาชิกพรรค การที่ลาออกจากพรรคครั้งนี้ นอกจากพวกตน 8 คนแล้ว ยังมีว่า ผู้สมัคร ส.ส. 50 เขต ที่เป็นอดีต ส.ส. ส.จ. นายก อบต. และคนหน้าใหม่ที่อยากเข้ามาทำงานการเมือง ก็จะลาออกไปด้วย โดยขณะนี้ได้รับการประสานงานจาก 2 พรรคการเมือง ที่จะรับเข้าเป็นสมาชิกพรรค โดยไม่ขอเปิดเผยว่าพรรคใด บอกได้แต่เพียงว่า พรรคหนึ่งเป็นพรรคที่จะมีการประชุมใหญ่ในปลายเดือนนี้ ส่วนอีกพรรคเป็นพรรคที่ข้าราชการและครูให้การสนับสนุน อย่างไรก็ตาม หาก 2 พรรคใหม่ไม่รับเข้าสังกัดก็จะไม่กลับมาพรรคพลังชาติไทย และไม่คิดตั้งพรรคการเมืองใหม่
ทั้งนี้ นายสุรพัฒน์ ปฏิเสธว่า ทั้ง 8 คนที่ลาออก ไม่ได้ถูกพลังดูด เพราะกำลังเงิน เนื่องจากเราทำการเมืองให้กับประชาชนอย่างจริงจัง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ใช่พรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ที่จะย้ายไปสังกัด นายสุรพัฒน์ ไม่ปฏิเสธ อ้างว่า ไม่ขอพูดในขณะนี้ เพราะเกรงจะเป็นการกดดันผู้ใหญ่ที่ได้มีการพูดคุยติดต่อกันไว้ เนื่องจากมีเรื่องของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่ยังทับซ้อนกันอยู่ ขอให้รอให้ลงตัวก่อน
ด้าน นายมนตรี กล่าวว่าชี้แจงว่า ทั้ง 8 คนลาออกก่อน ไม่ใช่มติของพรรคที่ให้พวกเราพิจารณาตัวเอง เพื่อลาออก ตามที่โฆษกพรรคพลังชาติไทยระบุ เราลาออกเองตั้งแต่ต้นเดือน การที่พรรคยังไม่ได้รับการจดแจ้ง จึงยังประชุมพรรคไม่ได้ แล้วจะมีมติให้พวกเราพิจารณาตัวเองได้อย่างไร เราได้เช็กกับทาง กกต.แล้ว หลังจากนี้ ต้องเตรียมเอกสารใหม่ที่ไม่มีชื่อพวกเรา 8 คน เป็นกรรมการบริหารพรรค การลาออกของพรรค เราจึงถือว่าเป็นการยุติบทบาทกับพรรคพลังชาติไทยด้วยดี
