ข่าวปนคน คนปนข่าว
**แรงบันดาลใจ (อีกแล้ว)!! คดีลอกศาลเจ้าญี่ปุ่นยังไม่เคลียร์ “เสี่ยด้วง”โดนแฉอีก ก๊อปปี้กระทั่ง “วิดีโอพรีเซนต์เตชั่น”ที่ดันไป “ละม้ายคล้ายคลึง” กับวิดีโอพรีเซนต์ของ “สนามบินอิสตันบูล”ทั้งมุมกล้อง-ฟ้อนต์ตัวอักษร กระทั่งดนตรีประกอบ อย่างกับมาจากอัลบั้มเดียวกัน วิจารณ์หึ่งโครงสร้าง 2 สนามบินเหมือน “ฝาแฝด”แค่เปลี่ยนวัสดุเป็น“ไม้”ก็เหมือนกันเด๊ะ.
"ผมไม่ได้ลอกใคร" .. คำแก้ต่างของ “เสี่ยด้วง”ดวงฤทธิ์ บุนนาค ต่อข้อครหา กรณีชนะการออกแบบเทอร์มินัล 2 สุวรรณภูมิ แบบ “ค้านสายตา” .. นอกเหนือจาก “ส้มหล่น”ทับเท้า เมื่อผู้ชนะอันดับ 1 โดนปรับ “แพ้ฟาวล์”แล้วกลุ่มบริษัทของ “เสี่ยด้วง”ที่เข้าป้ายที่ 2 คว้างานมูลค่า 330 ล้านบาทไปหน้าตาเฉย .. แล้วยังถูกวิจารณ์ว่าไป “ลอก”แบบจากพิพิธภัณฑ์สะพานไม้ Yusuharaในประเทศญี่ปุ่น มาแทบทั้งดุ้น ตลอดจนมีกลิ่นอายถาปัตยกรรมของจีน-ญี่ปุ่น จนได้ “เทอร์มินอลศาลเจ้า”มาทดแทน “ความเป็นไทย”ทั้งที่เป็นสถานที่สำคัญ ประตูบานแรกของประเทศ .. จน "ทอท." ที่เคยช่วยยันว่าเหมาะสมทุกประการ ต้องจำใจเลื่อนเซ็นสัญญากับ “กลุ่มดวงฤทธิ์”รอฟังคำตัดสินจาก “ศาลปกครอง”จะคุ้มครองหรือไม่คุ้มครอง ตามที่ “ผู้ชนะที่ 1”ไปร้องไว้ .. แต่ระหว่างนี้ก็ยังไม่จบ เมื่อ “เทอร์มินอลศาลเจ้า”เจอชำแหละเละอย่างต่อเนื่อง ทั้งวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ที่แสดงความเป็นห่วงเรื่องการใช้ "ไม้" เป็น “องค์ประกอบสำคัญ”.. โดยเฉพาะในสถานที่ที่ระบบรักษาความปลอดภัยด้านต่างๆ ต้องเข้มงวด แต่การใช้ “ไม้”ติดไฟง่ายมากมายก่ายกองผิดหลักปฏิบัติที่ไม่นำวัสดุติดไฟมาก่อสร้างอาคารสาธารณะอย่างสิ้นเชิง .. ตลอดจนความเป็นห่วงจากหลายฝ่าย ที่ “ช่องไม้”น่าจะเป็น “ทำเลทอง”ของเหล่า “นกกระจิบ-นกกระจอก”ของแสลงของ “นกยักษ์”กลายเป็นอุปสรรคทางการบินไปอีก ..
ล่าสุด งามหน้าอีกครั้ง เมื่อมีคนสังเกตว่า “วิดีโอพรีเซนต์เตชั่น”ของ “กลุ่มดวงฤทธิ์”ไป “ละม้ายคล้ายคลึง”กับวิดีโอพรีเซนต์ของ “สนามบินอิสตันบูล” ทั้งมุมกล้อง-ฟ้อนต์ตัวอักษร กระทั่งดนตรีประกอบ ราวกับมาจากอัลบั้มเดียวกัน .. อีกทั้ง “โครงสร้างภายใน”ของแบบ 2 สนามบิน ที่ห่างกันครึ่งโลก ยังเหมือนราวกับเป็น “สนามบินฝาแฝด” ..มองแบบ “โลกสวย”อาจจะมี “แรงบันดาลใจ”เดียวกัน แต่ก็พูดกันถึงขนาดว่า แค่เปลี่ยนวัสดุเป็น “ไม้”ก็เหมือนกันเด๊ะๆ
**ระวังจะเสียงานใหญ่!! ทุกภาคส่วนเด้งรับ “เลือกตั้ง 2562”แต่จะเร็ว-ช้ารอแค่ “ขุนทหาร”พร้อมหรือยัง หลังคะแนนนิยม คสช. ยังอยู่แดนลบ “ผลโพล”ช่วงหลังเจอ “นักเลือกตั้ง”กระชับพื้นที่ โหนกระแส “เซเลป-ไอดอล”มาหิ้วปีกยังไม่กระเตื้อง แถม“วงใน คสช.”ติดกับดัก “อำนาจ” จนมั่นใจเกินเหตุ เดินเกมกันสะเปะสะปะ ทำแผนปั่นป่วน สองปมใหญ่ที่ “ลุงตู่”ต้องรีบขันนอต ก่อนเข้าสมรภูมิเลือกตั้ง
เขียวทั้งกระดาน .. ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดวันก่อนปิดช่วงบ่าย ที่1,717.96 จุด เพิ่มขึ้น 38.57 จุด หลัง 2 กฎหมายลูกประกาศ ลงราชกิจจานุเบกษา .. หนีไม่พ้นถูกตีความเป็นผลพวงมาจากความชัดเจนว่า การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นตามโรดแมป ช่วงต้นปี 2562 อย่างแน่นอน ผนวกกับเสียงของ “ป๋าป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่ออกมาย้ำว่า พูดมาหลายทีแล้วว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายใน วันที่ 24 ก.พ. 62 .. ทำเอากาปฏิทินกันแทบไม่ทัน ก็ระดับ “พี่ใหญ่”ออกปาก “แทงเต็ง ไม่มีกั๊ก”ขนาดนี้ .. รู้กันดีว่าเลือกตั้งครั้งหน้า “เดิมพันสูงลิ่ว”ว่าอำนาจจะอยู่ในมือใคร แม้ว่าทุกอย่างจะวางไว้ให้ “ขุนทหาร”ได้เปรียบทุกประตูก็ตาม แต่หากพินิจตาม “ผลโพล”ช่วงหลัง ต้องบอกว่า“วางใจไม่ได้” .. แม้ตลอด 4-5 ปีมานี้ ก็ทำทุกวิถีทาง ทั้งบอนไซ ทั้งคุมกำเนิด “นักเลือกตั้ง - นักการเมือง”จนกระดิกไม่ออกก็ตาม .. ถึงนาทีนี้ก็พูดได้อย่างเดียวว่า เลือกตั้งน่ะมีแน่ แต่ “เร็วหรือช้า”ขึ้นอยู่กับว่า ทุกอย่างต้อง “เมกชัวร์”ความเสี่ยงน้อยที่สุด .. เพราะขณะนี้เชื่อว่า คสช. ก็รู้ดีถึงปัญหาความนิยมของตัวเอง แม้ว่าผลโพล หลายสำนักยังชี้ตรงกันว่า “นายกฯประยุทธ์”ยังมีเรตติ้งเหนือกว่าคู่เทียบคนอื่นๆ หากแต่ในระยะหลัง คะแนนเริ่มถูก “ผู้ท้าชิง”กระชับพื้นที่ ร่นระยะห่างเข้ามาเรื่อยๆ .. จากที่ทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น กลับเหลือ “แต้มต่อ”ที่ดูจะน้อยเกินไปสำหรับคนที่ “หาเสียงฝ่ายเดียว”ตลอด 4 ปีมานี้ ..
ประเด็น “เรตติ้งหัวปักพื้น”ก็เป็นโจทย์ที่ คสช. พยายามแก้มาอย่างต่อเนื่อง หากแต่ก็ดูเหมือน “เกาไม่ถูกที่คัน”เท่าที่ควร อย่างกรณีการกวาดต้อน “เซเลป-ดารา - นักร้อง”มาเข้าพบ “ลุงตู่”ถึงในทำเนียบฯ รายแล้วรายเล่า .. กระทั่งกลุ่มไอดอลสาว ศิลปิน AKB48 จากแดนปลาดิบ ประเทศญี่ปุ่น ที่แวะมาถ่ายรายการในไทย ยังต้องจัดคิว ให้เข้ามาให้ “โอตู่”จับมือ 8 วินาที ตามธรรมเนียมด้วย .. ดูเหมือนจะพยายาม “โหนกระแส” จนกลายเป็นแก้ปัญหา “แบบฉาบฉวย”มากกว่าจะใช้ “แก่น”สาระ ของผลงานรัฐบาลมาเป็นตัวขับเคลื่อน .. “ความฉาบฉวย”ที่ว่ายังรวมไปถึงการขยับจัดทัพทางการเมืองของ “เครือข่ายทหาร”อีกด้วย ดูได้จาก “พรรคทหาร”ที่กำลังปลุกปั้นขึ้นมา ก็ดูไม่คึกคักเหมือนช่วงแรก .. พิเคราะห์กันว่า เป็นเพราะ “บิ๊ก คสช.”โดดเข้ามา “เสียบยอด”ขอคุมทุกดีล ที่เกี่ยวกับ “พรรคทหาร-กลุ่มสามมิตร”อย่างเบ็ดเสร็จ เป็นจุดพลิกผันทำให้กระแส “พลังดูด”ที่เคยวูบวาบ เริ่มนิ่งไปซะดื้อๆ .. นอกจากการมา “ปาดหน้าเค้ก”จนแนวรบด้าน “สามมิตร-ประชารัฐ”เริ่มปั่นป่วน ยังเดินเกมกันสะเปะ สะปะ “บิ๊กแต่ละคน” ในระดับ “วงใน คสช.”เลือกเล่นเกมหลายกระดาน แตะมือนักการเมืองมุ้งอื่น ไปปั้นฐานเสียง-ล่าหัวนักเลือกตั้ง สร้างขุมกำลังตัวเอง จนกลายเป็นตบตีแย่งชิงพื้นที่กันเอง .. การก้าวย่างของ “วงใน คสช.”ก็มาจากอาการติดกับดัก “อำนาจ” จน “มั่นใจเกินเหตุ”และพยายามเข้าไป “ควบคุมเบ็ดเสร็จ”ในทุกด้าน แต่ทำไปทำมากลับเป็นจุดอ่อนบั่นทอนกำลังตัวเองมากกว่า .. กลายเป็น “โจทย์หิน”ของ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช.ที่ถือ “เดิมพัน” ต้องชนะเท่านั้น เข้าคูหาเลือกตั้ง .. ดังนั้นหากต้องการ “ชนะเดิมพัน”ที่ว่า นอกจากต้องตุนคะแนน กู้เรตติ้งให้อยู่ในระนาบเกมือนสมัยเป็น “ฮีโร่ตู่”เข้ามาใหม่ๆ แล้ว ยังต้องรีบจัดระเบียบ “วงใน คสช.”ให้ขยับเคลื่อนไหวในทางหนุนส่ง มากกว่าเป็นตัวถ่วงอย่างเช่นทุกวัน.
** ศึกในค่ายสีฟ้า!! “นายหัวชวน” เมินรีเทิร์นเก้าอี้หัวหน้า ปชป.ส่งสัญญาณหนุน “ศิษย์มาร์ค” สุดตัว งานนี้ “อู๊ดด้า” คงต้องหลีก เลี่ยงตัดแต้มกันเอง “หมอวรงค์” ตีฝีปากแทงกั๊ก ไม่สนคำปรามาส “ไม่ตักน้ำใส่กระโหลก” สอดรับข่าว “กำนันเทือก” เป็นแบ็คให้ “เสี่ยจ้อน” ติดปม “คนนอก” ต้องใช้เสียง 40 อดีต ส.ส.รับรอง ถ้าจูนกับ “กำนันเทือก” ติดก็เรื่องใหญ่.
คลี่คลายไปเปลาะ .. หลัง ชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ 2 สมัย ประกาศชัดว่าจะไม่กลับไปเป็น “หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์”อีกอย่างแน่นอน .. แม้ก่อนหน้าจะมีเสียงเชียร์ แหลมมาจากรุ่นเก๋ากึ๊กอย่าง “หมอผี”สัมพันธ์ ทองสมัคร อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช หลายสมัย ที่เสนอให้ “นายหัวชวน”มาถือหางเสือ เพื่อความสามัคคีในพรรคก็ตาม .. การประกาศความชัดเจนของ “นายหัวชวน”ตั้งแต่หัววัน ถือว่าเป็น “ลูกเก๋า”ที่ลดแรงกระเพื่อมภายใน “ค่ายสีฟ้า” .. แล้วยังเป็นการส่งสัญญาณสนับสนุน “ศิษย์เลิฟ”อย่าง “พ่อมาร์ค”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เหมือนเดิม .. เข้าอิหรอบนี้ ก็น่าจะต้องตัดชื่อ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ศิษย์ก้นกุฏิของ “นายหัวเมืองตรัง”ที่ต้องร้องเพลงรอไปอีกซักสมัย .. ก็ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ มี “ผู้ท้าชิง” จาก “ภายนอก”เข้ามาท้าทายเก้าอี้ “หัวหน้ามาร์ค”อีกอย่างน้อย 2 ราย .. หาก “อู๊ดด้า”หุนหัน ลงชิงชัย ก็เท่ากับจะตัดแต้มกันเองกับ“พ่อมาร์ค” ที่มีฐานสนับสนุนเดียวกันแล้วอาจจะพลาดพลั้งให้ “ตาอยู่”ได้ .. แม้สายของ “นายหัวชวน-ศิษย์มาร์ค”จะคลี่คลายไปด้วยดี แต่บรรยากาศโดยรวม “ค่าสีฟ้า”ยังอึมครึม ส่อให้เห็นถึงความตึงเครียดไม่น้อย .. ล่าสุด “หัวหน้ามาร์ค”นัดหมายกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ .. รุ่นใหญ่ตบเท้ามาครบครัน ทั้ง “บัญญัติ บรรทัดฐาน - เทอดพงษ์ ไชยนันทน์ - ไตรรงค์ สุวรรณคีรี - พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล - นิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ - สุทัศน์ เงินหมื่น”รวมทั้ง “เสี่ยไก่”จุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคด้วย .. คาดการณ์ว่าเป็นการหารือนอกรอบเกี่ยวกับการแก้ไขข้อบังคับพรรค ที่จะเปิดทางให้ “สมาชิกทั่วประเทศ”ร่วมโหวตเลือกหัวหน้าพรรคโดยตรง ..
เวลาเดียวกัน ถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกไปเป็นแกนนำ กปปส. นั่งอิ๊อ๋ออยู่กับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก แบบ “ตั้งใจเป็นข่าว”ในร้านกาแฟ หน้าที่ทำการพรรค .. เพิ่มน้ำหนักให้ข่าวที่ว่า “ถาวร”ที่มีร่างเงาของ “กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาพรรคฯ และอดีตแกนนำ กปปส. บุกพบ “อภิสิทธิ์”แสดงจุดยืนผลักดัน สนับสนุน “หมอวรงค์”ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค แล้วด้วย .. แค่ “อ้าปาก ก็เห็นลิ้นไก่” เมื่อทั้ง “ถาวร - วรงค์”พูดแบบ “มีเลศนัย” ในคีย์เดียวกันเกี่ยวกับ “ข่าวลือ”ว่า ยังไม่ขอพูดอะไร หากชัดเจนจะพูดอีกครั้ง .. รายของ “ถาวร”ยังไม่เท่าไร ด้วยรู้กันว่าเป็น “เด็กกำนัน”ที่ฝากเลี้ยงไว้เท่านั้น แต่รายของ “หมอวรงค์”ยิ่งพูด ยิ่งมัดตัวเอง .. กับคำปฏิเสธเป็นพัลวันว่า“ไม่รู้เรื่องอะไรเลย-ไม่เป็นความจริง”แต่ก็ “อ่อยแรง”ในประโยคเดียวกันว่า “ขอให้ทุกคนรอฟังความจริงจากปากของตัวเองเท่านั้น”..ทั้งที่ตามสถานะของ “หมอวรงค์”แล้ว หากมีข่าวที่สร้างความแตกแยกในพรรค ก็ควรออกตัว “ตัดไฟแต่ต้นลม”แต่นี่ไม่ กลับเลือกตีฝีปากสร้างความคลุมเครือ ต่อไป .. หนีไม่พ้นคำปรามาส ลับหลังว่า “ไม่ตักน้ำใส่กะโหลก” หลงไปกับคำยุยงจาก “แก๊งกำนัน”อาจหาญขอขึ้นแท่นคุมพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ ทั้งที่ดีกรีเทียบ “หัวหน้ามาร์ค”ไม่ติด หรือกระทั่งแคนดิเดตรายอื่นๆ แบบไม่เห็นฝุ่น .. ที่วางตาไม่ได้ น่าจะเป็นรายของ “เสี่ยจ้อน”อลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธาน สปช. ที่ชัดเจนแล้วว่า “เอาแน่”แม้ถูกดักคอว่าเป็น “นอมินีทหาร”ก็ตาม .. ติดก็แต่สถานะ “คนนอก”ลาออกจากพรรคไปคว้างานใหญ่-ตำแหน่งสูงในยุค คสช. นี่แหละ หากจะท้าชิงเก้าอี้เบอร์หนึ่งค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม ต้องใช้เสียง อดีต ส.ส.รับรองอย่างน้อย 40 คน ด้วยกัน .. แต่ก็ประมาทไม่ได้ด้วยถือธง “แนวร่วมทหาร”เหมือนกัน หาก “เสี่ยจ้อน - กำนันเทือก”จูนกันติดก็เรื่องใหญ่ไม่น้อย
ช.ชฎา