“กฤษฎา” ขู่ฟันวินัย “บิ๊กเกษตร” หลังพบข้อเท็จจริงดองหนังสือ “ส่วนราชการในสังกัด” หน้าห้อง หลังภาคประชาชนยื่น รัฐบาลประกาศให้ “ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ” ย้ำ ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ยันส่วนตัวลงนามไม่เคยเกิน 48 ชม. เวียนหนังสือ “ปลัด-อธิบดี” ติดตามขั้นตอนเสนอรัฐมนตรี ปูด! มีส่วนราชการในสังกัดบางแห่ง “เกียร์ว่าง” ทำราชการสียหาย พบมี จนท.หน่วยงานอื่น-ประชาชน มาติดตามผู้รับผิดชอบโดยตรง แต่ปรากฏ จนท.หลายคนมักปฏิเสธ ไม่ชี้แจง แถมยังอ้างเรื่องยังอยู่ในระหว่างรอรัฐมนตรีลงนาม
วันนี้ (16 ก.ย.) มีรายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ภายหลังมีกระแสข่าวว่า หนังสือข้อเสนอของภาคประชาชน ที่เรียกร้องรัฐบาลประกาศให้ “ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ” ถูกดองอยู่กับ “ลูกน้องคนสนิทหน้าห้อง” ตั้งเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านั้นนั้น นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประกาศเป็นโยบายว่า จะสนับสนุนเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยกรมประมง ประกาศให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ โดยนำเสนอ ครม.พิจารณาเรื่องนี้ในเดือน ธ.ค.นี้ เป็นการอนุรักษ์ปลากัดให้อยู่คู่บ้านเมืองไทยอย่างยั่งยืน และขับเคลื่อนการพัฒนาสายพันธุ์ปลากัด ให้อยู่คู่บ้านเรือนคนไทย คาดว่าจะเกิดการต่อยอดพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยมีการสร้างนวัตกรรมสินค้าและบริการ ต่อยอดปลากัดเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น
ล่าสุด นายกฤษฎา มีหนังสือสั่งการด่วนที่สุดให้ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ อธิบดี หรือผู้ดำรงตำแหน่งเทียบเท่าและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจรวมทั้งองค์การมหาชนในสังกัด กษ.ทุกหน่วย กำชับข้าราชการในสังกัดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเรื่องแนวทางการเสนอหนังสือราชการให้รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯลงนาม โดยตนได้มอบแนวทางตั้งแต่มาดำรงตำแหน่งในเดือน ธ.ค.2560 ได้กำหนดไว้แล้วให้ผู้บริหารหรือผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยงานให้ความสนใจเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะขั้นตอนการเสนอหนังสือราชการให้รัฐมนตรีฯลงนามแจ้งส่วนราชการหรือเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาหรือเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนหรืออยู่ในความสนใจของประชาชนต้องให้ความสนใจเป็นกรณีพิเศษ ซี่งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบถือเรื่องมาพบและชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสาระของเรื่องเพื่อให้รัฐมนตรีสามารถลงนามได้ทันทีทั้งในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ก็ได้ทุกโอกาส และเน้นย้ำเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนให้ความสำคัญอันดับแรก
มีรายงานว่าด้วยว่า ที่ผ่านมา นายกฤษฎา ระบุว่า ได้ลงนามในหนังสือราชการทุกฉบับอย่างช้าที่สุดไม่เคยเกิน 48 ชั่วโมง นับแต่มีการเสนอเรื่อง จึงไม่มีเรื่องค้างการพิจารณาลงนามที่ห้องรัฐมนตรีเป็นเวลานานกว่าสัปดาห์หรือเป็นเดือนแต่อย่างใด พร้อมกับดำเนินการตามระเบียบกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด
“ขณะนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าปัจจุบัน มีส่วนราชการในสังกัด กษ.บางแห่งไม่ถือปฎิบัติตามแนวทางดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการหรือบางครั้งเมื่อมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ หรือประชาชนมาติดตามเรื่องกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโดยตรงปรากฏว่าเจ้าหน้าที่หลายคนก็มักจะปฏิเสธไม่ชี้แจงความเป็นมาของเรื่องว่าอยู่ในขั้นตอนใดแต่มักจะแจ้งว่าเรื่องยังอยู่ในระหว่างรอรัฐมนตรีลงนาม ทั้งนี้หากพบว่าข้าราชการรายใดหรือหน่วยงานใดในสังกัดกระทรวงเกษตรฯไม่ปฎิบัติจนเกิดความเสียหายแก่ทางราชการและหรือประชาชนให้ผู้บังคับหน่วยสั่งสอบสวนและลงโทษทางวินัยทุกกรณีด้วย” รายงานข่าวระบุ
มีรายงานว่า เมื่อต้นเดือน ส.ค. ผู้ใช้โซเชียลมีเดียเปิดแคมเปญล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ Change.org เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหกน้า คสช. ประกาศให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ โดยระบุรายละเอียดว่า เนื่องจาก “ปลากัด” เป็นสัตว์น้ำที่คนทั่วโลกต่างรู้จักกันในนาม Siamese Fighting Fish หรือ Siamese Betta ซึ่งปลากัดเองมีลักษณะเฉพาะที่สวยงาม และมีประวัติศาสตร์อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และคนไทยนิยมเลี้ยงมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 หากมีการประกาศตามข้อเรียกร้องจะเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจซึ่งปัจจุบันเกษตรกรไทยได้ส่งออกปลากัดไปจำหน่ายยังต่างประเทศมูลค่าปีละนับพันลัานบาทอีกด้วย ล่าสุดมีผู้เข้าชื่อสนับสนุนแล้วกว่า 10,000 ราย
“มีหนังสือถึง นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายนพพร บุญแก้ว ผู้อำนวยการ สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำหรับการรับฟังข้อเรียกร้องของประชาชน พิจารณาทบทวนข้อเสนอเพื่อประกาศให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติอีกครั้ง เราจะรอฟังข่าวดีที่ทำให้คนไทยมีความสุข เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติประกาศให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติในลำดับต่อไป” เปิดแคมเปญล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ Change.org ระบุ
มีรายงานว่า เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ซึ่งมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้ปฏิเสธข้อเสนอของกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยไม่ประกาศให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติ ด้วยเหตุผลว่า ข้อเสนอดังกล่าวนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับมิติเรื่องเอกลักษณ์ของชาติแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อ 12 ต.ค.2560 พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการประกาศให้ปลากัดเป็นสัตว์น้ำประจำชาติไทย โดยจะนำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปลากัดไทยเป็นปลากัดที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทยมายาวนาน ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาขณะเดียวกัน คนไทยนิยมเลี้ยงปลากัดกันอย่างกว้างขวาง และต่อมากรมประมงได้มียุทธศาสตร์ปลาสวยงามตั้งแต่ พ.ศ. 2556 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ด้วยการสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาเลี้ยงปลากัดกันอย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการจำหน่ายปลากัดผ่านออนไลน์ไปทั่วโลก พร้อมปรับเปลี่ยนเกษตรกรสู่การเป็นผู้ประกอบการเลี้ยงปลากัดเพื่อจำหน่าย ซึ่งมีมูลค่าการจำหน่ายในแวดวงการค้าปลากัดกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการเชื่อมโยงภาคการเกษตร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการค้าอย่างครบวงจร
ขณะเดียวกัน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เคยมอบนโยบายแก่กรมประมง ว่า “ทุกอย่างต้องนำไปสู่การต่อยอดเพื่อพัฒนาตนเอง อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC” ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกรมประมงที่ได้วางยุทธศาสตร์ ด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดังเช่น ปลากัดสีสวยสดดั่งธงชาติไทยที่ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก โดยบริษัท Apple ได้ใช้เป็น Wallpaper โชว์ใน Iphone 6s และ Iphone 6s Plus ด้วยฝีมือการถ่ายภาพโดยช่างภาพคนไทย ส่งผลให้เกิดการขยายผลต่อธุรกิจการซื้อขายปลากัดไทยจากฟาร์มต่างๆ ในประเทศไทยไปยังลูกค้าชาวต่างชาติครอบคลุมไปทั่วโลก